X
MODIFY: Technology News
Technology, Innovation, and Education เทคนิดการใช้งาน สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ เรื่องไอที

ไดร์ฟ ไฟล์ ขึ้นรูปกุญแจ BitLocker Windows 10 และ Windows 11 เกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไง

เปิดไดร์ฟหรือไฟล์ ไม่ได้ขึ้นรูปกุญแจ แก้ไขอย่างไรใน Windows BitLocker

สำหรับผํู้ใช้งาน Windows ไม่ว่าจะเป็น Windows 10 หรือ Windows 11 อาจมีปัญหาหรือความสงสัยเกี่ยวกับรูปกุญแจที่ไดร์ฟหรือไฟล์ที่เราอยากเปิด อาจจะยังเปิดใช้งานได้ หรือไม่สามารถเปิดใช้งานได้แล้วแต่กรณี ทำให้เกิดความสงสัยว่ารูปกุญแจที่ไดร์ฟมันคืออะไร และหากเข้าใช้งานไม่ได้ต้องแก้ไขอย่างไร บทความนี้จะขอพูดถึงปัญหานี้ให้ได้ทำความเข้าใจกัน

หากเครื่องของคุณมีสัญลักษณ์รูปกุญแจที่ไดร์ฟหรือไฟล์ต่างๆ แสดงว่าเครื่องหรือไดร์ฟนั้นๆกำลังเปิดใช้งานฟีเจอร์ BitLocker อยู่ฟีเจอร์นี้เป็นฟีเจอร์การเข้ารหัสรักษาความปลอดภัย ถือเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ของ Windows เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ BitLocker กันก่อนว่ามันคืออะไร

BitLocker คืออะไร

BitLocker เป็นโปรแกรมของ Windows ที่ใช้สำหรับการเข้ารหัสข้อมูลบนฮาร์ดไดรฟ์ของคอมพิวเตอร์ ซึ่งช่วยในการป้องกันข้อมูลที่เก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์จากการเข้าถึงโดยไม่มีสิทธิ์หรือการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ด้วยการใช้การเข้ารหัสข้อมูล ทำให้ข้อมูลที่เก็บไว้บนฮาร์ดไดร์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่สามารถอ่านหรือเข้าถึงได้โดยตรงโดยบุคคลภายนอกหรือผู้ไม่มีสิทธิ์ เฉพาะผู้ที่มีรหัสเข้ารหัส (encryption key) หรือรหัสเข้าถึงที่ถูกมอบให้เท่านั้นที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ ซึ่งช่วยให้คุณได้รับความปลอดภัยในการเก็บข้อมูลที่สำคัญบนคอมพิวเตอร์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น เอกสารที่มีความลับหรือข้อมูลส่วนตัวของคุณ ทำให้มีการป้องกันการขโมยข้อมูลหรือการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ถูกต้องได้อย่างมั่นคงปลอดภัยมากยิ่งขึ้นในกรณีที่คอมพิวเตอร์หายหรือถูกโจมตีด้วยทรัพยากรภายนอก และ BitLocker สามารถใช้เข้ารหัสทั้งในรูปแบบของแผ่นฮาร์ดไดร์ภายในเครื่อง หรือแม้แต่ในอุปกรณ์ภายนอก เช่น USB หรือฮาร์ดไดร์เสริมเพื่อป้องกันข้อมูลในการถ่ายโอนหรือการจัดเก็บข้อมูลได้ด้วยการเข้ารหัสอย่างมีประสิทธิภาพและมั่นคงปลอดภัย ใน Windows รุ่นที่รองรับ BitLocker คุณสามารถใช้งาน BitLocker ได้จากการเปิดใช้งานใน Control Panel หรือผ่านการใช้งานระบบจัดการและการควบคุมที่มีใน Windows

หากมีการตั้งค่า BitLocker บนฮาร์ดไดร์ของคุณ อาจมีการกำหนดรหัส (encryption key) หรือรหัสผ่าน (password) ที่ต้องใช้เพื่อปลดล็อค (unlock) ฮาร์ดไดร์เมื่อเริ่มต้นเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์หรือเมื่อทำการเปิดการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ถูกปิดบน Windows ที่มี BitLocker

ถ้าขึ้นรูปกุญแจหรือข้อความในระหว่างการเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์หรือเข้าสู่ระบบ นั่นหมายความว่า BitLocker ต้องการการยืนยันหรือรหัสผ่านเพื่อปลดล็อคฮาร์ดไดร์ก่อนที่คุณจะเข้าสู่ระบบ Windows ในกรณีที่คุณได้ตั้งค่าการใช้งานรหัสผ่าน BitLocker คุณจำเป็นต้องใส่รหัสทุกครั้งที่คอมพิวเตอร์เริ่มต้นหรือทำการเปิดคอมพิวเตอร์ที่ถูกปิด เพื่อปลดล็อคฮาร์ดไดร์และเข้าสู่ระบบ Windows

