X
MODIFY: Technology News
Technology, Innovation, and Education เทคนิดการใช้งาน สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ เรื่องไอที

Intel ผนวกชิป Gaudi 3 เข้ากับ GPU Blackwell B200 ของ NVIDIA ในระบบ Rack-Scale ใหม่ หวังเพิ่มประสิทธิภาพและรายได้ในตลาด AI

Intel ร่วมมือกับ NVIDIA สร้างแพลตฟอร์ม AI แบบ “Hybrid” ผสาน Gaudi 3 กับ Blackwell เพื่อเพิ่มศักยภาพในตลาดเซิร์ฟเวอร์

Intel กำลังหาทางใหม่เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับชิป AI ของตนเอง ด้วยการหันมาร่วมมือกับคู่แข่งรายใหญ่ที่สุดอย่าง NVIDIA และผนวกเทคโนโลยี Blackwell B200 GPU เข้ากับแพลตฟอร์ม Gaudi 3 ในรูปแบบระบบ “Hybrid” Rack-Scale AI Platform ซึ่งถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน OCP Global Summit 2025 ถือเป็นกลยุทธ์ “ถ้าสู้ไม่ได้ก็ร่วมมือ” ที่อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของธุรกิจ AI Server ของ Intel

การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ Intel กำลังพยายามเร่งเครื่องเพื่อแข่งขันกับ NVIDIA และ AMD ในตลาด AI ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่รายได้จากชิป AI Gaudi ยังไม่สามารถทัดเทียมคู่แข่งได้ การจับมือครั้งนี้จึงเป็นการสร้างทางรอดใหม่โดยใช้จุดแข็งของทั้งสองฝั่งมาผสานเข้าด้วยกัน

การทำงานร่วมกันระหว่าง Gaudi 3 และ Blackwell

แพลตฟอร์มใหม่นี้ใช้วิธีแบ่งงานประมวลผลให้แต่ละชิปทำหน้าที่ที่เหมาะสมที่สุด โดย Gaudi 3 จะรับผิดชอบส่วนของ “decode” ซึ่งเป็นขั้นตอนหลังของงาน inferencing ที่เน้นการจัดการหน่วยความจำและการเชื่อมต่อเครือข่าย ส่วน Blackwell B200 ของ NVIDIA จะถูกใช้ในขั้นตอน “prefill” ที่ต้องการพลังประมวลผลสูงจากการคำนวณเมทริกซ์ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นจุดแข็งของ GPU รุ่นนี้

ระบบนี้ใช้โครงสร้างแบบ rack-scale ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้:

  • Compute Tray: ซีพียู Xeon 2 ตัว, ชิป Gaudi 3 จำนวน 4 ตัว, NICs จำนวน 4 ตัว และ 1x NVIDIA BlueField-3 DPU
  • 16 trays ต่อแร็ก: ทำงานร่วมกันในระบบเดียว
  • เครือข่าย: ใช้ NVIDIA ConnectX-7 400 GbE NICs และสวิตช์ Broadcom Tomahawk 5 51.2 Tb/s เพื่อการเชื่อมต่อแบบ all-to-all

นอกจากนี้ การออกแบบนี้ยังเน้นจุดแข็งของ Gaudi ด้าน memory bandwidth และ Ethernet-centric scale-out ที่เหมาะกับการทำงานแบบกระจายตัว ทำให้สามารถรวมพลังกับ Blackwell ได้อย่างสมเหตุสมผล

ประสิทธิภาพและจุดแข็งของระบบ “Hybrid”

รายงานจาก SemiAnalysis ระบุว่าระบบ hybrid นี้สามารถทำงานได้ เร็วขึ้นถึง 1.7 เท่า ในขั้นตอน prefill เมื่อเทียบกับการใช้ GPU B200 เพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะในการประมวลผลโมเดลขนาดเล็กที่มีความหนาแน่นสูง แม้ผลลัพธ์นี้ยังไม่ได้รับการยืนยันจากการทดสอบอิสระ แต่ก็สะท้อนแนวทางที่น่าสนใจในการผสานจุดแข็งของแต่ละแพลตฟอร์มเข้าไว้ด้วยกัน

กลยุทธ์นี้ยังเปิดโอกาสให้ Intel สามารถ “ขาย” แพลตฟอร์ม Gaudi ได้ง่ายขึ้นผ่านระบบ rack-scale ที่มีมูลค่าสูง ในขณะที่ NVIDIA เองก็ได้ตอกย้ำความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างเครือข่ายของตนเองไปพร้อมกัน

แม้แนวทางใหม่นี้จะดูมีศักยภาพ แต่แพลตฟอร์ม Gaudi ยังมีข้อจำกัดด้านซอฟต์แวร์ที่ยังไม่สมบูรณ์ และอาจเป็นอุปสรรคต่อการยอมรับในวงกว้าง นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า สถาปัตยกรรม Gaudi จะสิ้นสุดอายุการใช้งานภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งอาจทำให้แพลตฟอร์ม hybrid ดังกล่าวไม่สามารถขยายตัวได้เท่ากับโซลูชันหลักที่มีอายุการสนับสนุนยาวนานกว่า

อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณสำคัญว่า Intel กำลังปรับยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ในตลาด AI โดยเลือกใช้แนวทาง “ร่วมมือแทนที่จะสู้” เพื่อสร้างพื้นที่ใหม่ให้กับแพลตฟอร์ม Gaudi และเพิ่มโอกาสในการแข่งขันในยุคที่ NVIDIA ครองตลาด AI อย่างเหนียวแน่น
ที่มา – wccftech.com