Apple Intelligence ซึ่งเป็นฟีเจอร์ AI อัจฉริยะจาก Apple ได้เพิ่มความต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลในอุปกรณ์ iPhone, iPad และ Mac หลังการอัปเดต iOS 18.2 โดยปัจจุบันต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลอย่างน้อย 7GB ต่ออุปกรณ์ และคาดว่าอาจเพิ่มขึ้นเป็น 10GB ต่ออุปกรณ์ ในอนาคต
ฟีเจอร์ Apple Intelligence เปิดตัวครั้งแรกใน iOS 18.1 โดยใช้พื้นที่เก็บข้อมูลเพียง 4GB แต่การอัปเดต iOS 18.2 ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น Genmoji, ChatGPT ใน Siri, Image Playground, Visual Intelligence และ Compose with ChatGPT ซึ่งทำให้พื้นที่ที่ใช้เก็บโมเดล AI และการประมวลผลบนอุปกรณ์เพิ่มขึ้นอย่างมาก
สำหรับผู้ที่ใช้งาน Apple Intelligence บนอุปกรณ์หลายเครื่อง เช่น iPhone, iPad และ Mac จะต้องเตรียมพื้นที่เก็บข้อมูลรวมถึง 21GB สำหรับ 3 อุปกรณ์ หากต้องการใช้งานฟีเจอร์ AI ครบทุกเครื่อง และในกรณีที่ความต้องการพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 10GB ต่ออุปกรณ์ พื้นที่รวมจะเพิ่มเป็น 30GB
มีการคาดการณ์ว่าความต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลจะเพิ่มขึ้นอีกครั้งหลังการอัปเดต Siri ใน iOS 18.4 ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในเดือนเมษายน โดยผู้เชี่ยวชาญคาดว่าอาจแตะถึง 10GB ต่ออุปกรณ์ ก่อนที่จะมีฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 19
Apple ยังไม่มีตัวเลือกให้ลดความต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลลงด้วยการปิดฟีเจอร์บางส่วน ดังนั้น ผู้ใช้อาจต้องเตรียมพื้นที่ว่างในอุปกรณ์ให้เพียงพอ หรือพิจารณาอัปเกรดอุปกรณ์ที่มีพื้นที่เก็บข้อมูลมากขึ้นในการซื้อครั้งถัดไป
การพัฒนา AI ของ Apple นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านความสามารถของอุปกรณ์ แต่อาจกลายเป็นความท้าทายสำหรับผู้ที่มีพื้นที่เก็บข้อมูลจำกัดในอุปกรณ์ของตนเอง หากคุณกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ การจัดการพื้นที่และเลือกซื้ออุปกรณ์ที่มีพื้นที่เก็บข้อมูลมากขึ้นอาจเป็นทางออกที่ดี
Apple Intelligence เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ AI อัจฉริยะและมีการอัปเดตเพิ่มความสามารถใน iOS 18.1 และ iOS 18.2 โดยรองรับอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับการประมวลผล AI บนอุปกรณ์โดยตรง (on-device processing) ซึ่งมีรายชื่ออุปกรณ์ที่รองรับดังนี้
iPhone
- iPhone 13 และรุ่นใหม่กว่า
- iPhone SE (รุ่นที่ 3)
iPad
- iPad Pro (รุ่นที่ใช้ชิป M1 และ M2)
- iPad Air (รุ่นที่ 5 และรุ่นใหม่กว่า)
- iPad (รุ่นที่ 10)
- iPad mini (รุ่นที่ 6)
Mac
- Mac รุ่นที่ใช้ชิป Apple Silicon (M1, M1 Pro, M1 Max, M2 และรุ่นที่ใหม่กว่า)
- MacBook Air (ปี 2020 และรุ่นใหม่กว่า)
- MacBook Pro (ปี 2020 และรุ่นใหม่กว่า)
- Mac mini และ Mac Studio ที่ใช้ชิป Apple Silicon
ที่มา – 9to5Mac