X
MODIFY: Technology News
Technology, Innovation, and Education เทคนิดการใช้งาน สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ เรื่องไอที

ทำความเข้าใจกับเมนู “แบบอักษร” ใน iOS 26

แบบอักษร iOS 26 ใช้งานได้จริงหรือไม่ และควรโหลดมาเพื่ออะไร พร้อมตัวอย่างแอปที่รองรับ

หลายคนที่อัปเดตมาใช้ iOS 26 อาจสังเกตว่ามีเมนูใหม่หรือปรับปรุงที่ชื่อว่า “แบบอักษร” (Fonts) อยู่ในส่วนการตั้งค่า ซึ่งเมื่อเข้าไปแล้วก็จะพบ 3 ตัวเลือกหลัก ได้แก่ แบบอักษรระบบ, แบบอักษรของฉัน, และแบบอักษรเพิ่มเติม หลายคนเกิดความสงสัยว่าเมนูเหล่านี้ต่างกันอย่างไร และจริงๆ แล้วสามารถเปลี่ยนฟอนต์ทั้งเครื่องได้หรือไม่ ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกทั้งสามเมนู พร้อมทั้งอธิบายว่าใช้งานได้จริงตรงไหน ใช้งานไม่ได้ตรงไหน และยกตัวอย่างแอปที่สามารถใช้ฟอนต์ที่เราติดตั้งเพิ่มเข้าไปได้จริงๆ

แบบอักษรระบบ

นี่คือฟอนต์มาตรฐานที่ Apple ใส่มาให้ในเครื่องโดยตรง เช่น San Francisco ซึ่งเป็นฟอนต์หลักของระบบ iOS และ macOS
โดยมันถูกออกแบบมาเพื่อความอ่านง่ายและความสวยงามในการใช้งานกับหน้าจอทุกขนาด

สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจคือ Apple ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้เปลี่ยนฟอนต์ของระบบ เช่น เปลี่ยนเมนู การแจ้งเตือน หรือ UI ทั้งหมดไปใช้ฟอนต์อื่น การออกแบบนี้เป็นนโยบายของ Apple เพื่อรักษาความสม่ำเสมอและให้ผู้ใช้ไม่เจอปัญหาฟอนต์เพี้ยน สรุป: ใช้แสดงผลในเมนูและแอประบบ และไม่สามารถเปลี่ยนหรือแก้ไขได้

แบบอักษรของฉัน

ส่วนนี้คือพื้นที่ที่ผู้ใช้สามารถ ติดตั้งฟอนต์เองเพิ่มเข้าไปในเครื่อง ได้ เช่น ดาวน์โหลดจาก App Store ผ่านแอปจัดการฟอนต์ (เช่น iFont, Font Diner, Adobe Fonts) หรือการติดตั้งไฟล์โปรไฟล์ฟอนต์ (.ttf, .otf) เมื่อคุณติดตั้งฟอนต์ใหม่แล้ว มันจะปรากฏในหมวด “แบบอักษรของฉัน” และสามารถนำไปใช้ได้ทันทีในแอปที่รองรับการเลือกฟอนต์ แต่จะไม่เปลี่ยนฟอนต์ของระบบโดยรวม ใช้ได้เฉพาะงานเฉพาะทาง เช่น งานออกแบบ เอกสาร หรือการพิมพ์ข้อความ

ตัวอย่างแอปที่รองรับ

  • Pages, Keynote, Numbers
  • Microsoft Word, Excel, PowerPoint
  • Canva
  • Adobe Photoshop, Illustrator (iPad)
  • GoodNotes, Notability
  • Affinity Designer, Affinity Publisher

สรุป: ใช้ติดตั้งฟอนต์เพิ่มเอง นำไปใช้ได้ในแอปที่รองรับ แต่ไม่เปลี่ยนทั้งระบบ

แบบอักษรเพิ่มเติม

เมนูนี้เป็น ลิงก์ไปยัง App Store เพื่อให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปจัดการฟอนต์หรือแพ็กเกจฟอนต์เพิ่มเติม บางแอปให้ฟอนต์ฟรี บางแอปขายเป็นแพ็กเกจ หรือเป็นบริการสมัครสมาชิก เช่น Adobe Fonts สรุป: ใช้ค้นหาและดาวน์โหลดฟอนต์เพิ่มเติมผ่าน App Store ขึ้นอยู่กับผู้พัฒนาว่าฟอนต์ฟรีหรือเสียเงิน

ทำไมควรโหลดฟอนต์เพิ่ม แม้เปลี่ยนระบบไม่ได้?

หลายคนอาจสงสัยว่า ถ้าโหลดมาแล้วเปลี่ยนเมนู iOS ไม่ได้ แล้วจะโหลดมาทำไม? คำตอบคือ เพื่อใช้ในงานเฉพาะทาง เช่น:

  • ทำเอกสารที่ต้องใช้ฟอนต์องค์กร/ฟอนต์ราชการ (TH Sarabun, TH Chakra Petch)
  • งานออกแบบ Poster, Infographic, Presentation
  • งานเขียนหรือจดโน้ตที่อยากมีฟอนต์สวยงามเป็นเอกลักษณ์

ดังนั้นฟอนต์ใน iOS มีไว้เพื่อ เสริมการทำงานและการสร้างสรรค์คอนเทนต์ มากกว่าการเปลี่ยนหน้าตาของระบบ

บทสรุป

เมนู “แบบอักษร” ใน iOS 26 ไม่ได้ให้เราเปลี่ยนฟอนต์ทั้งระบบ แต่ทำหน้าที่เป็น ตัวจัดการฟอนต์เสริม ที่คุณติดตั้งเองได้และใช้กับแอปที่รองรับ โดยแบ่งเป็น

  • แบบอักษรระบบ: ฟอนต์มาตรฐานของ iOS ไม่เปลี่ยนแปลง
  • แบบอักษรของฉัน: ฟอนต์ที่คุณติดตั้งเอง ใช้งานได้ในบางแอป
  • แบบอักษรเพิ่มเติม: ลิงก์ไปดาวน์โหลดฟอนต์จาก App Store

ดังนั้น หากคุณทำงานด้านเอกสาร กราฟิก หรือการออกแบบ ฟีเจอร์นี้ถือว่ามีประโยชน์มาก แต่ถ้าหวังจะเปลี่ยนฟอนต์ของระบบ iOS ทั้งหมด ฟีเจอร์นี้ยังไม่ตอบโจทย์ เพราะ Apple ไม่เปิดให้ทำได้