รายงานจาก Financial Times และ The Information ระบุว่า OpenAI กำลังพิจารณาการแสดงโฆษณาภายใน ChatGPT เพื่อเพิ่มรายได้ หลังจากบริษัทประสบปัญหาการเติบโตของผู้ใช้แบบเสียเงิน แม้มีฐานผู้ใช้ทั่วโลกกว่า 800 ล้านราย แต่มีเพียงประมาณ 5% เท่านั้นที่สมัครสมาชิกแบบชำระเงิน
OpenAI ซึ่งมีมูลค่าบริษัทประเมินราว 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ วางแผนใช้เงินลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในปีหน้า แต่ยังไม่มีแหล่งรายได้ที่มั่นคง โดยกว่า 70% ของรายได้ราว 13,000 ล้านดอลลาร์ มาจากลูกค้าที่ชำระเงิน เช่น สมาชิกแบบ Plus, Pro และผู้ใช้งานระดับองค์กร
ภายในองค์กรมีการถกเถียงอย่างต่อเนื่องถึงความเป็นไปได้ในการแสดงโฆษณาใน ChatGPT โดยผลการสำรวจจากกลุ่มผู้ใช้ระบุว่าผู้ใช้บางส่วน เข้าใจผิดว่าผลลัพธ์ของ ChatGPT ถูกจัดอันดับโดยผู้สนับสนุนหรือมีการขายโฆษณาอยู่แล้ว ซึ่งบางพนักงานใช้ข้อมูลนี้สนับสนุนแนวคิดการเพิ่มโฆษณา
รายงานของ The Information ยังเผยว่า มีอดีตพนักงานจาก Meta กว่า 630 คน ทำงานอยู่ใน OpenAI คิดเป็นประมาณ 20% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด ทำให้เกิดการเปรียบเทียบว่าบริษัทกำลังเดินตามแนวทาง “Meta-fication” หรือการเปลี่ยนจากองค์กรวิจัย AI เพื่อประโยชน์ของมนุษย์ ไปสู่บริษัทเชิงพาณิชย์ที่เน้นรายได้จากโฆษณาและผู้บริโภค
ในเวลาเดียวกัน Google ก็ยืนยันแผนที่จะนำโฆษณาเข้าสู่ระบบค้นหาแบบ AI Search Experience เพื่อสร้างรายได้จากโหมดค้นหาที่ปรับให้เป็นส่วนบุคคลมากขึ้น
นอกจากแนวทางโฆษณาแล้ว OpenAI ยังขยายฐานรายได้ผ่านแผน ChatGPT Go ซึ่งเป็นแพ็กเกจราคาประหยัดเริ่มต้นที่ $4 / €4 / £3.50 เปิดให้บริการในหลายประเทศยุโรป เช่น ออสเตรีย เดนมาร์ก นอร์เวย์ โปแลนด์ โปรตุเกส สเปน และสวีเดน รุ่น Go ช่วยลดข้อจำกัดจากเวอร์ชันฟรีแต่ยังไม่สามารถเข้าถึงโมเดลขั้นสูงอย่าง Thinking และ Thinking-high ได้
นอกจากนี้ OpenAI ยังเปิดขาย เครดิตสำหรับ Codex และ Sora ที่ราคา $40 ต่อ 1,000 เครดิต เพื่อให้นักพัฒนาและผู้ใช้ระดับมืออาชีพเข้าถึงเครื่องมือเฉพาะทางได้มากขึ้น
โดยรวมแล้ว แนวทางล่าสุดของ OpenAI สะท้อนการเปลี่ยนผ่านจากองค์กรที่มุ่งพัฒนา AI เพื่อสาธารณะ สู่บริษัทเทคโนโลยีเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบ ที่สร้างรายได้จากหลายช่องทาง ทั้งสมาชิกแบบชำระเงิน แผนราคาประหยัด โฆษณา และบริการเสริม
ที่มา – bleepingcomputer.com