Microsoft ประกาศปล่อย Windows 11 Insider Preview Build 26220.7344 (KB5070316) ให้ผู้ใช้ใน Dev Channel และ Beta Channel โดยยังคงใช้ฐานเวอร์ชันเดียวกันคือ Windows 11, version 25H2 ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ใน Dev Channel สามารถสลับกลับไปยัง Beta Channel ได้ในช่วงเวลาที่ทั้งสองช่องทางได้รับบิลด์หมายเลขเดียวกัน ก่อนที่ Dev Channel จะก้าวขึ้นสู่เลขบิลด์ที่สูงกว่าในอนาคต
Microsoft ระบุว่าฟีเจอร์ใหม่และการปรับปรุงต่างๆ ถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ได้แก่ฟีเจอร์ที่ค่อยๆ ทยอยปล่อยให้ผู้ใช้ที่เปิดสวิตช์ “รับอัปเดตล่าสุดทันที” ใน Settings และฟีเจอร์ที่ปล่อยให้ทุกเครื่องใน Dev และ Beta เหมือนกัน
ฟีเจอร์ใหม่ที่ทยอยปล่อยให้ผู้ใช้ที่เปิดสวิตช์รับอัปเดตล่าสุด
รองรับ Model Context Protocol (MCP) แบบ Native
Windows เพิ่มการรองรับ MCP อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นมาตรฐานเปิดสำหรับให้ AI agents เชื่อมต่อแอป เครื่องมือ และบริการต่างๆ ผ่าน Windows On-Device Registry (ODR) ที่มีความปลอดภัยสูง ระบบนี้แยกตัวตนของแต่ละตัวเชื่อมต่ออย่างชัดเจนและมี audit trail ทำให้การจัดการและควบคุมในระดับองค์กรมีความโปร่งใสและปลอดภัย
Windows ใส่ตัวเชื่อมต่อเริ่มต้นมาสองตัว ได้แก่:
- File Explorer Connector: ให้ AI agents จัดการไฟล์บนเครื่องผู้ใช้ รวมถึงค้นหาไฟล์ด้วยภาษาธรรมชาติบน Copilot+ PCs
- Windows Settings Connector: ให้ AI เปลี่ยน หรือนำผู้ใช้ไปยังหน้าต่าง Settings ที่ต้องการด้วยคำสั่งภาษา
Quick Machine Recovery เปิดใช้งานอัตโนมัติ
QMR จะเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติสำหรับอุปกรณ์ Windows Pro ที่ไม่ผูกกับโดเมน ทำให้ได้รับความสามารถในการกู้คืนแบบเดียวกับ Windows Home ส่วนอุปกรณ์ที่อยู่ในโดเมนยังคงต้องให้ผู้ดูแลระบบเปิดใช้เอง
แพลตฟอร์มอัปเดตใหม่ Unified Update Orchestration Platform (UOP)
UOP จะทำให้กระบวนการอัปเดตแอปเป็นแบบรวมศูนย์ คาดเดาได้มากขึ้น และมีการแจ้งเตือนที่ชัดเจน โดยแอปจะลงทะเบียนเพื่อติดต่อกับ UOP ผ่าน API หลังจากนั้นแอปจะสแกน ดาวน์โหลด และติดตั้งอัปเดตตามสภาวะระบบ ผู้ใช้สามารถตรวจสอบความคืบหน้าของการอัปเดตจากหน้า Settings > Apps > App Updates
ในช่วงแรกยังไม่มีแอปที่ใช้งาน UOP แต่จะทยอยรองรับในอนาคต
Windows MIDI Services พร้อมปล่อยเวอร์ชัน Production
ฟีเจอร์ MIDI ใหม่ได้รับคำชมจากผู้ใช้ใน Canary Channel ตั้งแต่ต้นปี 2025 และตอนนี้เข้าสู่เวอร์ชัน production สำหรับ Dev และ Beta รองรับ MIDI 1.0 และ 2.0 เต็มรูปแบบ สามารถเปิดพอร์ต MIDI พร้อมกันหลายแอป มี Loopback และการปรับปรุงด้านประสิทธิภาพมากมาย
ชุดเครื่องมือ App SDK และ Tools ยังต้องดาวน์โหลดแยกจาก GitHub และปัจจุบันยังไม่ได้ลงนาม (unsigned) จึงมีข้อความเตือนระหว่างติดตั้ง
การปรับปรุงเพิ่มเติมที่ทยอยปล่อยให้ผู้เปิดสวิตช์รับอัปเดต
Open With แบบใหม่รวม Microsoft Store
เมื่อผู้ใช้เลือกเปิดไฟล์ด้วยแอปที่ยังไม่ได้ติดตั้ง ระบบจะแสดงตัวเลือกแอปใน Store โดยตรง ทำให้ติดตั้งได้ทันทีจากหน้าต่างเดียว
การแก้ไขปัญหาที่ปล่อยเฉพาะบางกลุ่ม
- แก้ปัญหาหน้าต่าง Search ลอยขึ้นเหนือ Taskbar แบบผิดปกติ
- ลบส่วน AI Actions ออกจากเมนูคลิกขวาใน File Explorer หากไม่มีฟีเจอร์นี้ในระบบ
- แก้ปัญหา File Explorer ไม่ค้นหา SMB shares บางรายการ
- แก้ปัญหา Windows Hello ลายนิ้วมือไม่ทำงาน
- แก้ปัญหา WIN + P ไม่แสดงหน้า Project
- แก้ปัญหา virtual keyboard ในโหมด Xbox full screen บน PC
- แก้ข้อผิดพลาด DRIVER_IRQL_NOT_LESS_OR_EQUAL ในบางกรณี
- แก้ปัญหาเปิด Windows Terminal แบบ Run as admin แล้วเครื่องค้าง
Known Issues
- บางแอปทำงานผิดปกติใน Xbox full screen experience
- Start menu อาจไม่เปิดจากการคลิก แต่เปิดได้ด้วยปุ่ม Windows
- System tray ไม่แสดงไอคอนบางแอป
- หน้าต่างคัดลอกไฟล์แบบ Dark mode แสดงแถบสีขาวผิดปกติเมื่อปรับขนาดฟอนต์
- File Explorer มีการกระพริบขาวระหว่างสลับหน้า
- การเปิด context menu ทำให้ explorer.exe ล่มในบางอุปกรณ์
- แบตเตอรี่ของอุปกรณ์ Bluetooth อาจไม่แสดงระดับตามปกติ
ข้อควรรู้สำหรับผู้ใช้ Dev & Beta Channels
อัปเดตทั้งหมดอยู่บนฐาน Windows 11, version 25H2 ผ่าน Enablement Package โดยมีฟีเจอร์จำนวนมากที่ใช้ Controlled Feature Rollout (CFR) ทำให้บางฟีเจอร์เปิดให้บางกลุ่มก่อนเพื่อทดสอบความเสถียรก่อนปล่อยทั่วไป
ผู้ใช้ที่ต้องการฟีเจอร์ใหม่เร็วที่สุดสามารถเปิดสวิตช์ “รับอัปเดตล่าสุดทันที” ได้ที่ Settings > Windows Update* ส่วนฟีเจอร์ที่ทดสอบแล้วจะค่อยๆ ปล่อยให้ผู้ใช้ทุกคนภายหลัง
Microsoft ย้ำว่า ฟีเจอร์ที่อยู่ระหว่างทดสอบอาจถูกปรับเปลี่ยน ยกเลิก หรือเลื่อนออกไปในอนาคต และบางฟีเจอร์อาจไม่ถูกส่งออกสู่เวอร์ชันจริงของ Windows
ที่มา: Microsoft