X
MODIFY: Technology News
Technology, Innovation, and Education เทคนิดการใช้งาน สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ เรื่องไอที

แคช (Cache) คืออะไร ทำไมต้องเคลียร์ ลบแคช ลบแล้วไม่ออกกลับมาเหมือนเดิม

มารู้จัก แคช (Cache) ทำไมต้องมี สำคัญอย่างไร ทำไมต้องลบ ทำไมต้องล้าง Cache มีหน้าที่อะไรกันแน่

คุณอาจเคยได้ยินคำว่า “แคช” (Cache) บทความนี้จะขอพูดถึงแคชให้เข้าใจแบบง่ายๆ ว่าแคชมีความสำคัญอย่างไร ทำไมต้องล้าง ทำไมต้องลบ ลบไปแล้วกลับมาใหม่ จริงๆแล้วแคชมีหน้าที่อะไรบ้าง มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Cache ให้มากขึ้นในบทความนี้กัน

แคช (Cache) เป็นส่วนหนึ่งของระบบที่มีหน้าที่ในการเก็บข้อมูลชั่วคราวเพื่อช่วยให้การทำงานของระบบเร็วขึ้น โดยแคชจะเก็บข้อมูลที่ถูกใช้บ่อย ๆ หรือที่คาดว่าจะถูกเรียกใช้ซ้ำในระยะเวลาอันสั้น ทำให้เมื่อข้อมูลเหล่านั้นถูกเรียกใช้ขึ้นมาอีกครั้ง ระบบจะสามารถดึงข้อมูลจากแคชมาใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาไปดึงข้อมูลจากหน่วยความจำหลัก (RAM) หรือจากดิสก์ ซึ่งจะใช้เวลานานกว่า

แคชมีหลายประเภทขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่แคชทำงาน เช่น

  • CPU Cache: แคชที่อยู่ในหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) ซึ่งใช้สำหรับเก็บคำสั่งและข้อมูลที่ CPU ใช้งานบ่อยที่สุด การมี CPU Cache ช่วยให้การประมวลผลของ CPU มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะลดความจำเป็นในการเข้าถึงหน่วยความจำหลักซึ่งช้ากว่า
  • Memory Cache: แคชที่ใช้ในหน่วยความจำ (RAM) สำหรับเก็บข้อมูลที่ถูกเรียกใช้บ่อยจากดิสก์ เช่น ข้อมูลที่ถูกใช้ในการรันโปรแกรมหรือระบบปฏิบัติการ การใช้ Memory Cache ช่วยให้การเข้าถึงข้อมูลรวดเร็วขึ้น
  • Disk Cache: แคชที่เก็บข้อมูลที่ถูกดึงมาจากดิสก์ การมี Disk Cache จะช่วยให้การอ่านและเขียนข้อมูลบนดิสก์มีความรวดเร็วขึ้น
  • Web Cache: แคชที่เก็บข้อมูลที่ได้จากเว็บไซต์ เช่น รูปภาพ หรือไฟล์ HTML เพื่อให้เมื่อผู้ใช้เข้าชมเว็บไซต์เดียวกันอีกครั้ง ข้อมูลจะถูกโหลดจากแคชแทนการดึงข้อมูลใหม่จากเซิร์ฟเวอร์ ช่วยลดเวลาในการโหลดหน้าเว็บ

โดยทั่วไปแล้วแคชมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับหน่วยความจำหลัก แต่มีความเร็วสูงมาก เมื่อข้อมูลถูกเก็บในแคชแล้ว ระบบสามารถดึงข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การทำงานของระบบทั้งหมดรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

แคช (Cache) ในมือถือจากแอปต่างๆ

แคชในมือถือหมายถึงข้อมูลที่แอปพลิเคชันต่าง ๆ บนสมาร์ทโฟนเก็บไว้ในพื้นที่จัดเก็บชั่วคราว เพื่อช่วยให้การใช้งานแอปเร็วขึ้นและประหยัดเวลาในการโหลดข้อมูล แอปพลิเคชันจะเก็บข้อมูลบางอย่างที่ถูกใช้บ่อยไว้ในแคช เพื่อไม่ต้องดาวน์โหลดข้อมูลเหล่านี้ใหม่ทุกครั้งเมื่อเปิดแอป

