X
MODIFY: Technology News
Technology, Innovation, and Education เทคนิดการใช้งาน สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ เรื่องไอที

บทสรุปใกล้สิ้นสุด TikTok ในสหรัฐฯ อเมริกันถือหุ้น 80% ให้ Oracle ดูแลเรื่องความปลอดภัยและอัลกอริทึม

ดีล TikTok ในสหรัฐฯ เดินหน้า: นักลงทุนอเมริกันเตรียมถือหุ้น 80% Oracle ดูแลความปลอดภัยและอัลกอริทึม

TikTok แอปโซเชียลยอดนิยมที่เป็นของ ByteDance จากจีน กำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญ หลังจากการเจรจาที่ยืดเยื้อมานานกว่า 4 ปี ล่าสุดสหรัฐฯ และจีนบรรลุกรอบข้อตกลงเบื้องต้น โดยจะให้กลุ่มนักลงทุนอเมริกันเข้ามาถือหุ้น 80% และเหลือสัดส่วนที่จีนยังถืออยู่บางส่วน เพื่อให้ธุรกิจในสหรัฐฯ สามารถเดินหน้าต่อได้

ในกรอบข้อตกลงใหม่นี้ กลุ่มนักลงทุนสหรัฐฯ นำโดย Oracle, Silver Lake และ Andreessen Horowitz จะเข้ามาควบคุมการดำเนินงาน TikTok U.S. โดยบอร์ดบริหารส่วนใหญ่จะเป็นชาวอเมริกัน และมี 1 ที่นั่งซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นผู้แต่งตั้งโดยตรง ทั้งนี้ Oracle จะทำหน้าที่หลักในการดูแลความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้ รวมถึงสร้างและรีเทรนเวอร์ชันใหม่ของอัลกอริทึมที่ใช้ภายในสหรัฐฯ ขณะที่ ByteDance จะไม่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลหรืออิทธิพลใด ๆ เหนือระบบอีกต่อไป

Bloomberg รายงานว่าหลังดีลเสร็จสิ้น แอป TikTok เดิมอาจถูกถอดออกจากสหรัฐฯ และผู้ใช้อาจต้องย้ายไปยังแพลตฟอร์มใหม่ที่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดว่าจะมีฟีเจอร์หรือความแตกต่างจากแอปเดิมอย่างไร แม้ยังไม่ชัดเจน แต่เป็นสัญญาณว่าตลาดโซเชียลมีเดียในสหรัฐฯ กำลังจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

ที่ผ่านมา การแย่งสิทธิ์ถือครอง TikTok U.S. มีผู้สนใจหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม “The People’s Bid for TikTok” ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Frank McCourt พร้อมนักลงทุนชื่อดังอย่าง Alexis Ohanian, Kevin O’Leary และ Tim Berners-Lee รวมถึง “American Investor Consortium” ที่มี Jesse Tinsley ผู้ก่อตั้ง Employer.com, David Baszucki ผู้ร่วมก่อตั้ง Roblox และ YouTuber ชื่อดัง MrBeast นอกจากนี้ ยังมีบริษัทยักษ์ใหญ่และบุคคลชั้นนำอีกหลายราย เช่น Amazon, Microsoft, Walmart, และอดีตรัฐมนตรีคลัง Steven Mnuchin ที่เคยแสดงความสนใจ

อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดกรอบข้อตกลงล่าสุดสะท้อนว่ากลุ่มนักลงทุนอเมริกันนำโดย Oracle จะเป็นผู้มีอำนาจหลักในการบริหารจัดการ TikTok U.S. โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้และอิสระจากการควบคุมของจีน

ที่มา – techcrunch.com