X
MODIFY: Technology News
Technology, Innovation, and Education เทคนิดการใช้งาน สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ เรื่องไอที

มือถือ Android ช้า อืด ค้าง รีสตาร์ทเอง เป็นเพราะอะไร แก้ไขเบื้องต้นอย่างไร

น่าจะเป็นปัญหาโลกแตกไปแล้วว่า ทำไมถือถือค้า ช้า หรือไม่ถึงกับขั้น รีสตาร์ทเองตลอดเวลา หลายคนคงอยากจะได้คำตอบว่าจริงๆมันเกิดจากอะไรแล้ว มีวิธีแก้ปัญหาไหม ก่อนเราจะทราบถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา เรามาดูก่อนว่าการค้าง หรือเครื่องทำงานช้าของสาร์ทโฟน เกิดจากอะไร

สาเหตุของเครื่องช้า ค้าง หรือ  รีสตาร์ทเอง

  • ปัญหาเกิดจากสเปคอุปกรณ์ ดังที่หลายคนเข้าใจ อุปกรณ์มือถือ มีสเปค แต่ละรุ่นแต่ละยี้ห้อไม่เหมือนกัน เร็วบ้างช้าบ้าง มีคุณภาพบ้างไม่มีคุณภาพบ้าง ส่วนนี้เองเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งที่ทำให้เครื่องเราค้างหรือ รีสตาร์ทเองบ่อยๆ ปัญหาอันเกิดจากสเปค นี้ค่อนข้างแก้ไขลำบาก คงต้องพยามที่จะลดการทำงานของเครื่องให้น้อยลง เพื่อให้สามารถใช้งานได้ดีที่สุด เพราะหากเครื่องมีสเปคที่น้อยแล้ว คงเรียกทำงานของแอพมากๆไม่ไหว ทำให้เครื่องช้าและค้างได้นั้นเอง
  • ปัญหาเกิดจากอุปกรณ์ ปัญหานี้จะคล้ายๆข้อแรก แต่จะต่างกันที่ว่า สเปคหรือยี้ห้ออาจจะดีแล้ว แต่ติดที่ว่ามันมีจุดยกพร่อง มีปัญหา ก็อาจส่งผลทำให้อุปกรณ์มือถือช้าลงค้างนั้นเอง ปัญหาในส่วนนี้อาจะต้องทำการอัพเกรดเฟรมแวร์ หรือไม่ก็ต้องส่งซ่อม หากมีปัญหาในจุดต่างๆ
  • ปัญหาเกิดจาก แอพพลิเคชั่น ปัญหาดังกล่าว เกิดขึ้นได้ หากมีแอพบางตัวค้าง หรือทำงานผิดปกติ ซึ่งจะทำให้เครื่องทำงานหนัก และเกิดอากาศค้างได้ การแก้ปัญหานี้คงต้องไล่หาว่าแอพไหนทำงานเป็นอย่างไร กินทรัพยากรไปเท่าไหร่ อาจจะทำการลบหรือตั้งค่าให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ

การแก้ไขเบื้องต้น ถ้าเครื่อง Android เกิดมีปัญหาค้างหรือรีสตาร์ท บ่อยๆ

  • ปิดแอพที่ไม่ได้ทำการใช้งาน โดยเข้าไปในส่วนของแอพพลิเคชั่น แอพที่รันอยู่ แล้ว “บังคับให้หยุด”
  • ให้ทำการรีสตาร์ท โดยอาจทำให้แบบรีสตาร์ทเครื่องธรรมดา หรือจะทำแบบ hardreset หรือ softreset ก็ได้
  • ตรวจการอัพเดทจากบริการต่างๆ ของยี้ห้อนั้นๆ แน่นอนว่า หากเครื่องมีปัญหาด้านการค้างหรือมีปัญหา อาจเกิดจากแฟรมแวร์มีปัญหาก็เป็นไปได้ ฉนั้น หากมีปัญหาน่าจะมีการอัพเดทจากเจ้าของสินค้านั้นๆอออกมา
  • หากเครื่องยังมีปัญหาให้เข้าสู่โหมดความปลอดภัย เพื่อดูว่าแอพตัวไหนมีปัญหาแล้วทำการลบออกเสีย (การเข้าโหมดความปลอดภัย สามารถทำได้โดยการ กดปุ่มปิดเปิดเครื่องค้างเอาไว้ จากนั้น จะมีเมนูขึ้นว่าจะปิดเครื่อง ให้กดค้างที่หน้าจออีกที ที่ปิดเครื่อง จะมีให้เข้าสู่โหมดความปลอดภัยอีกครั้ง เราสามารถเข้าไปลบแอพที่ทำให้เครื่องค้าง หรือมีปัญหา (อาจจะเป็นแอพที่ติดตั้งล่าสุดแล้วทำให้มีปัญหาเครื่องค้างจนไม่สามารถ เข้าลบได้) การเข้าสู่โหมดนี้จะคล้ายๆกับ เซฟโหมดใน Windows นั้นเอง

สรุปการแก้ไขปัญหาแบ่งออกเป็น 2 กรณี คือเกิดจากตัวอุปกร์เอง และ เกิดจากการผิดพลาดของซอฟแวร์แอพพลิเคชั่น หากเกิดจากอุปกรณ์เราก็ไม่สามารถแก้อะไรเองได้มาก นอกจากส่งซ่อมหรือส่งเข้าศูนย์ แต่หากเกิดจากซอฟแวร์หรือแอพพลิเคชั่น อาจจะแบ่งได้เป็น 2 กรณี คือ แอพที่เราสามารถแก้ไขเองได้ กับซอฟแวร์แบบแฟรมแวร์ ฉนนั้นการตรวจสอบมือถือว่ามีปัญหาตรงไหน ควรจะค่อยๆ สังเกต และทำการวิเคราะห์ด้วยตัวเอง ค่อยๆหาสาเหตุของปัญหา หากไม่ไหวจริงๆก็ให้ส่งให้ช่างผู้ชำนาญการน่าจะดีที่สุด

View Comments (2)

  • ให้พี่เขยแก้ไขแล้วแต่เหมือนเขาไม่ทำอะไรเลยหรือเป็นเพราะย้ายแรมข้อมูลออกจากCAT