ตัวอย่างข้อมูลที่เก็บในแคชของแอป

  • ข้อมูลการแสดงผลเบื้องต้น: แอปโซเชียลมีเดียอย่าง Instagram หรือ Facebook อาจเก็บข้อมูลการแสดงผลบางอย่าง เช่น คุกกี้ (Cookies) หรือไฟล์ HTML ขนาดเล็กที่ใช้ในการแสดงผลหน้าเว็บหรือรูปภาพที่แคชมาเพื่อให้โหลดเร็วขึ้น
  • ไฟล์ชั่วคราวขนาดเล็ก: แอปเบราว์เซอร์เก็บไฟล์ HTML, CSS, JavaScript หรือคุกกี้ของเว็บไซต์ที่คุณเข้าชมบ่อย ๆ ไว้ในแคช เพื่อให้การโหลดหน้าเว็บเร็วขึ้น
  • ข้อมูลการเข้าสู่ระบบและการตั้งค่าชั่วคราว: แอปบางตัวเก็บข้อมูลการเข้าสู่ระบบ (Session Data) หรือการตั้งค่าชั่วคราวไว้ในแคช เพื่อให้คุณไม่ต้องใส่รหัสผ่านใหม่ทุกครั้งหรือตั้งค่าแอปใหม่เมื่อเปิดใช้งานอีกครั้ง

ข้อมูลที่จัดเก็บ

เวลามีการแนะนำให้ลบแคช จะบอกให้ล้างข้อมูลด้วย ฉนั้นเราควรทราบว่า ข้อมูลที่จัดเก็บ คืออะไรเพื่อให้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับแคชมากขึ้นได้ แม้ว่าแอปโซเชียลมีเดียอาจเก็บรูปภาพขนาดเล็กไว้ในแคชเพื่อการแสดงผลเบื้องต้น แต่ไฟล์รูปภาพและวิดีโอขนาดใหญ่ อาจเป็นประวัติการสนทนา, รูปภาพ, ไฟล์เสียง ที่ส่งกันไปมา ยกตัวอย่างเช่น LINE สือต่างๆ จากช่องแชทจะถูกเก็บในส่วนของ “ข้อมูลที่จัดเก็บ” (Storage) ของแอป

การแยกแยะระหว่างแคชและข้อมูลที่จัดเก็บนั้นสำคัญ เพราะการล้างแคชจะไม่ลบไฟล์ใหญ่หรือข้อมูลถาวรที่แอปใช้ประจำ ข้อมูลเหล่านั้นจะถูกเก็บในพื้นที่ “ข้อมูลที่จัดเก็บ” ซึ่งคุณสามารถจัดการได้หากต้องการลบไฟล์เก่า ๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บในอุปกรณ์ของคุณ

  • ข้อมูลผู้ใช้: เช่น การตั้งค่าต่าง ๆ ภายในแอป การตั้งค่าบัญชี ข้อมูลที่บันทึกไว้ เช่น รายการโปรด ประวัติการใช้งาน
  • ไฟล์ถาวร: ไฟล์ที่แอปต้องการเก็บไว้อย่างถาวร เช่น ไฟล์เอกสาร ไฟล์เสียง ไฟล์วิดีโอที่คุณดาวน์โหลดหรือบันทึกไว้ในแอป
  • ข้อมูลฐานข้อมูล: ข้อมูลที่แอปต้องการใช้งานอย่างต่อเนื่องและเก็บไว้ในระบบฐานข้อมูล เช่น การสนทนาในแอปแชท หรือข้อมูลเกมที่เล่นผ่านหลายรอบ

การล้างข้อมูลในส่วนนี้จะเป็นการรีเซ็ตแอปกลับไปเป็นสถานะเดิมเหมือนตอนที่คุณเพิ่งติดตั้งใหม่ ข้อมูลผู้ใช้ที่ถูกเก็บไว้จะหายไปทั้งหมด เช่นข้อมูลการสนทนา รูปภาพ ไฟล์เสียง วิดีโอ หากแอปไม่ได้เก็บไฟล์ดังกล่าวไว้ในเซิร์ฟเวอร์โดยตรงหรือมีระยะเวลาในการจัดเก็บอย่าง LINE ข้อมูลส่วนใหญ่จะอยู่ในที่จัดเก็บข้อมูลของแอป หากคุณลบข้อมูลแอปไฟล์ต่างๆจะหายไปด้วย และคุณจะต้องตั้งค่าแอปใหม่ตั้งแต่ต้น เช่น ต้องลงชื่อเข้าใช้ใหม่ หรือกำหนดค่าแอปใหม่ทั้งหมด

