สำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์เบื้องต้น สิ่งแรกที่คุณต้องศึกษาและจำเป็นต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก นั้นก็คือคีบอร์ด คีย์บอร์ดมีหน้าที่ในการส่งข้อมูลเข้าไปยังคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการพิมพ์ตัวอักษรที่เราพิมพ์เข้าไปเพื่อให้แสดงในเอกสาร หรือใช้ในการสั่งการ นอกจากนั้นคีย์บอร์ดยังทำหน้าที่เป็นตัวส่งคำสั่งผ่านคีย์ลัดต่างๆ บทความนี้จะมาอธิบายความหมายของคีย์ต่างๆบน Keyboard คอมพิวเตอร์สำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์เบื้องต้น

คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์มีหลายปุ่มที่ทำหน้าที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มตามประเภทและฟังก์ชัน

ปุ่มตัวอักษร (Alphabet Keys)

• A-Z: ปุ่มเหล่านี้ใช้สำหรับพิมพ์ตัวอักษรภาษาอังกฤษแต่ละตัว รวมถึงการใช้ร่วมกับปุ่ม Shift เพื่อพิมพ์ตัวอักษรตัวใหญ่ (Uppercase) หรือใช้งานร่วมกับปุ่ม Ctrl และ Alt สำหรับคำสั่งลัดในโปรแกรมต่าง ๆ.

ปุ่มตัวเลข (Numeric Keys)

• 0-9: ใช้สำหรับพิมพ์ตัวเลข ปุ่มเหล่านี้มีอยู่สองตำแหน่งบนคีย์บอร์ด
  • ปุ่มตัวเลขด้านบนแถวตัวอักษร: ใช้พิมพ์ตัวเลขปกติ
  • Numeric Keypad (ถ้ามี): กลุ่มปุ่มตัวเลขทางขวามือของคีย์บอร์ด (ในบางรุ่นที่มีขนาดใหญ่ใช้กันในคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ) ซึ่งช่วยให้พิมพ์ตัวเลขได้รวดเร็วขึ้น โดย Numeric Keypad ยังมีปุ่มเสริมเช่น *Num Lock, /, , -, +, Enter

ปุ่มสัญลักษณ์ (Symbol Keys)

• ! @ # $ % ^ & * ( ) – _ = + [ ] { } \ | ; : ‘ ” , < . > / ?: ปุ่มเหล่านี้ส่วนมากต้องใช้ร่วมกับปุ่ม Shift เพื่อพิมพ์สัญลักษณ์ที่อยู่บนแป้น ปุ่มบางตัวเช่น =, -, [, ] สามารถกดพิมพ์ได้โดยตรง

ปุ่มฟังก์ชัน (Function Keys)

• F1-F12: ปุ่มเหล่านี้ทำหน้าที่พิเศษที่แตกต่างกันไปในแต่ละโปรแกรม ตัวอย่างเช่น
  • F1: มักใช้เปิดหน้าต่างช่วยเหลือ (Help) ของโปรแกรมที่กำลังใช้งาน
  • F2: ใช้เปลี่ยนชื่อไฟล์หรือโฟลเดอร์ใน Windows Explorer
  • F3: เปิดการค้นหาไฟล์หรือข้อความในโปรแกรมบางโปรแกรม
  • F4: ใช้ร่วมกับ Alt เพื่อปิดโปรแกรมที่เปิดอยู่
  • F5: รีเฟรชหน้าเว็บในเบราว์เซอร์หรือรีเฟรชหน้าต่างใน File Explorer
  • F6: เลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่แถบที่อยู่ (Address bar) ในเบราว์เซอร์
  • F7: ใช้ตรวจสอบการสะกดคำและไวยากรณ์ในโปรแกรมประมวลผลคำบางโปรแกรม
  • F8: ใช้เพื่อเข้า Safe Mode ตอนบูตเครื่องใน Windows
  • F9: รีเฟรชเอกสารใน Microsoft Word หรือใช้ส่งและรับอีเมลใน Microsoft Outlook
  • F10: เปิดใช้งานเมนูในโปรแกรมต่าง ๆ
  • F11: เปิด/ปิดโหมดเต็มหน้าจอในเบราว์เซอร์
  • F12: ใช้เปิดหน้าต่าง Save As ใน Microsoft Word

