Meta เจ้าของแพลตฟอร์ม Instagram ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่จะเปิดให้ ผู้ปกครองสามารถควบคุมการใช้งานแชตบอต AI ของบุตรหลาน ได้โดยตรง ตั้งแต่ต้นปี 2026 เป็นต้นไป โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับความปลอดภัยของผู้ใช้กลุ่มเยาวชนในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นจากความกังวลที่พ่อแม่จำนวนมากมีต่อการใช้งาน AI ของวัยรุ่น ทั้งเรื่อง “คนที่ลูกหลานคุยด้วย” “เนื้อหาที่พวกเขาได้รับ” และ “เวลาที่ใช้กับแพลตฟอร์ม” ซึ่ง Meta ยอมรับว่าเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องจัดการอย่างจริงจัง การควบคุมใหม่จึงถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ปกครองมีข้อมูลและอำนาจในการตัดสินใจมากขึ้นกว่าที่เคย
ฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ปกครองควบคุมได้มากขึ้น
- ปิดการเข้าถึงแชต AI แบบตัวต่อตัว – ผู้ปกครองสามารถปิดไม่ให้บุตรหลานพูดคุยกับแชตบอต AI ได้โดยตรง แต่ยังคงใช้ฟีเจอร์ผู้ช่วย AI หลักของแพลตฟอร์มได้ตามปกติ โดยมีการป้องกันอัตโนมัติที่เหมาะสมกับอายุ
- บล็อกเฉพาะ AI ที่ไม่ต้องการ – หากไม่ต้องการปิดทั้งหมด ผู้ปกครองสามารถเลือกบล็อกเฉพาะตัวละคร AI ที่เห็นว่าไม่เหมาะสมได้
- ดูหัวข้อที่บุตรหลานพูดคุยกับ AI – ระบบใหม่จะแสดงข้อมูลหัวข้อสนทนาเพื่อให้ผู้ปกครองสามารถพูดคุยและให้คำแนะนำได้ตรงจุดมากขึ้น
Meta ย้ำว่าจุดประสงค์ของฟีเจอร์เหล่านี้ไม่ใช่เพื่อแทนที่การสื่อสารระหว่างคน แต่เพื่อให้ AI เป็นเพียง “เครื่องมือเสริม” ที่ช่วยให้วัยรุ่นเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เช่น การเขียนโค้ด การออกแบบ หรือช่วยทำการบ้าน ได้อย่างปลอดภัยและเหมาะสมกับวัย
มาตรการความปลอดภัยสำหรับบัญชีเยาวชน
ปัจจุบัน บัญชีเยาวชน (Teen Accounts) บนแพลตฟอร์มของ Meta ได้รับการปกป้องด้วยมาตรการหลายด้าน เช่น การกำหนดให้แชตบอต AI ให้คำตอบตามระดับ PG-13 หลีกเลี่ยงการพูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อไม่เหมาะสมอย่างการทำร้ายตัวเองหรือความสัมพันธ์เชิงชู้สาว และจำกัดให้พูดคุยได้เฉพาะในหัวข้อด้านการเรียน กีฬา และงานอดิเรกเท่านั้น
ผู้ปกครองยังสามารถกำหนดเวลาใช้งานรวมของแอปได้ เช่น จำกัดเวลาเหลือเพียง 15 นาทีต่อวัน ซึ่งรวมเวลาที่ใช้พูดคุยกับ AI ด้วย หากวัยรุ่นพยายามหลีกเลี่ยงระบบตรวจสอบ Meta ยังใช้ AI ในการระบุและจัดให้บัญชีนั้นอยู่ภายใต้มาตรการป้องกันโดยอัตโนมัติ
เริ่มใช้งานต้นปี 2026 ใน 4 ประเทศแรก
Meta ยืนยันว่าระบบควบคุมใหม่เหล่านี้จะเริ่มทยอยเปิดให้ใช้งานตั้งแต่ต้นปี 2026 โดยเริ่มต้นที่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา และออสเตรเลีย ก่อนขยายไปยังประเทศอื่นในภายหลัง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ระยะยาวในการสร้างสภาพแวดล้อมออนไลน์ที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับเยาวชนในยุคที่ AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน
ที่มา – Meta