ทำไมต้องลบแคชล้างข้อมูล

การลบแคชและล้างข้อมูลมีเหตุผลที่สำคัญดังนี้

1. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอป

  • ลบแคช ช่วยให้แอปทำงานได้รวดเร็วขึ้น โดยการลบข้อมูลชั่วคราวที่อาจเกิดความผิดพลาดหรือหมดอายุ การล้างแคชทำให้แอปโหลดข้อมูลใหม่ที่เป็นปัจจุบันและถูกต้อง ทำให้ประสิทธิภาพของแอปดีขึ้น
  • ล้างข้อมูล เมื่อแอปมีปัญหาอย่างรุนแรงหรือไม่ทำงานตามที่คาดหวัง การล้างข้อมูลสามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้ โดยการรีเซ็ตแอปกลับไปที่สถานะเริ่มต้น

2. แก้ไขปัญหาการทำงานผิดพลาด

  • แคช ข้อมูลแคชที่หมดอายุหรือเสียหายอาจทำให้แอปทำงานผิดปกติ การล้างแคชช่วยลบข้อมูลที่อาจทำให้แอปทำงานผิดพลาดและแก้ปัญหาเชิงประสิทธิภาพ
  • ข้อมูล การล้างข้อมูลจะลบข้อมูลทั้งหมดของแอป เช่น การตั้งค่าผู้ใช้ ข้อมูลที่บันทึกไว้ ซึ่งอาจช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการตั้งค่าผิดพลาดหรือข้อมูลที่เสียหาย

3. เพิ่มพื้นที่จัดเก็บ

  • แคช การล้างแคชช่วยลดขนาดของข้อมูลชั่วคราวที่เก็บไว้ในพื้นที่จัดเก็บของอุปกรณ์ ทำให้มีพื้นที่ว่างมากขึ้นสำหรับข้อมูลอื่น ๆ
  • ข้อมูล การล้างข้อมูลจะลบข้อมูลที่ถูกจัดเก็บไว้ทั้งหมด ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่จัดเก็บในกรณีที่ข้อมูลมีขนาดใหญ่หรือไม่จำเป็น

4. แก้ไขปัญหาการแสดงผลหรือการโหลดช้า

  • แคช บางครั้งข้อมูลในแคชอาจเก่าหรือไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจทำให้แอปโหลดช้าหรือแสดงผลผิดพลาด การล้างแคชทำให้แอปโหลดข้อมูลใหม่ที่ถูกต้องและทันสมัย
  • ข้อมูล การล้างข้อมูลสามารถช่วยแก้ปัญหาการโหลดที่ช้าโดยการรีเซ็ตแอปและเริ่มต้นใหม่

5. ปรับปรุง แก้ไข อัปเดต

  • แคช การล้างแคชช่วยให้แอปมีความรวดเร็วและสะดวกในการใช้งาน เนื่องจากข้อมูลใหม่ที่โหลดเข้ามาจะเป็นข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน
  • ข้อมูล การล้างข้อมูลช่วยให้คุณเริ่มต้นใหม่กับแอป ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดจากข้อมูลที่สะสมและอาจทำให้การใช้งานของแอปไม่สะดวก

การลบแคชและล้างข้อมูลเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นจากข้อมูลเก่าหรือเสียหาย แต่ควรใช้เมื่อจำเป็นและเข้าใจถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เช่น การต้องตั้งค่าแอปใหม่หรือการสูญเสียข้อมูลที่ไม่ได้สำรองไว้

ทำไมล้างแคชลบข้อมูลไปแล้ว ไม่เป็น 0 ยังกลับมามีข้อมูลอีก

หากคุณอ่านมาถึงจุดนี้แล้ว น่าจะเข้าใจได้ในระดับหนึ่งแล้ว หน้าที่ของแคชและที่เก็บข้อมูล คือการเก็บข้อมูล ฉนั้นหากคุณยังใช้งานแอปนั้นๆอยู่ ทั้ง 2 ส่วนนี้จะไม่มีทางเหลือ 0 แม้ว่าคุณจะพึ่งลบก็ได้ แอปบางแอปอาจมีข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นต้องใช้งาน ระบบจะเก็บทันทีที่เริ่มใช้งานแอป หรือดึงข้อมูลพื้นฐานออนไลน์ จึงเป็นสาเหตุที่มันไม่อาจมีขนาดที่เก็บเป็น 0 ได้ เพราะหน้าที่ของมันคือการเก็บข้อมูลนั้นเอง