ปุ่มควบคุม (Control Keys)

• ปุ่ม Ctrl (Control) หน้าที่ : ปุ่มนี้ใช้ร่วมกับปุ่มอื่น ๆ เพื่อสร้างคำสั่งลัด ตัวอย่างเช่น
  • Ctrl+C: คัดลอก
  • Ctrl+V: วาง
  • Ctrl+X: ตัด
  • Ctrl+Z: ยกเลิกคำสั่งก่อนหน้า (Undo)
  • Ctrl+S: บันทึกเอกสาร
  • Ctrl+P: พิมพ์เอกสาร
• ปุ่ม Alt (Alternate) หน้าที่: ปุ่มนี้ใช้ร่วมกับปุ่มอื่นเพื่อเข้าถึงฟังก์ชันหรือเมนูต่าง ๆ เช่น
  • Alt+Tab: สลับหน้าต่างโปรแกรมที่เปิดอยู่
  • Alt+F4: ปิดหน้าต่างโปรแกรมที่กำลังใช้งาน
  • Alt+Space: เปิดเมนูของหน้าต่างโปรแกรมที่กำลังใช้งาน
• ปุ่ม Shift หน้าที่: ใช้เพื่อเปลี่ยนตัวอักษรจากเล็กเป็นใหญ่ หรือใช้พิมพ์สัญลักษณ์ที่อยู่ด้านบนของแป้น
• ปุ่ม Esc (Escape) หน้าที่: ใช้ยกเลิกคำสั่งปัจจุบัน ปิดหน้าต่าง หรือหยุดการทำงานบางอย่าง
• ปุ่ม Tap หน้าที่: ใช้ในการจัดระเบียบข้อมูลในเอกสาร หรือการเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งที่กำหนดในฟอร์มและโปรแกรมต่าง ๆ
• ปุ่ม Caps Lock หน้าที่: ใช้เพื่อเปิดใช้งานการพิมพ์ตัวอักษรตัวใหญ่ (uppercase) หรือเปลี่ยนหน้าตัวอักษรในกรณีมีภาษาอื่นๆนอกจากภาษาอังกฤษ ยกตัวอย่างเช่น ภาษาไทย โดยไม่ต้องกดปุ่ม Shift ค้างไว้

ปุ่ม Ctrl และ ALT ด้านซ้ายกับขวาต่างกันหรือไม่? ทั้ง 2 ปุ่มฟังก์ชันหลักในการทำงานเหมือนกันทั้งซ้ายและขวา แต่อาจแตกต่างกันไปบ้างในบางกรณีแล้วแต่เกมแล้วแต่โปรแกรมที่ใช้งาน เพราะ 2 ข้างสามารถสั่งการจากผู้พัฒนาได้ว่าให้ทำงานต่างกัน ดังนั้นขึ้นอยู่กับโปรแกรมที่คุณใช้งาน แต่โดยรวมแล้วฟังก์ชันหลักของทั้งสองข้างเหมือนกันทุกอย่าง

ปุ่มควบคุมการเคลื่อนที่ (Navigation Keys)

• ลูกศร (Arrow Keys): ใช้เลื่อนเคอร์เซอร์หรือหน้าต่างขึ้น ลง ซ้าย ขวา
• Home: เลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่จุดเริ่มต้นของบรรทัด
• End: เลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่จุดสิ้นสุดของบรรทัด
• Page Up/Page Down: เลื่อนหน้าเอกสารหรือหน้าเว็บขึ้นหรือลงทีละหนึ่งหน้าจอ
• Insert: สลับระหว่างโหมดแทรกและโหมดเขียนทับ เมื่อพิมพ์ข้อความ
• Delete: ลบตัวอักษรที่อยู่หลังเคอร์เซอร์หรือลบไฟล์ใน Windows

ปุ่มฟังก์ชันพิเศษ (Special Function Keys)

