Bluesky เพิ่มเครื่องมือควบคุมการสนทนาและการกรองเนื้อหา หวังสร้างชุมชนที่สนุกและเคารพกันมากขึ้น
Bluesky แพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์กแบบกระจายศูนย์ (decentralized social network) ประกาศว่ามีผู้ใช้งานทะลุ 40 ล้านราย และเตรียมเปิดทดสอบฟีเจอร์ใหม่ “Dislikes” เพื่อใช้เป็นสัญญาณในการปรับแต่งฟีดหลักอย่าง Discover และหน้าอื่น ๆ ให้ตรงกับความสนใจของผู้ใช้มากยิ่งขึ้น

ฟีเจอร์ Dislikes จะช่วยให้ระบบของ Bluesky เรียนรู้ได้ว่า ผู้ใช้ไม่ต้องการเห็นเนื้อหาประเภทใดในอนาคต โดยการกด “ไม่ชอบ” จะไม่เพียงส่งผลต่อการจัดอันดับโพสต์ในฟีด แต่ยังมีผลต่อการจัดลำดับการตอบกลับ (reply ranking) ด้วย เพื่อให้ผู้ใช้เห็นบทสนทนาที่มีคุณภาพและใกล้เคียงกับความสนใจของตนมากที่สุด
Bluesky ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการทำให้แพลตฟอร์มเป็น “พื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนอย่างจริงใจ สนุก และเคารพกัน” หลังจากเกิดการถกเถียงเรื่องนโยบายการกลั่นกรองเนื้อหาบนแพลตฟอร์มในช่วงเดือนที่ผ่านมา
เพิ่มระบบควบคุมการสนทนาและลดความเป็นพิษในคอมเมนต์
นอกจากระบบ Dislikes แล้ว Bluesky ยังประกาศปรับปรุงเครื่องมือควบคุมการสนทนา (conversation controls) ให้ละเอียดขึ้น เช่น การตรวจจับข้อความที่เป็นพิษหรือสแปมได้แม่นยำกว่าเดิม รวมถึงปรับการทำงานของปุ่ม Reply ให้ผู้ใช้ถูกนำไปดูทั้งเธรดก่อนตอบ เพื่อช่วยลดการตอบซ้ำและทำให้บทสนทนาไม่กระจัดกระจาย
แพลตฟอร์มยังเพิ่มความสามารถให้ผู้ใช้ควบคุมสิทธิ์การตอบกลับโพสต์ของตนได้ง่ายขึ้น พร้อมปรับปรุงระบบ “moderation lists” ที่ช่วยให้ผู้ใช้บล็อกหรือกรองกลุ่มบัญชีที่ไม่ต้องการได้รวดเร็วกว่าเดิม รวมถึงระบบ muted words และตัวกรองเนื้อหา (content filters)
ฟีเจอร์ “Social Neighborhoods” แสดงเครือข่ายการสนทนาที่ใกล้ชิด
อีกหนึ่งการอัปเดตสำคัญคือระบบ “Social Neighborhoods” ซึ่งจะทำแผนที่ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้ที่มักตอบหรือโต้ตอบกันบ่อย เพื่อจัดลำดับความสำคัญของคอนเทนต์จาก “เพื่อนบ้าน” หรือกลุ่มผู้ใช้ที่มีปฏิสัมพันธ์ใกล้ชิดมากกว่า
Bluesky ระบุว่าแนวทางนี้จะช่วยให้ฟีดของผู้ใช้มีความคุ้นเคยและเชื่อมโยงกับชุมชนของตนมากขึ้น ซึ่งอาจช่วยลดปัญหาฟีดที่สับสนเหมือนใน Threads ของ Meta ที่มักแสดงโพสต์จากบทสนทนาที่ผู้ใช้ไม่เกี่ยวข้องโดยตรง
ด้วยการรวมระบบ Dislikes เข้ากับการเรียนรู้เชิงพฤติกรรมและโมเดลการจัดอันดับใหม่ Bluesky ตั้งเป้าจะยกระดับประสบการณ์การใช้งานให้เป็นมิตรกับผู้ใช้และชุมชนมากขึ้น พร้อมสร้างสมดุลระหว่างอิสระในการแสดงออกกับคุณภาพของบทสนทนาในระยะยาว
ที่มา – techcrunch.com
Leave a Reply