สำหรับผู้ใช้งาน Windows 10 หรือ Windows 11 หากเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมาแล้วขึ้นข้อความ “Your password has expired and must be changed.” ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเกิดจากอะไร และต้องทำอย่างไร เพราะบางคนยังไม่เข้าใจการแจ้งเตือนนี้ บทความนี้จะแนะนำการตั้งค่า หากคุณเจอกับการแจ้งเตือนดังกล่าว

ข้อความดังกล่าวจะเป็นรายงานตามข้อความที่รายงานคือ “Your password has expired and must be changed” แปลได้ว่า “รหัสผ่านของคุณหมดอายุ จำเป็นต้องเปลี่ยนรหัสผ่าน” การที่บางครั้งขึ้นข้อความในลักษณะนี้ อาจเกิดจาการตั้งค่ารหัสผ่านล่าสุด ไม่ได้กำนหนดระยะเวลาของรหัสผ่าน หรือกำหนดไว้ให้ Password never expires คือรหัสผ่านไม่มีวันหมดอายุ เมื่อถึงกำหนดทาง Windows จะให้เรากำหนดรหัสผ่านใหม่ ให้คุณตอบ OK และทำการตั้งรหัสผ่านใหม่

ให้ใส่รหัสผ่านเก่าลงไป หรือไม่ต้องใส่รหัสผ่าน ในกรณีก่อนหน้านี้ไม่ได้ใส่รหัสผ่าน จากนั้นให้สร้างรหัสผ่านใหม่ หากต้องการสร้างรหัสผ่านใหม่

1. Password ใส่รหัสผ่านเก่า
2. New password กำหนดรหัสผ่านใหม่ หากไม่ต้องการให้มีให้ว่างเอาไว้
3. Confirm password ใส่เหมือนกันกับข้อ 2
4. กำหนดเสร็จให้กด → หลังข้อความ Confirm password

เมื่อกด → หากรหัสผ่านเก่าถูกจะขึ้นข้อความ “Your password has been changed”

ให้กด Ok เครื่องจะเปิดขึ้นมาปกติ จากนั้นให้ไปกำหนดให้รหัสผ่านของเราไม่มีวันหมดอายุ จะได้ไม่ต้องมาตั้งค่าแบบนี้อีก ให้คลิ๊กขวาที่ปุ่ม Start เลือก Computer Management

เลือกเมนู local Users and Groups > Users มองหา User ที่เราต้องการจะแก้ไข แล้วดับเบิ้ลคลิ๊กขึ้นมา

ให้ติ๊กถูกที่เมนู Password never expires จากนั้นให้กดที่ Apply และ OK ออกมา

เพียงเท่านี้รหัสผ่านของเราก็จะไม่มีหมดอายุแล้ว แต่หากให้รหัสผ่านมีการกำหนดบ่อยๆ เพื่อเตือนเราเกี่ยวกับการเปลี่ยนรหัสผ่าน ก็สามารถทำได้ เราจะได้รับการแจ้งเตือนให้เปลี่ยนรหัสผ่านหมดอายุ โดยปกติแล้วรหัสผ่าน Windows จะหมดอายุในทุกๆ 6 เดือน