• Print Screen (PrtScn): ถ่ายภาพหน้าจอทั้งหมดแล้วเก็บไว้ในคลิปบอร์ด และไปวางในเอกสารต่างๆได้ หรือในบางกรณี Windows จะจับภาพหน้าจอไว้ในโฟลเดอร์ Screenshots ให้เองโดยอัตโนมัติเมื่อกดปุ่ม
• Scroll Lock: เดิมใช้ล็อกการเลื่อนของหน้าจอในโปรแกรมบางโปรแกรม แต่ปัจจุบันไม่ค่อยมีการใช้งาน
• Pause/Break: ใช้หยุดหรือเริ่มการทำงานของโปรแกรมบางโปรแกรม เช่น DOS

ปุ่มสเปซบาร์ (Space Bar)

• ปุ่มสเปซบาร์ (Space Bar) เป็นปุ่มที่ยาวที่สุดบนคีย์บอร์ด และตั้งอยู่ที่ด้านล่างของแป้นพิมพ์ ปุ่มนี้มีหน้าที่หลักในการเพิ่มช่องว่างระหว่างตัวอักษร คำ หรือตัวเลขในข้อความ ปุ่มสเปซบาร์ถือเป็นหนึ่งในปุ่มที่ถูกใช้บ่อยที่สุดเมื่อทำงานพิมพ์หรือเขียนเอกสารต่าง ๆ นอกจากจะทำหน้าที่เพิ่มช่องว่างแล้ว ในบางโปรแกรมปุ่ม Space Bar ยังทำหน้าที่อื่นๆได้อีกอาทิเช่น การเลื่อนเนื้อหาในบางโปรแกรม, การหยุดหรือเล่นวิดีโอหรือเพลง, ใช้ในการยืนยันคำสั่งหรือสั่งการในเกมบางเกมอาจให้ปุ่มนี้ในการกระโดด เป็นต้น

ปุ่ม Enter (Return)

• ใช้ยืนยันคำสั่ง เช่น การส่งข้อความในโปรแกรมแชท การยืนยันคำสั่งใน Command Prompt หรือเริ่มบรรทัดใหม่ในโปรแกรมประมวลผลคำ

ปุ่ม Windows (Windows Key)

• เปิดเมนู Start ใน Windows หรือใช้ร่วมกับปุ่มอื่นๆ เช่น:
  • Windows+L: ล็อกหน้าจอ
  • Windows+D: ย่อ/ขยายหน้าต่างทั้งหมด
  • Windows+E: เปิด File Explorer
  • Windows+R: เปิดหน้าต่าง Run

ปุ่มเมนู (Menu Key)

• เปิดเมนูคำสั่งลัดที่คล้ายกับการคลิกขวาใน Windows

ปุ่ม FN (Function)

ปุ่ม FN (Function) เป็นปุ่มที่พบในคีย์บอร์ดของแล็ปท็อปและคีย์บอร์ดบางรุ่น ซึ่งใช้เพื่อเข้าถึงฟังก์ชันพิเศษที่ถูกจัดกลุ่มไว้ร่วมกับปุ่มฟังก์ชัน (F1-F12) หรือปุ่มอื่น ๆ บนคีย์บอร์ด

