จากบทความประกาศอย่างเป็นทางการของ WordPress.com มีการยืนยันการปล่อย WordPress 6.9 ซึ่งเน้นทำให้การใช้งานของบล็อกเกอร์ ครีเอเตอร์ และเจ้าของเว็บไซต์ทำงานได้สะดวกขึ้น ทั้งในด้านความเร็วเวิร์กโฟลว์ การทำงานร่วมกันของทีม และการเพิ่มบล็อกใหม่เพื่อเล่าเรื่องบนหน้าเว็บโดยไม่ต้องใช้ปลั๊กอินหรือโค้ดเสริม

จุดแรกที่เน้นใน WordPress 6.9 คือการทำงานร่วมกันและการเตรียมคอนเทนต์ได้จากในโพสต์โดยตรง ผู้เขียนและทีมสามารถจัดการทุกอย่างใน Site Editor ได้มากขึ้นโดยไม่ต้องไปยุ่งกับโค้ดด้านหลัง ทำให้กระบวนการแก้ไข อนุมัติ และเตรียมเผยแพร่เนื้อหาต่อเนื่องขึ้น

สำหรับฟีเจอร์ Notes แบบระดับบล็อกหรือ Block level Notes ทำให้สมาชิกทีมสามารถฝากคอมเมนต์หรือโน้ตลงบนบล็อกที่ต้องการได้โดยตรง มีระบบเธรดและการปิดโน้ตเมื่อแก้ไขเสร็จ พร้อมแจ้งเตือนทางอีเมลให้ผู้เขียนหรือเจ้าของโพสต์เมื่อมีโน้ตใหม่เข้ามา ช่วยเก็บ feedback เกี่ยวกับการแก้คำ เนื้อหา การออกแบบ หรือการอัปเดตหลังเผยแพร่ไว้ในที่เดียว

ฟีเจอร์ Hide และ Show blocks ช่วยให้สามารถซ่อนบล็อกชั่วคราวโดยไม่ต้องลบ เหมาะกับคอนเทนต์ที่ใช้เป็นช่วงฤดูกาลหรือประกาศที่นำมาใช้ซ้ำบ่อย เช่น โปรโมชันตามฤดู หรือแบนเนอร์แจ้งอัปเดต เมื่อถึงเวลาก็เพียงเปิดการแสดงผลอีกครั้งโดยใช้ตัวสลับความมองเห็นในทูลบาร์ของบล็อก

การลากวางแบบใหม่หรือ Visual drag and drop ทำให้เห็นตัวอย่างตำแหน่งจริงขณะลากบล็อก ช่วยให้จัดเลย์เอาท์ได้แม่นขึ้นโดยไม่ต้องเดา ลดการเลื่อนผิดที่แล้วต้องมาแก้ทีหลัง ปัจจุบันรองรับการลากบล็อกเดี่ยว และมีแผนจะรองรับการลากบล็อกหลายตัวพร้อมกันในเวอร์ชันถัดไป

ยังมีเครื่องมือ workflow อื่นอย่าง Allowed blocks UI ที่ย้ายการกำหนดว่าในคอนเทนเนอร์หนึ่งๆ จะให้ใช้บล็อกประเภทไหนได้บ้างมาไว้ในอินเทอร์เฟซปกติ ไม่ต้องแก้ผ่านโค้ด ทำให้สร้างเลย์เอาท์ซับซ้อนได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเอง และมีคีย์ลัดช่วยคัดลอกการตั้งค่าไปใช้ซ้ำในส่วนอื่นได้เร็วขึ้น

ในส่วนของการเล่าเรื่องและการจัดแสดงข้อมูล WordPress 6.9 เพิ่มชุดบล็อกใหม่เพื่อให้สร้างเนื้อหาแบบอินเทอร์แอกทีฟโดยไม่ต้องติดตั้งปลั๊กอินเพิ่ม เริ่มจาก Accordion block ที่ช่วยสร้างส่วนเนื้อหาพับได้ มีหัวข้อและเนื้อหาย่อย เหมาะกับการทำคำถามที่พบบ่อยหรือรายละเอียดเพิ่มเติมที่ไม่อยากให้กินพื้นที่หน้าจอ

Term Query block และบล็อกประกอบอย่าง Term Template, Term Name และ Term Count ช่วยให้สร้างหน้าหมวดหมู่หรือแท็กที่มีโครงสร้างชัดเจนแบบไดนามิก สามารถจัดเรียงและกำหนดให้แต่ละรายการเป็นลิงก์ได้ง่าย เมื่อใช้ร่วมกับ Term Description block จะเหมาะกับเว็บแบบไดเรกทอรีหรือเว็บแมกกาซีนที่มีระบบกรองและการนำทางย่อยหลายระดับ

Time to Read block ช่วยแสดงเวลาโดยประมาณที่ใช้ในการอ่านบทความ จากจำนวนคำและช่วงเวลาที่ประเมิน ทำให้ผู้อ่านรู้ล่วงหน้าว่าบทความใช้เวลาอ่านประมาณเท่าไร แม้จะไม่ส่งผลตรงต่อการจัดอันดับค้นหา แต่ช่วยด้านประสบการณ์ผู้ใช้ซึ่งเกี่ยวข้องทางอ้อมกับสถิติเข้าชม

