การเปิดตัว Sora แอปโซเชียลใหม่ของ OpenAI เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2025 จุดกระแสถกเถียงทั้งจากนักวิจัยปัจจุบันและอดีตพนักงานที่ออกมาแสดงความเห็นบน X โดยแอปนี้มีลักษณะเป็นฟีดวิดีโอสั้นแนว TikTok ที่สร้างจาก AI และมีวิดีโอดีปเฟก Sam Altman อยู่จำนวนมาก หลายฝ่ายตั้งคำถามว่าแอปดังกล่าวสอดคล้องกับพันธกิจเดิมของ OpenAI ที่ประกาศไว้ว่าเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติหรือไม่
John Hallman นักวิจัยด้าน pretraining ของ OpenAI เขียนว่า “AI-based feeds are scary” (ฟีดที่ขับเคลื่อนด้วย AI นั้นน่ากลัว) พร้อมยอมรับว่ารู้สึกกังวลตอนที่ได้ยินเรื่อง Sora 2 แต่ก็เชื่อว่าทีมงานพยายามอย่างดีที่สุดในการออกแบบให้ผู้ใช้มีประสบการณ์ที่ดี ด้าน Boaz Barak นักวิจัยอีกคนและศาสตราจารย์จาก Harvard กล่าวว่า Sora 2 มีความน่าทึ่งทางเทคนิค แต่ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดของโซเชียลมีเดียรุ่นก่อน ๆ ได้สำเร็จ ขณะเดียวกัน Rohan Pandey อดีตนักวิจัย OpenAI ใช้โอกาสนี้ชวนคนเข้าร่วมสตาร์ทอัพใหม่ Periodic Labs ที่พัฒนาระบบ AI เพื่อการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์แทน
Sam Altman ซีอีโอ OpenAI อธิบายว่าการเปิดตัว Sora เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อแสดงให้เห็นความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและสร้างรอยยิ้มให้ผู้ใช้ ระหว่างที่บริษัทยังคงโฟกัสงานวิจัยเพื่อมุ่งไปสู่ AGI พร้อมยอมรับว่าจำเป็นต้องหารายได้มาสนับสนุนการใช้พลังประมวลผลมหาศาล “เราจำเป็นต้องใช้ทุนในการสร้าง AI ที่สามารถทำวิทยาศาสตร์ได้ แต่ก็เป็นเรื่องดีที่ได้แสดงเทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้คนเห็น ทำให้พวกเขายิ้มได้ และหวังว่าจะทำรายได้เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายด้าน compute” Altman กล่าว
การเปิดตัวนี้ตอกย้ำความตึงเครียดในตัวตนของ OpenAI ที่ทั้งเป็นห้องวิจัย AI เชิงวิชาการ และในขณะเดียวกันก็เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก กำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านไปสู่รูปแบบ for-profit เพื่อระดมทุนและเตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ ขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลอย่างอัยการสูงสุดรัฐแคลิฟอร์เนียแสดงความกังวลว่าพันธกิจด้านความปลอดภัยขององค์กรไม่แสวงหากำไรยังคงถูกยึดไว้หรือไม่
Sora เพิ่งเปิดตัวได้เพียงหนึ่งวัน แต่ถือเป็นก้าวสำคัญของ OpenAI ในธุรกิจผู้บริโภคที่ต่างจาก ChatGPT ซึ่งมุ่งเน้นความเป็นประโยชน์ Sora ถูกออกแบบเพื่อความสนุกและการสร้างคลิป AI ที่แชร์ต่อกัน แม้บริษัทจะประกาศว่าจะไม่ปรับอัลกอริทึมเพื่อให้ผู้ใช้เสพติด และจะมีระบบเตือนเมื่อใช้งานนานเกินไป แต่ก็ยังถูกจับตามองว่ามีฟีเจอร์บางอย่างที่กระตุ้นให้ผู้ใช้มีปฏิสัมพันธ์ต่อเนื่อง เช่นอีโมจิไดนามิกที่ปรากฏทุกครั้งเมื่อกดถูกใจวิดีโอ
อนาคตของ Sora จึงขึ้นอยู่กับว่า OpenAI จะสามารถทำให้แอปเติบโตได้โดยไม่ซ้ำรอยความผิดพลาดของโซเชียลมีเดียในอดีตหรือไม่ ขณะที่กระแสความกังวลเรื่องความสอดคล้องกับพันธกิจดั้งเดิมของบริษัทก็ยังคงรอคำตอบต่อไป
ที่มา – techcrunch.com