Meta กำลังเผชิญปัญหาเรื่อง AI กับการลงทุนมหาศาลแต่ไม่มีผลิตภัณฑ์ AI ไหนเลยที่สร้างรายได้อย่างเป็นรูปธรรม

Meta | การใช้จ่ายหลายหมื่นล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐานและบุคลากร AI ยังไม่ก่อรายได้จริง ขณะที่แรงกดดันจากนักลงทุนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง


มีรายงานข่าวระบุว่า Meta กำลังเผชิญปัญหาผลิตภัณฑ์ด้าน AI ที่ยังไม่สามารถสร้างรายได้อย่างเป็นรูปธรรม แม้บริษัทจะทุ่มเงินลงทุนอย่างมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐานและบุคลากรด้าน AI

ในไตรมาสล่าสุด Meta มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นกว่า 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีค่าใช้จ่ายด้านทุนเพิ่มขึ้นเกือบ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ จากปีก่อนหน้า โดย Mark Zuckerberg ระบุว่าเป็นการลงทุนเพื่อเร่งพัฒนาโมเดลใหม่ใน Superintelligence Lab ที่จะเป็นหัวใจของยุค AI รุ่นต่อไป

Zuckerberg กล่าวกับนักวิเคราะห์ว่า *“The right thing to do is to try to accelerate this to make sure that we have the compute that we need… when we get the new models that we’re building in MSL… this is just a massive latent opportunity.”* (สิ่งที่ถูกต้องคือต้องเร่งพัฒนาเพื่อให้เรามีศักยภาพด้านการประมวลผลที่เพียงพอ เมื่อโมเดลใหม่จาก MSL พร้อม นี่จะเป็นโอกาสมหาศาลที่ซ่อนอยู่)

อย่างไรก็ตาม คำชี้แจงดังกล่าวไม่สามารถสร้างความมั่นใจในหมู่นักลงทุนได้ ราคาหุ้นของ Meta ร่วงลงกว่า 12% ภายในสองวันหลังการประกาศผลประกอบการ คิดเป็นมูลค่าตลาดที่หายไปกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

แม้ Meta จะมีกำไรสุทธิสูงถึง 20,000 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสเดียว แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ค่าใช้จ่ายด้าน AI เริ่มส่งผลต่อกำไรอย่างชัดเจน โดยนักวิเคราะห์ตั้งคำถามว่า “เงินจำนวนมหาศาลนี้ซื้ออะไรได้จริง” เพราะจนถึงตอนนี้ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ AI ที่สร้างรายได้ตรง

ในขณะที่บริษัทอื่นอย่าง Google และ Nvidia ก็ลงทุนใน AI เช่นกัน แต่กลับไม่ถูกตลาดลงโทษ เพราะมีผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้จริง ส่วน OpenAI มีรายได้ต่อปีมากกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมฐานผู้ใช้เติบโตต่อเนื่อง

ผลิตภัณฑ์ AI ของ Meta ในปัจจุบัน เช่น Meta AI assistant ที่มีผู้ใช้งานกว่า 1 พันล้านราย ระบบสร้างวิดีโอ Vibes และแว่นอัจฉริยะ Vanguard ยังอยู่ในขั้นทดลองมากกว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ที่สร้างรายได้จริง

Zuckerberg ยืนยันว่าบริษัทกำลังพัฒนาโมเดล AI รุ่นใหม่ภายใต้ทีม Superintelligence Lab โดยกล่าวว่า *“We expect to build novel models and novel products, and I’m excited to share more when we have it.”* (เราคาดว่าจะสร้างโมเดลและผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน และผมตื่นเต้นที่จะเปิดเผยมากกว่านี้เมื่อถึงเวลา)

อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ Meta ยังไม่มีทิศทางชัดเจนว่าจะใช้ AI เพื่อแข่งขันกับ ChatGPT หรือมุ่งสู่ตลาดองค์กรผ่าน Business AI ขณะที่นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามว่า “เงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์ที่ใช้ไป จะให้ผลตอบแทนจริงเมื่อใด”

Meta จึงอยู่ในจุดที่ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า การลงทุนระดับมหาศาลใน AI จะสร้างคุณค่าได้จริง ไม่ใช่เพียงคำมั่นในอนาคตที่ยังไม่มีรูปเป็นร่าง

ที่มา – techcrunch.com

About modify 6351 Articles
สามารถนำบทความไปเผยแพร่ได้อย่างอิสระ โดยกล่าวถึงแหล่งที่มา เป็นลิงค์กลับมายังบทความนั้นๆ บทความอาจมีการพิมพ์ตกเรื่องภาษาไปบ้าง ต้องขออภัย พยามจะพิมพ์ผิดให้น้อยที่สุด (ทำเว็บคนเดียวไม่มีคนตรวจทาน) บทความที่สอนเรื่องต่างๆ กรุณาอ่านบทความให้เข้าใจก่อนโพสต์ถาม ติดตรงไหนสามารถถามได้ที่โพสต์นั้นๆ

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.