ฟังก์ชันหลักของปุ่ม FN

1. การเข้าถึงฟังก์ชันพิเศษ:
   • ปุ่ม FN ใช้ร่วมกับปุ่มฟังก์ชัน (F1-F12) เพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชันพิเศษ เช่น
     • FN + F1: ปิดการทำงานของหน้าจอหรือเปิดเมนูช่วยเหลือ
     • FN + F2: ลดความสว่างของหน้าจอ
     • FN + F3: เพิ่มความสว่างของหน้าจอ
     • FN + F4: เปลี่ยนโหมดหน้าจอ (เช่น โหมดการแสดงผลภายนอก)
     • FN + F5: ปิดเสียง (mute) หรือควบคุมเสียง
     • FN + F6: ลดระดับเสียง
     • FN + F7: เพิ่มระดับเสียง
     • FN + F8: ควบคุมการเล่นสื่อ (play/pause)
     • FN + F9: ข้ามเพลงหรือวิดีโอไปข้างหน้า
     • FN + F10: ข้ามเพลงหรือวิดีโอไปข้างหลัง
     • FN + F11: หยุดการเล่นสื่อ
     • FN + F12: เปิดหรือปิด Wi-Fi หรือ Bluetooth
2. การทำงานร่วมกับปุ่มตัวเลข
   • บนแล็ปท็อปบางรุ่น ปุ่ม FN ใช้ร่วมกับปุ่มตัวเลข (Numeric Keypad) เพื่อเปลี่ยนการทำงานของปุ่มเหล่านี้จากการพิมพ์ตัวเลขเป็นการควบคุมการเคลื่อนที่ เช่น การเลื่อนเคอร์เซอร์
3. การควบคุมการทำงานของแป้นพิมพ์
   • ปุ่ม FN สามารถใช้ร่วมกับปุ่มต่าง ๆ เพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชันเพิ่มเติม เช่น
     • FN + Arrow Keys: ใช้ควบคุมการเลื่อนหน้าจอ
     • FN + Esc: เปิด/ปิดฟังก์ชันการทำงานของคีย์บอร์ดที่มีฟังก์ชันพิเศษ
4. การใช้งานร่วมกับปุ่มอื่น ๆ
   • ปุ่ม FN ยังสามารถใช้ร่วมกับปุ่มอื่น ๆ บนคีย์บอร์ดเพื่อเข้าถึงฟังก์ชันเฉพาะที่จัดเตรียมไว้โดยผู้ผลิตคีย์บอร์ด เช่น การเปิดโปรแกรมที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า

หมายเหตุ

• การเปลี่ยนฟังก์ชันของปุ่ม FN บางคีย์บอร์ดหรือแล็ปท็อปมีการตั้งค่าให้ปุ่ม FN ทำงานตรงข้าม (เช่น FN + F1 เป็นการเพิ่มความสว่างแทนการลด) ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้จากการตั้งค่า BIOS/UEFI หรือซอฟต์แวร์การจัดการคีย์บอร์ด.

ปุ่ม FN จึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงฟังก์ชันพิเศษต่าง ๆ ได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น

คีย์บอร์ดเป็นเครื่องมือสำคัญในการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ช่วยให้เราสามารถป้อนข้อมูลและสั่งงานโปรแกรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับปุ่มต่าง ๆ บนคีย์บอร์ดและฟังก์ชันของพวกมันสามารถช่วยให้เราทำงานได้รวดเร็วและสะดวกมากขึ้น

ข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับคีย์บอร์ด

• การใช้งานที่สะดวก เลือกคีย์บอร์ดที่เหมาะกับความต้องการของคุณ เช่น คีย์บอร์ดที่มีปุ่มพิเศษสำหรับการเล่นเกม หรือคีย์บอร์ดที่มีการออกแบบที่ช่วยลดความเมื่อยล้าจากการพิมพ์
• การดูแลรักษา ทำความสะอาดคีย์บอร์ดอย่างสม่ำเสมอเพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมของฝุ่นและสิ่งสกปรกที่อาจทำให้ปุ่มไม่ทำงานอย่างถูกต้อง
• การปรับแต่ง ใช้ซอฟต์แวร์หรือการตั้งค่าในระบบปฏิบัติการเพื่อปรับแต่งปุ่มลัดและฟังก์ชันต่าง ๆ ตามความต้องการของคุณ
• การเลือกคีย์บอร์ดที่เหมาะสม เลือกคีย์บอร์ดที่มีการตอบสนองที่ดีและมีการออกแบบที่ตรงกับการใช้งานของคุณ เช่น คีย์บอร์ดที่มีปุ่มเสียง, ปุ่มฟังก์ชันเพิ่มเติม, หรือการออกแบบที่สะดวกต่อการพิมพ์ตามความถนัดของคุณ
• การใช้ฟังก์ชันพิเศษ ใช้ปุ่มฟังก์ชันและคำสั่งลัดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น การใช้ Ctrl + C เพื่อคัดลอก และ Alt + Tab เพื่อสลับหน้าต่าง ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยให้คุณทำงานง่ายและสะดวกขึ้น

คีย์บอร์ดเป็นส่วนสำคัญในการทำงานกับคอมพิวเตอร์ และการรู้จักและใช้งานปุ่มต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกมากขึ้น