การใช้รหัสผ่าน BitLocker มีวิธีการที่คุณสามารถกำหนดให้มีความสะดวก ด้วยการเก็บรหัสผ่านไว้ในระบบหรือใช้งานร่วมกับ TPM (Trusted Platform Module) หรืออุปกรณ์ที่ใช้เก็บรหัสผ่านเพื่อความปลอดภัย แต่คำแนะนำสำหรับความปลอดภัยคือควรจดจำรหัสผ่านอย่างปลอดภัยและไม่ให้ผู้อื่นเข้าถึงรหัสผ่านของ BitLocker เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกเข้ารหัสโดยไม่ได้รับอนุญาตจากบุคคลที่ไม่มีสิทธิ์

ทำไมคอมพิวเตอร์ของฉันถึงเปิด BitLocker แม้จะไม่ได้ตั้งค่า

ปัญหาการเข้าไดร์ฟไม่ได้อาจเกิดหลังติดตั้ง Windows ใหม่

บางครั้งบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์แบรนด์บางรุ่นอาจติดตั้ง BitLocker มาให้ระบบเปิดใช้งานได้ทันที อาจเป็นเพื่อมุมมองความปลอดภัยและการรักษาข้อมูลของผู้ใช้ นี้เป็นวิธีที่ช่วยในการป้องกันข้อมูลจากการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตในกรณีที่คอมพิวเตอร์หายหรือถูกโจมตีโดยทรัพยากรภายนอก

หาก BitLocker ถูกติดตั้งมาให้ในคอมพิวเตอร์แบรนด์ที่คุณใช้ มักจะต้องใส่รหัสผ่านหรือรหัสเข้ารหัสเพื่อปลดล็อคฮาร์ดไดรฟ์เมื่อคอมพิวเตอร์เริ่มต้นหรือทำการเปิดคอมพิวเตอร์ที่ถูกปิด

คุณสามารถตรวจสอบว่า BitLocker ถูกติดตั้งและถูกใช้งานหรือไม่ได้โดยการเข้าไปที่ Control Panel หรือผ่านการค้นหาใน Windows เพื่อตรวจสอบสถานะ BitLocker และการกำหนดค่าที่เกี่ยวข้องกับระบบการเข้ารหัสฮาร์ดไดรฟ์ของคอมพิวเตอร์ของคุณ

การมี BitLocker ในคอมพิวเตอร์มาตรฐานสามารถช่วยให้ข้อมูลของคุณปลอดภัยมากยิ่งขึ้นในกรณีที่คอมพิวเตอร์ถูกขโมยหรือสูญหาย และให้ความมั่นใจในการรักษาข้อมูลที่สำคัญของคุณโดยทั่วไป

ถ้าคอมพิวเตอร์ที่คุณใช้ติดตั้ง BitLocker มาด้วย รหัสผ่านที่ใช้เปิดล็อค (unlock) ฮาร์ดไดร์แบบอัตโนมัติทุกครั้งที่คอมพิวเตอร์เริ่มต้นหรือเปิดคอมพิวเตอร์ที่ถูกปิดจะถูกจัดการโดยระบบหรือโปรแกรมที่ติดตั้งมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์ และมักจะเป็นการใช้งานร่วมกับ TPM (Trusted Platform Module) หรือการกำหนดค่าเพื่อให้รหัสผ่านถูกเก็บไว้ในระบบอย่างปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณต้องการทราบหรือรู้รหัสผ่านที่ใช้ในการปลดล็อค BitLocker สำหรับคอมพิวเตอร์ของคุณ อาจต้องไปหาข้อมูลหรือคำแนะนำที่เกี่ยวข้องกับการจัดการรหัสผ่านจากบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์หรือจากคู่มือการใช้งานของคอมพิวเตอร์ที่มีการใช้งาน BitLocker มาให้

บางบริษัทคอมพิวเตอร์อาจจะมีขั้นตอนการกู้คืนรหัสผ่าน BitLocker หากคุณลืมหรือไม่สามารถเข้าถึงรหัสผ่านได้ ในกรณีที่นั้นคุณจะต้องติดต่อศูนย์บริการหรือฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ของคุณเพื่อขอความช่วยเหลือในการกู้คืนหรือรีเซ็ตรหัสผ่าน BitLocker ได้ ขั้นตอนการกู้คืนรหัสผ่านอาจต่างกันไปตามนโยบายหรือวิธีการที่บริษัทผู้ผลิตกำหนด

