Samsung Galaxy S24 FE เปิดตัวมาพร้อมกับจอขนาดใหญ่ขึ้น 6.7 นิ้ว แบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเน้นประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นและยังได้มีการนำเสนอ ProVisual Engine ที่ถือเป็นการเข้าสู่ซีรีส์ FE เป็นครั้งแรก
ชิปเซ็ตและประสิทธิภาพ
ปีนี้ Samsung Galaxy S24 FE ทุกรุ่นจะใช้ชิป Exynos 2400e (เหมือนกันหมดทุกประเทศ) ซึ่ง Samsung ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดแต่คาดว่าคอร์ Cortex-X4 ตัวหลักจะทำงานที่ความเร็วสัญญาณนาฬิกาที่ต่ำลง อย่างไรก็ตาม จะมีการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานระยะยาวด้วยระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ขนาดใหญ่กว่าเดิม 1.1 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน โดยรุ่น S23 FE ของปีที่แล้วใช้ชิป Exynos 2200 และ Snapdragon 8 Gen 1 ซึ่งเปรียบเทียบแล้วจะพบว่าประสิทธิภาพของ S24 FE จะมีการอัปเกรดที่สูงขึ้นมาก
หน้าจอและดีไซน์
Galaxy S24 FE ใช้หน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว ใหญ่ขึ้น 0.3 นิ้วเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน และมีขนาดเท่ากับ Galaxy S24+ อย่างไรก็ตาม หน้าจอเป็น FHD+ OLED แทนที่จะเป็น QHD+ LTPO และสามารถปรับอัตราการรีเฟรชได้ที่ 120Hz และ 60Hz พร้อมฟีเจอร์ Vision Booster สำหรับการใช้งานในแสงจ้า
กล้องและฟีเจอร์ AI
ProVisual Engine ที่เปิดตัวจากซีรีส์แฟลกชิปได้ถูกนำมาใช้ใน S24 FE ด้วย นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Nightography (AI ISP) ที่ช่วยปรับภาพถ่ายในสภาวะแสงน้อยและระบบ AI ที่ปรับสีใน Super HDR กล้องหลักมีความละเอียด 50MP รูรับแสง f/1.8, กล้องเทเลโฟโต้ 3x ความละเอียด 8MP f/2.4, กล้องอัลตร้าไวด์ 12MP มุมกว้าง 123° f/2.2 และกล้องหน้า 10MP
แบตเตอรี่และการชาร์จ
Galaxy S24 FE มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,700mAh ใหญ่ขึ้นจากรุ่นก่อน 200mAh แต่ยังคงรองรับการชาร์จแบบมีสายที่ 25W (ชาร์จจาก 0-50% ใน 30 นาที) และการชาร์จแบบไร้สายที่ 15W
ขนาดและน้ำหนัก
ขนาดของตัวเครื่องคือ 162.0 x 77.3 x 8.0 มม. และหนัก 213 กรัม ซึ่งสูงขึ้น 4 มม. กว้างขึ้นเล็กน้อย และบางลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ S23 FE Galaxy S24+ มีขนาดเล็กกว่าเล็กน้อยเนื่องจากขอบหน้าจอที่บางกว่าและน้ำหนักเบากว่า 17 กรัม
การเชื่อมต่อและความทนทาน
Samsung Galaxy S24 FE รองรับการเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 6E (802.11ax) และ Bluetooth 5.3 และยังคงมาตรฐาน IP68 กันน้ำและฝุ่น (ทนทานต่อการจมน้ำลึก 1.5 เมตร เป็นเวลา 30 นาที)
ระบบปฏิบัติการและการอัปเดต
Galaxy S24 FE มาพร้อมกับ Android 14 และ OneUI 6.1 โดยจะได้รับการอัปเดตระบบปฏิบัติการเป็นเวลา 7 รุ่น และการอัปเดตแพทช์ความปลอดภัยเป็นเวลา 7 ปี
ฟีเจอร์ AI
Samsung Galaxy S24 FE มีฟีเจอร์ AI อาทิ Circle to Search (ค้นหาข้อมูลด้วยการวงรอบวัตถุที่สนใจ), Live Translate (แปลเสียงการสนทนาในสายโทรศัพท์และรองรับบางแอปพลิเคชันของบุคคลที่สาม), Interpreter (สำหรับการแปลแบบเรียลไทม์ในสถานการณ์ทั่วไป) และ Composer (ฟีเจอร์คีย์บอร์ดสำหรับเขียนอีเมลและโพสต์โซเชียลเน็ตเวิร์กจากคำสำคัญ) นอกจากนี้ Note Assist ยังช่วยในการจัดรูปแบบโน้ต, ถอดเสียงการบันทึกเสียง และแปลเอกสาร PDF ได้
สรุปสเปค Samsung Galaxy S24 FE
- หน้าจอ: Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 60/120Hz พร้อม Vision Booster
- กล้อง:
- กล้องหลัก: 50MP (รูรับแสง f/1.8) พร้อมระบบกันสั่น OIS
- กล้องเทเลโฟโต้: 8MP (3x Optical Zoom, รูรับแสง f/2.4)
- กล้องอัลตร้าไวด์: 12MP (มุมกว้าง 123°, รูรับแสง f/2.2)
- กล้องหน้า: 10MP (รูรับแสง f/2.4)
- รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 8K และซูมดิจิทัลสูงสุด 30 เท่า พร้อมเทคโนโลยี ProVisual Engine และ Nightography
- ชิปเซ็ต: Exynos 2400e (4nm)
- RAM & หน่วยความจำ:
- RAM 8GB
- ตัวเลือกหน่วยความจำ 128GB และ 256GB
- แบตเตอรี่: 4,700mAh ชาร์จไว 25W (ชาร์จ 50% ใน 30 นาที) และชาร์จไร้สาย 15W
- ระบบปฏิบัติการ: Android 14 พร้อม One UI 6.1 (ได้รับการอัปเดตระบบปฏิบัติการ 7 รุ่น และอัปเดตความปลอดภัย 7 ปี)
- การเชื่อมต่อ: 5G, Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3, รองรับ eSIM
- ความทนทาน: มาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP68
- ฟีเจอร์ AI: Circle to Search, Live Translate, Photo Assist, และอื่นๆ พร้อมรองรับภาษาไทย
สีและ Galaxy S24 FE มีให้เลือก 3 สี: สีน้ำเงิน, สีกราไฟต์ และสีมินต์
ราคา Galaxy S24 FE
- รุ่น 128GB ราคา 22,900 บาท
- รุ่น 256GB ราคา 25,900 บาท
การวางจำหน่าย Galaxy S24 FE เปิดให้พรีออเดอร์แล้วตั้งแต่วันนี้ และเริ่มจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 ตุลาคม 2567