มีรายงานว่า OpenAI ได้ส่งจดหมายอย่างเป็นทางการถึงรัฐบาลสหรัฐฯ โดยเสนอให้ขยายขอบเขตของสิทธิ์ลดภาษีในโครงการ Chips Act เพื่อครอบคลุมถึงศูนย์ข้อมูล AI และอุปกรณ์โครงข่ายพลังงานที่เกี่ยวข้อง จดหมายฉบับนี้ลงนามโดย Chris Lehane หัวหน้าฝ่ายกิจการระหว่างประเทศของ OpenAI และส่งถึง Michael Kratsios ผู้อำนวยการฝ่ายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนโยบายของทำเนียบขาว
Lehane ระบุในจดหมายว่า รัฐบาลควรพิจารณา “ขยายขอบเขตของ Advanced Manufacturing Investment Credit (AMIC)” ซึ่งปัจจุบันให้เครดิตภาษีร้อยละ 35 เฉพาะกับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ให้ครอบคลุมไปถึงส่วนประกอบไฟฟ้า เซิร์ฟเวอร์ AI และศูนย์ข้อมูล AI ด้วย โดยชี้ว่าการขยายสิทธิ์นี้จะช่วยลดต้นทุนทางการเงิน กระตุ้นการลงทุนเอกชน และเร่งการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ภายในประเทศ
นอกจากนั้น OpenAI ยังเรียกร้องให้รัฐบาล “เร่งกระบวนการอนุญาตและการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม” สำหรับโครงการก่อสร้างศูนย์ข้อมูล และจัดตั้ง “คลังสำรองวัตถุดิบเชิงกลยุทธ์” เช่น ทองแดง อะลูมิเนียม และแร่หายากที่ผ่านการแปรรูป ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI
จดหมายฉบับดังกล่าวเผยแพร่ต่อสาธารณะตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2025 แต่เพิ่งได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางหลังจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทออกมาให้ความเห็นต่อสื่อ โดย Sarah Friar ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) กล่าวในงานของ Wall Street Journal ว่ารัฐบาลควร “สนับสนุน” เงินกู้โครงสร้างพื้นฐานของ OpenAI อย่างไรก็ตาม เธอได้ออกมาชี้แจงภายหลังผ่าน LinkedIn ว่า “OpenAI ไม่ได้ขอการค้ำประกันจากรัฐบาลสำหรับโครงการศูนย์ข้อมูล” และยอมรับว่าคำว่า “backstop” ที่เธอใช้ “ทำให้เข้าใจผิดจากเจตนาที่แท้จริง”
ในเวลาต่อมา Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ก็ได้โพสต์ข้อความเพิ่มเติมโดยย้ำว่า “บริษัทไม่ได้มีและไม่ต้องการการค้ำประกันจากรัฐบาล” พร้อมระบุว่า “รัฐบาลไม่ควรเลือกผู้ชนะหรือผู้แพ้ และไม่ควรให้ผู้เสียภาษีต้องแบกรับผลขาดทุนของบริษัทเอกชน”
Altman ยังกล่าวด้วยว่า OpenAI คาดว่าจะมีรายได้รวมประจำปีสิ้นปี 2025 สูงกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ และตั้งเป้าเติบโตสู่ระดับ “หลายแสนล้านดอลลาร์” ภายในปี 2030 โดยในอีก 8 ปีข้างหน้า บริษัทได้ทำ “พันธสัญญาการลงทุนรวมกว่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์” สำหรับการสร้างและขยายโครงสร้างพื้นฐาน AI ทั่วสหรัฐฯ
ข้อเสนอนี้จึงสะท้อนแนวทางที่ OpenAI พยายามผลักดันให้รัฐบาลเข้ามามีบทบาทสนับสนุนในระดับนโยบาย โดยเน้นการสร้างระบบพลังงานและศูนย์ข้อมูลที่แข็งแกร่ง เพื่อให้สหรัฐฯ เป็นฐานกลางของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในอนาคต
ที่มา – techcrunch.com