ย้อนกลับไปเมื่อ5-6ปีที่แล้ว ทุกคนต่างตื่นเต้นและให้ความสนใจกับระบบรักษาความปลอดภัยที่ทาง I-Phone 5S ได้นำเสนอต่อผู้ใช้งานนั่นก็คือระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือนั่นเอง จริงๆแล้วก่อนหน้าที่ทาง IPhone 5S จะมีระบบนี้ออกมาได้มีหลายๆแบรนด์สมาร์ทโฟนที่พยายามจะทำมาก่อน แต่ทว่ามันไม่สามารถที่จะนำมาใช้งานได้อย่างเป็นนามธรรม ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องยกเครดิตให้กับ IPhone 5S ที่สามารถทำให้ใช้งานได้จริงเป็นคนแรกของวงการสมาร์ทโฟน ตอนนั้นทาง Apple ได้เรียกระบบนี้ว่า Touch ID ระบบนี้ไม่ใช้แค่เพียงปลดล็อค IPhone เท่านั้น หากแต่ยังสามารถใช้ Touch ID แทนรหัสผ่าน Apple ID เพื่อซื้อสินค้าใน iTunes Store, App Store และ iBooks Storeอีกด้วยเช่นกัน
หลังจากนั้นอีกไม่นานสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆก็ทยอยส่งสมาร์ทโฟนของตนที่ติดตั้งระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือออกสู่ท้องตลาดกันเป็นแถว ปัจจุบันนี้ยุด 4.0 ยุคที่สมาร์ทโฟนราคาไม่กี่พันบาทก็มีระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือกันเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด(แต่เครื่องที่ผมใช้ยังไม่มีเลย T_T )
appleinsider.com ได้อัพเดทในเว็บไซต์ไม่นานมานี้ว่า Apple มีแผนที่จะถอดระบบ Touch ID ออกจากอุปกรณ์ของพวกเขาตั้งแต่ปี2018เป็นต้นไป ซึ่งเรื่องนี้ Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์จาก KGI analyst เป็นผู้ออกมาให้ข้อมูลในเรื่องนี้
นาย Ming-Chi Kuo ยังได้บอกต่อไปอีกว่า อุปกรณ์จาก Apple ที่เคยมีระบบ Touch ID ติดตั้งอยู่จะถูกแทนที่ด้วยระบบ FaceID โดยอาศัยความสามารถจากเทคโนโลยี TrueDepth เหมือนที่ติดตั้งใน IPhone X นั่นเอง
แม้ว่าในงานเปิดตัว IPhone X จะเกิดปัญหาขึ้นกับการใช้งานระบบ FaceID อย่างที่ทั่วโลกได้รับทราบกันไปแล้วแต่นั่นก็หาใช่ปัญหาที่จะทำให้ Apple หยุดแผนของพวกเขาแต่อย่างใด มันเป็นเพียงความผิดพลาดเล็กน้อยก็เท่านั้น Apple อธิบายว่า iPhone X ตัวที่นำมาใช้นั้นได้รับการทดสอบจากทีมมาก่อนจนมั่นใจว่าไม่มีปัญหาใดๆ ก่อนที่ Craig Federighi จะนำตัวเครื่องสาธิตขึ้นมานำเสนอภายในงาน และแน่นอนว่าในช่วงที่ทีมงานทดสอบเครื่องอยู่นั้น Face ID พยายามที่จะสแกนใบหน้าของพวกเขาอยู่ เมื่อ Face ID พบว่าไม่ใช่ Craig Federighi ระบบจึงเปลี่ยนจากการปลดล็อกแบบ Face ID ไปเป็นการใส่รหัสผ่านแทน iPhone X ถูกออกแบบมาให้ทำเช่นนี้ คือ การเข้าสู่โหมดปลดล็อกด้วยรหัสผ่าน หรือพูดง่ายๆ ก็คือ Face ID ทำงานถูกต้องสมบูรณ์ตามที่มันถูกออกแบบมา
มาดูการทำงานของระบบ Face ID กันสักหน่อยนะครับ Face ID นั้นจะใช้แผงกล้องหน้าทั้งหมดที่เรียกว่า TrueDepth ในการตรวจสแกนใบหน้าผู้ใช้
- Dot Projector จะฉายจุดเล็ก ๆ มากกว่า 30,000 จุด ลงมาที่หน้าของเรา
- วัดความตื้นลึกของใบหน้า และนำไปสร้างโครงสร้างใบหน้าของเราขึ้นมา
- กล้องอินฟราเรดจะอ่านรูปร่างใบหน้าของเราผ่านจุดเล็ก ๆ ที่ Projector ยิงออกมา
- ส่งข้อมูลทั้งหมดไปที่ Secure Enclave เพื่อไปตรวจสอบว่าใบหน้าตรงกันหรือไม่
- ถ้าตรวจสอบแล้วตรงกันก็จะสามารถใช้งานได้
อันนี้สำคัญมากจำไว้เลยนะ Face ID จะสามารถตั้งค่าใบหน้าได้เพียงใบหน้าเดียวเท่านั้น ถ้าต้องการจะเปลี่ยนใบหน้าก็ต้องลบใบหน้าเก่าออกก่อนครับ
เครดิต : http://appleinsider.com , https://www.macthai.com/2017/09/15/apples-new-face-id-biometric-system/