ในปีนี้ แม้จะเป็นปีของสถาปัตยกรรม Zen 5 แต่ AMD ยังคงออกโปรเซสเซอร์ใหม่ให้กับซ็อกเก็ต AM4 ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2016 โดยรุ่นล่าสุด Ryzen 5 5600XT และ Ryzen 5 5600T ใช้สถาปัตยกรรม Zen 3 มาพร้อม 6 คอร์ 12 เธรด และอัตราการใช้พลังงาน 65W
รายละเอียด Ryzen 5 5600XT และ 5600T
ทั้งสองรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ปรับเพิ่มความเร็วในการทำงานจากรุ่นเดิม โดย Ryzen 5 5600XT มีความเร็วบูสต์ที่ 4.7GHz ในขณะที่ Ryzen 5 5600T มีความเร็วบูสต์อยู่ที่ 4.5GHz ทำให้ทั้งสองรุ่นนี้มีความเร็วสูงกว่า Ryzen 5 5600X และ Ryzen 5 5600 ที่ออกมาก่อนหน้านี้ โดย 5600XT มีราคาประมาณ 192 ดอลลาร์ ในขณะที่ 5600T อยู่ที่ 186 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่ารุ่นดั้งเดิมที่วางขายในราคาประมาณ 128 ดอลลาร์
AMD ยังให้กล่องระบายความร้อน Wraith Stealth ในทุกกล่อง ทำให้ไม่ต้องซื้อชุดระบายความร้อนเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม การเพิ่มราคาจากรุ่นดั้งเดิมส่งผลให้ผู้ใช้ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าก่อนตัดสินใจ โดยเฉพาะเมื่อต้องจ่ายเพิ่มเพียงเพื่อความเร็วเพิ่มขึ้นเพียง 100-200 MHz
ทางเลือกของผู้ใช้ AM4 และการสนับสนุนในระยะยาว
AM4 ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการคุ้มค่า เนื่องจากรองรับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น PCIe Gen 4 และ 3D V-Cache สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการซีพียูราคาประหยัด Ryzen 7 5700X ที่มี 8 คอร์ในราคาเพียง 158 ดอลลาร์ อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า
ถึงแม้ AMD จะก้าวไปข้างหน้ากับซ็อกเก็ต AM5 ซึ่งเข้าสู่เจเนอเรชันที่สองแล้ว แต่การคงการสนับสนุนซ็อกเก็ต AM4 แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการให้การสนับสนุนแพลตฟอร์มเก่าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับคำมั่นของ AMD ว่าจะคงการสนับสนุน AM4 จนกว่าต้นทุนการผลิตแรม DDR4 จะสูงกว่า DDR5
การเปิดตัวโปรเซสเซอร์ใหม่อย่างต่อเนื่องนี้ยังคงทำให้ผู้ใช้มีทางเลือกในการอัปเกรดระบบที่ใช้ AM4 ได้อย่างยืดหยุ่น