คำแนะนำ หากคุณซื้อคอมพิวเนอร์แบรนด์มาใหม่ ให้ตรวจสอบไดร์ฟว่ามีการเปิดใช้งาน BitLocker อยู่หรือไม่ แนะนำให้ปิดการใช้งาน BitLocker  ก่อนที่จะเก็บข้อมูลลงไปในไดร์ฟนั้นๆเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลของเรา หากต้องการเปิดเปิดใช้งาน BitLocker  ค่อยเปิดเองและสร้างรหัสผ่านเอง

ฉันจะกู้รหัส BitLocker  ได้อย่างไร

หากคุณลืมรหัสผ่าน BitLocker และต้องการกู้คืนหรือรีเซ็ตรหัสผ่านเพื่อเข้าถึงข้อมูลที่ถูกเข้ารหัส มีหลายวิธีที่คุณสามารถใช้เพื่อกู้คืนรหัสผ่าน BitLocker

  1. การใช้รหัสคีย์การกู้คืน (Recovery Key)
    • หากคุณมีคีย์การกู้คืน (Recovery Key) ที่สร้างขึ้นและบันทึกไว้ เมื่อคุณเปิด BitLocker ครั้งแรก คีย์การกู้คืนนั้นจะช่วยให้คุณเข้าถึงข้อมูลหรือรีเซ็ตรหัสผ่าน BitLocker
    • คีย์การกู้คืนนี้อาจเป็นไฟล์ที่บันทึกไว้บน USB drive หรือคีย์ที่ถูกพิมพ์หรือบันทึกไว้ในที่ที่ปลอดภัย
  2. การใช้บัญชี Microsoft ที่เชื่อมต่อกับ BitLocker
    • หากคุณใช้บัญชี Microsoft เพื่อกู้คืนรหัสผ่าน BitLocker คุณอาจสามารถทำการรีเซ็ตรหัสผ่านผ่านบัญชี Microsoft ที่เชื่อมต่อกับ BitLocker ผ่านหน้าเว็บไซต์ aka.ms/myrecoverykey
  3. การใช้ Command Prompt (คำสั่ง)

    • คำสั่ง manage-bde -protectors -get c: (เปลี่นไดร์ฟตามที่คุณต้องการจะดู) ใน Command Prompt ของ Windows สามารถช่วยให้คุณเพื่อดูรหัสหรือคีย์ คำสั่งอื่นๆ ดูด้านล่าง
    • manage-bde -status แสดงสถานะ BitLocker บนฮาร์ดไดรฟ์ทั้งหมด
    • manage-bde -unlock C: -RecoveryKey "XXXX-XXXX-XXXX-XXXX-XXXX" ใช้คีย์การกู้คืนเพื่อปลดล็อค (unlock) ฮาร์ดไดรฟ์ที่ต้องการ
    • manage-bde -protectors -get C: แสดงคีย์การกู้คืนและข้อมูลคีย์อื่น ๆ ที่ใช้ในการเข้าถึง BitLocker บนฮาร์ดไดรฟ์ C:
    • manage-bde -changepassword C: เปลี่ยนรหัสผ่าน BitLocker บนฮาร์ดไดร์ C:
  4. การติดต่อศูนย์บริการของผู้ผลิตคอมพิวเตอร์:
    • หากคุณไม่มีข้อมูลหรือคีย์การกู้คืน หรือวิธีการอื่นไม่สามารถใช้งานได้ คุณสามารถติดต่อศูนย์บริการของผู้ผลิตคอมพิวเตอร์เพื่อขอความช่วยเหลือในการกู้คืนรหัสผ่าน BitLocker

ฉันจะยกเลิก BitLocker ได้อย่างไร

หากคุณต้องการยกเลิก BitLocker บนคอมพิวเตอร์ของคุณ สามารถทำได้โดยการทำตามขั้นตอนต่อไปนี้บนระบบปฏิบัติการ Windows

