เราคงจะได้ยินข่าวหรือเจอกับตัวเองว่า ร้านค้าบางร้านหรือสถานที่ต่างๆไม่ยอมรับเหรียญ 25, 50 สตางค์ จ่ายสินค้าต่างๆ ทำให้หลายคนสงสัยว่าจริงๆแล้วเหรียญดังกล่าว สามารถชำระหนี้ได้ตามกฏหมายหรือไม่ และมีกฏข้อบังคับอะไรบ้าง

ก่อนที่จะทราบว่าเหรียญ 25, 50 สตางค์ ใช้หนี้ได้ตามกฏหมายหรือไม่ เรามารู้ว่าตอนนี้เหรียญในเมืองไทยมีเหรียญอะไรบ้างที่เป็น “เหรียญกษาปณ์หมุนเวียน (Circulated coins)“ มีทั้งหมด 9 ชนิดได้แก่ เหรียญราคา 10 บาท, 5 บาท, 2 บาท, 1 บาท, 50 สตางค์, 25 สตางค์, 10 สตางค์, 5 สตางค์ และ 1 สตางค์ เราอาจะไม่ได้เห็นเหรียญบางราคาเพราะไม่ค่อยนิยมใช้กันแล้ว

โดยตามกฏหมายแล้วเหรียญดังกล่าวสามารถใช้หนี้ได้ตามกฏหมาย แต่มีข้อจำกัดว่าเหรียญแต่ละชนิดไม่สามารถใช้หนี้ได้ตามกฏหมายทีละมากๆ กล่าวคือ เหรียญ ต่างๆ ไม่สามารถใช้หนี้ได้ทีละเยอะๆ อาทิเช่น เหรียญ 25, 50 สตางค์ ไม่สามารถใช้หนี้ได้ตามกฏหมายเกินกว่า 10 บาท โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

เอาจริงๆแล้วเหรียญทั้ง 9 สามารถชำระหนี้ได้ตามกฏหมายดังต่อไปนี้

• เหรียญ 1 สตางค์ ชำระหนี้ได้ครั้งละไม่เกิน 5 บาท
• เหรียญ 5, 10, 25, 50 สตางค์ ชำระหนี้ได้ครั้งละไม่เกิน 10 บาท
• เหรียญ 1 บาท ชำระหนี้ได้ครั้งละไม่เกิน 500 บาท
• เหรียญ 5 บาท ชำระหนี้ได้ครั้งละ ไม่เกิน 500 บาท
• เหรียญ 10 บาท ชำระหนี้ได้ครั้งละไม่เกิน 1,000 บาท

เรารู้แล้วอย่างนี้ ก็จะทำให้เราเข้าใจได้มากขึ้นว่า จริงๆแล้ว ไม่ใช้ว่าเราสามารถจ่ายเงิน 1 บาทซื้อของหรือชำระหนี้ได้ เป็นพันเป็นหมื่น เพราะมีกฏหมายกำหนดเอาไว้แล้ว เพื่อกันไม่ให้คนใช้เหรียญไปซื้อของ ลองคิดภาพดูจากมีคนบ้าจี้เอาเหรียญบาททั้งหมดไปซื้อรถสักค้น คนจะนั่งนับกันตาเหลือกอย่างแน่นอน

แล้วหากมีเหรียญเยอะๆ ควรทำอย่างไร?

ก็ถ้าหากเรามีเหรียญเยอะๆ เราก็ควรนำไปฝากธนาคารหรือแลกธนาคาร ไม่ก็หาคนที่ต้องการเหรียญจากที่ต่างๆ แต่หากต้องการฝากธนาคารหรือแลก บางธนาคารจะมีการเรียกเก็บเงินค่านับ ถือเป็นธรรมเนียบปกติ โดยถือเป็นค่าธรรมเนียบการรับฝากเหรียญ ก็ถือว่าเป็นความรู้ที่น่าสนใจครับ