หลังจากแพ้คดีต่อบริษัท Epic Games ไปก่อนหน้านี้ Google ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาสหรัฐฯ พร้อมขอ “เลื่อนบังคับใช้บางส่วนของคำสั่งศาล” เพื่อชะลอการเปลี่ยนแปลงใน Google Play Store ออกไปก่อน แต่ศาลฎีกาได้ ปฏิเสธคำขอดังกล่าว ส่งผลให้ Google ต้องดำเนินการตามคำพิพากษาเดิมภายใน 14 วัน

คดีนี้มีจุดเริ่มต้นจากการที่ Epic Games กล่าวหาว่า Google ผูกขาดระบบแอปบน Android โดยบังคับให้นักพัฒนาใช้ระบบชำระเงินของ Google Play Billing และห้ามเชื่อมโยงไปยังช่องทางดาวน์โหลดหรือการจ่ายเงินอื่น ๆ นอกเหนือจาก Play Store ซึ่งศาลได้ตัดสินให้ Epic ชนะคดีในเดือนกรกฎาคม 2025

คำสั่งศาลกำหนดให้ Google ต้องดำเนินการหลายประการ ได้แก่

• อนุญาตให้นักพัฒนาใส่ลิงก์ไปยังช่องทางดาวน์โหลดแอปจากภายนอกได้
• ยกเลิกการบังคับใช้ระบบ Google Play Billing เพียงระบบเดียว
• ให้นักพัฒนากำหนดราคาแอปของตนเองได้อย่างอิสระ
• ห้ามจ่ายเงินหรือผลประโยชน์พิเศษแก่ผู้ผลิตโทรศัพท์หรือผู้พัฒนาแอปเพื่อแลกกับการติดตั้ง Play Store ล่วงหน้าหรือความเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ

Tim Sweeney ซีอีโอของ Epic Games ได้โพสต์ข้อความบน X ยืนยันว่า ศาลฎีกาปฏิเสธคำร้องของ Google อย่างเป็นทางการ ซึ่งหมายความว่าการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้จะต้องเริ่มดำเนินการภายในเวลาเพียงสองสัปดาห์

ทางด้าน Google ให้สัมภาษณ์กับ The Verge ว่า

“Android provides more choice for users and developers than any mobile OS, and the changes ordered by the US District Court will jeopardize users’ ability to safely download apps. While we’re disappointed the order isn’t stayed, we will continue our appeal.”

(“Android มอบทางเลือกให้กับผู้ใช้และนักพัฒนามากกว่าระบบปฏิบัติการมือถือใด ๆ แต่คำสั่งของศาลแขวงสหรัฐฯ จะทำให้ความปลอดภัยในการดาวน์โหลดแอปลดลง เรารู้สึกผิดหวังที่คำสั่งนี้ไม่ได้รับการเลื่อน แต่เราจะดำเนินการอุทธรณ์ต่อไป”)

แม้ศาลฎีกายังอยู่ระหว่างพิจารณาคำอุทธรณ์หลักของ Google แต่ผลการปฏิเสธคำขอเลื่อนชั่วคราวครั้งนี้หมายความว่าบริษัทจะต้องปรับโครงสร้างระบบ Play Store ภายใน 14 วันโดยไม่มีทางเลี่ยง ขณะที่การยื่นอุทธรณ์รอบสุดท้ายของ Google มีกำหนดยื่นภายในวันที่ 27 ตุลาคม 2025

ทั้งนี้ คำพิพากษาเดิมยังมีอีกหนึ่งเงื่อนไขใหญ่ที่จะเริ่มมีผลในเดือน กรกฎาคม 2026 คือการเปิดทางให้ “ร้านค้าแอปคู่แข่ง” สามารถอยู่ใน Play Store ได้โดยตรง และให้ Google ต้องเปิดฐานข้อมูลแอปทั้งหมดให้คู่แข่งเข้าถึง ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของระบบ Android หากไม่มีคำพิพากษาใหม่มาชะลอการบังคับใช้ก่อนถึงเวลานั้น

ที่มา – androidauthority.com