  1. เข้าสู่ Control Panel
    • เปิด Control Panel บนระบบ Windows ของคุณ
  2. ไปที่ “System and Security” หรือ “ระบบและความปลอดภัย”
    • หากเป็น Windows 10 หรือ Windows 11 ให้ไปที่ “BitLocker Drive Encryption”
    • หากไม่มีรายการ BitLocker Drive Encryption ให้ค้นหา BitLocker ในช่องค้นหา Control Panel เพื่อเข้าสู่การจัดการ BitLocker
  3. เลือกที่ฮาร์ดไดร์ที่ต้องการยกเลิก BitLocker
    • หากมีการใช้งาน BitLocker บนฮาร์ดไดร์หรือพาร์ติชันของคอมพิวเตอร์ ให้เลือกที่ฮาร์ดไดร์นั้น
  4. เลือกการถอดการใช้งาน BitLocker
    • ในหน้าจอการจัดการ BitLocker ที่แสดงขึ้นมา คุณจะมีตัวเลือกในการถอดการใช้งาน BitLocker บนฮาร์ดไดร์นั้น
    • คลิกที่ “Turn off BitLocker” หรือ “ถอดการใช้งาน BitLocker”
  5. การยืนยันการยกเลิก BitLocker
    • ระบบจะขอให้คุณยืนยันการยกเลิก BitLocker โดยการกรอกรหัสผ่าน BitLocker หรือการยืนยันตามขั้นตอนที่แสดงบนหน้าจอ
  6. รอขั้นตอนเสร็จสิ้น
    • หลังจากที่คุณยืนยันการถอดการใช้งาน BitLocker ระบบจะเริ่มกระบวนการถอดการใช้งาน BitLocker บนฮาร์ดไดร์กระบวนการนี้อาจใช้เวลาตามขนาดของข้อมูลที่ถูกเข้ารหัส

คุณควรระวังว่าการถอดการใช้งาน BitLocker จะเป็นการยกเลิกการเข้ารหัสข้อมูลบนฮาร์ดไดร์ ดังนั้นควรทำการสำรองข้อมูลที่สำคัญก่อนที่จะดำเนินการยกเลิก BitLocker เพื่อป้องกันข้อมูลจากการสูญหายหรือขัดข้องขณะกระบวนการยกเลิก BitLocker

Format เป็นทางออกสุดท้าย?

การฟอร์แมต (format) ไดร์ฟเพื่อยกเลิก BitLocker ไม่ใช่วิธีที่แนะนำในการยกเลิก BitLocker หรือการถอดการใช้งาน BitLocker บนฮาร์ดไดรฟ์ การฟอร์แมต (format) จะทำให้ข้อมูลบนฮาร์ดไดร์ถูกลบไปทั้งหมด และไม่ได้เป็นวิธีการที่ถูกต้องในการยกเลิก BitLocker โดยตรง นอกจากนี้มันจะทำให้ข้อมูลทั้งหมดบนฮาร์ดไดรฟ์ของคุณหายไปอีกด้วย

ในบางกรณี การฟอร์แมต (format) ไดร์ฟเพื่อลบข้อมูลอาจเป็นทางเลือกที่สุด หากคุณไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลในไดร์ฟที่ถูก BitLocker รักษาอยู่และไม่มีข้อมูลการกู้คืนหรือคีย์การกู้คืนอยู่ อย่างไรก็ตาม การฟอร์แมตไดร์ฟ จะทำให้ข้อมูลทั้งหมดบนไดร์ฟนั้นถูกลบทิ้งและไม่สามารถกู้คืนได้อีกต่อไป การฟอร์แมตไดร์ฟย่อมเป็นการลบข้อมูลอย่างถาวร ดังนั้น แนะนำให้ทำการสำรองข้อมูลที่สำคัญก่อนการดำเนินการนี้หากทำได้

การฟอร์แมตไดร์ฟที่ถูก BitLocker อาจทำได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และการกำหนดค่าที่มีอยู่ในระบบของคุณ ในบางกรณี BitLocker อาจป้องกันการเข้าถึงไดร์ฟหรือการทำฟอร์แมตไม่ได้ แต่ในบางกรณี BitLocker อาจถูกเข้าถึงหรือถอดการใช้งานได้จาก Command Prompt หรือโหมดที่ใช้สิทธิ์การดำเนินการสูงขึ้น

หากคุณต้องการทำการฟอร์แมตไดร์ฟที่มี BitLocker คุณสามารถลองใช้ Command Prompt โดยเปิด Command Prompt ด้วยสิทธิ์ Administrator แล้วใช้คำสั่ง format เพื่อลบข้อมูลบนไดร์ฟ แต่การทำนี้อาจเป็นการลบข้อมูลโดยสิ้นเชิงและไม่สามารถกู้คืนได้อีกต่อไป แนะนำให้ระวังและทำการสำรองข้อมูลก่อนดำเนินการใดๆ ที่สามารถส่งผลใหญ่ต่อข้อมูลที่อยู่บนไดร์ฟนั้นๆ