รัฐบาลเตรียมเปิดโครงการ คนละครึ่ง 2568 (หรือเรียกว่า “คนละครึ่ง พลัส”) ในเดือนตุลาคมนี้ โดยมีเงื่อนไขสำคัญว่า ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการต้อง มีอายุ 16 ปีขึ้นไป
โครงการจะแบ่งผู้มีสิทธิ์ออกเป็น 3 กลุ่ม ตามสถานะทางการเงินและภาษี ดังนี้
รายละเอียด 3 กลุ่มผู้มีสิทธิ์
- กลุ่มที่ 1 – ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประมาณ 13 ล้านคน รัฐบาลเติมเงินเพิ่ม 1,700 บาท (จากเดิม 300 บาท) รวมเป็น 2,000 บาท ใช้ได้ใน 2 เดือน (พฤศจิกายน – ธันวาคม 2568)
- กลุ่มที่ 2 – ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษี ผู้ที่ยังไม่เคยมีภาษี หรืออยู่ในระบบไม่เสียภาษี ประมาณ 9 ล้านคน ได้รับสิทธิ์ 2,000 บาท ภายใต้เงื่อนไขคนละครึ่ง (50:50) จำกัดใช้จ่ายวันละไม่เกิน 200 บาท เริ่มใช้สิทธิ์ได้ในเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2568
- กลุ่มที่ 3 – ผู้ที่อยู่ในระบบภาษี ผู้ที่มีรายได้และจ่ายภาษี ประมาณ 11 ล้านคน ได้รับสิทธิ์ 2,400 บาท ภายใต้เงื่อนไขคนละครึ่ง (50:50) จำกัดใช้จ่ายวันละไม่เกิน 200 บาท เริ่มใช้สิทธิ์ได้ในเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2568
แม้โครงการ “คนละครึ่ง” จะเริ่มในเดือนตุลาคม แต่การใช้สิทธิ์จริงจะเริ่มใน เดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม 2568 สำหรับผู้ที่ได้รับสิทธิ์ทั้ง 3 กลุ่ม โดยเงินจะถูกโอนให้ครั้งเดียวเพื่อใช้จ่ายต่อเนื่องตลอดช่วงเวลาโครงการ ทั้งนี้ โครงการยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งจะมีการเสนอในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้
ล่าสุด วันที่ 26 กันยายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแลสำนักงบประมาณ เปิดเผยความคืบหน้าการจัดสรรงบประมาณปี 2568 ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายนนี้ โดยระบุว่ายังมีงบเหลือราว 60,000 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นงบกลางสำรองฉุกเฉินและส่วนที่จะนำไปใช้ในโครงการ “คนละครึ่ง” เฟสแรก
นายภราดร กล่าวว่า ในโครงการนี้จะเริ่มจากกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประมาณ 13 ล้านคน ใช้งบกว่า 22,000 ล้านบาท โดยจะเพิ่มวงเงินจากเดิม 300 บาทต่อเดือน ขยายเป็น 2,000 บาทต่อสิทธิ์ ส่วนกลุ่มประชาชนทั่วไปจะได้รับการจัดสรรสิทธิ์เพิ่มเติม ซึ่งรัฐบาลเตรียมนำงบปี 2569 มาสนับสนุนราว 25,000 ล้านบาท
“คนละครึ่ง เฟสแรกคาดว่าจะเริ่มได้ช่วงต้นเดือนตุลาคม เนื่องจากกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการหารือกับ ครม. เพื่อเร่งดำเนินการ โดยเบื้องต้นจะมีสิทธิ์รวมทั้งหมดประมาณ 20 ล้านสิทธิ์ สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยลงทะเบียนในเฟสก่อนหน้านี้จะต้องสมัครใหม่ ส่วนผู้ที่เคยเข้าร่วมเฟส 5 ก็ต้องยืนยันตัวตนและลงทะเบียนใหม่เช่นกัน” นายภราดร กล่าว
ด้านนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า โครงการคนละครึ่งเฟสแรกจะครอบคลุมสิทธิ์รวมทั้งหมดราว 33 ล้านสิทธิ์ แบ่งเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13 ล้านสิทธิ์ และประชาชนทั่วไปอีก 20 ล้านสิทธิ์
ขณะเดียวกัน ยังมีการยืนยันว่ารัฐบาลเตรียมเดินหน้าโครงการต่อเนื่อง โดยนายสิริพงศ์กล่าวว่า “มีแน่นอนครับ ตอนนี้ท่านรัฐมนตรี ได้รับนโยบายจากนายกรัฐมนตรี ให้ดูเรื่องคนละครึ่ง เฟส 2 อยู่ ซึ่งจะเป็นอย่างไรต้องรอติดตาม ให้จบเฟส 1 ก่อน ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงเดือนธันวาคม หรือมกราคม”
นอกจากงบที่ใช้ในโครงการคนละครึ่งแล้ว รัฐบาลยังกันงบส่วนหนึ่งให้หน่วยงานอื่น ๆ เช่น กองทัพในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา และงบรายจ่ายประจำของข้าราชการ รวมถึงงบที่ยังค้างการอนุมัติโครงการเพื่อนำมาใช้เยียวยาประชาชนในพื้นที่ชายแดน ขณะที่เงินงบประมาณที่เหลือราว 35,000 ล้านบาท รัฐบาลจะนำไปชำระหนี้เกษตรกรและโครงการพักหนี้ตามที่รัฐบาลก่อนหน้าได้ก่อหนี้ไว้