Math block เพิ่มการรองรับการแสดงสูตรคณิตศาสตร์และสัญลักษณ์เชิงเทคนิคผ่าน LaTeX ทำให้บล็อกด้านวิชาการ วิทยาศาสตร์ หรือบทเรียนออนไลน์แสดงสมการได้สวยงามและอ่านง่ายโดยไม่ต้องใช้ภาพประกอบตลอดเวลา

สำหรับระบบคอมเมนต์ WordPress 6.9 แยกฟังก์ชันการแสดงจำนวนและลิงก์คอมเมนต์ออกเป็น Comment Count block และ Comment Link block ทำให้สามารถเลือกตำแหน่งแสดงจำนวนคอมเมนต์และปุ่มเข้าไปดูคอมเมนต์ได้อิสระ และเลือกได้ว่าบทความไหนอนุญาตให้แสดงคอมเมนต์หรือไม่ ฟังก์ชันนี้เคยมีเฉพาะใน Site Editor แต่ตอนนี้ขยายออกมาทั้งประสบการณ์การแก้ไข

ในด้านการจัดการเทมเพลตและเลย์เอาท์ WordPress 6.9 เพิ่มความสามารถในการสร้างเลย์เอาท์ที่ใช้ซ้ำได้สะดวกขึ้น ผ่าน Starter pattern modal ที่ตอนนี้แสดงในโพสต์ทุกประเภทที่รองรับแพทเทิร์น ไม่จำกัดแค่เพจ ทำให้เพิ่มเลย์เอาท์โครงสร้างพร้อมใช้ในโพสต์ประเภทอื่นได้รวดเร็ว

ตัวเลือก Fit Text หรือข้อความยืดให้พอดีใน Heading และ Paragraph blocks จะปรับขนาดตัวอักษรให้พอดีกับคอนเทนเนอร์โดยอัตโนมัติ ช่วยจัดหัวข้อใหญ่หรือส่วน Hero ให้ดูเรียบร้อยสวยงามในทุกหน้าจอโดยไม่ต้องเขียน CSS เอง

Gallery block มีตัวเลือกกำหนดอัตราส่วนภาพหรือ aspect ratio ใหม่ ที่สั่งให้ภาพทั้งหมดในแกลเลอรีใช้สัดส่วนเดียวกันได้ในคลิกเดียว ลดการต้องไปปรับภาพทีละรูปหรือใช้โค้ดเสริม ส่วน Cover block ที่ใช้วิดีโอพื้นหลังสามารถตั้งภาพโปสเตอร์ไว้ให้ผู้ใช้ที่อินเทอร์เน็ตช้าหรือยังโหลดวิดีโอไม่เสร็จเห็นภาพนิ่งแทน ช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานราบรื่นขึ้น

อีกฟีเจอร์สำคัญสำหรับผู้ดูแลระบบคือ Command Palette ที่ขยายการใช้งานไปทั่วแดชบอร์ด WP Admin ไม่ได้จำกัดเฉพาะใน Site Editor อีกต่อไป เพียงกด Ctrl หรือ Cmd แล้วตามด้วย K ในหน้าจัดการใดๆ เช่น Posts Pages Media Settings หรือ Site Editor ก็จะเรียกกล่องคำสั่งขึ้นมาเพื่อค้นหาและเรียกใช้งานฟังก์ชันหรือข้ามไปยังเนื้อหาต่างๆ ได้ทันที

นักพัฒนายังสามารถลงทะเบียนคำสั่งเพิ่มเติมผ่านระบบ Extensible Commands เพื่อให้ใช้งานคำสั่งเฉพาะปลั๊กอินหรือเวิร์กโฟลว์ของตัวเองได้รวดเร็วขึ้น โดยผู้ใช้ปลายทางเรียกใช้ผ่าน Command Palette เดียวกัน

ด้านประสิทธิภาพ WordPress 6.9 รวมการปรับปรุงหลายส่วนเข้าด้วยกันเพื่อให้หน้าเว็บโหลดเร็วขึ้นโดยไม่ต้องตั้งค่าเพิ่มเอง เช่น การโหลด CSS ของบล็อกแบบ on demand เฉพาะบล็อกที่ถูกใช้จริงในหน้านั้นๆ ช่วยลดจำนวนสไตล์ที่ไม่จำเป็นสำหรับธีมแบบคลาสสิก และระบบจัดการการทำงานของ cron ให้เลื่อนไปหลังจากหน้าโหลดแล้วเพื่อช่วยให้ค่า Time to First Byte ดีขึ้น

นอกจากนี้ยังมีระบบจัดการการสร้างเทมเพลตและสไตล์ของบล็อกในระดับเอาต์พุต HTML ที่ดีขึ้น เช่น การย้ายสไตล์ที่จำเป็นไปไว้ในส่วนหัว โหลดเฉพาะสไตล์ของบล็อกที่ใช้งานและไม่โหลดของบล็อกที่ถูกซ่อน ซึ่งช่วยลดขนาด CSS และทำให้หน้าเว็บตอบสนองได้ไวขึ้นโดยอัตโนมัติ

WordPress 6.9 เปิดใช้งานแล้วบน WordPress.com ทำให้เจ้าของเว็บไซต์และบล็อกเกอร์สามารถลองใช้ฟีเจอร์ใหม่อย่าง Notes บล็อกเล่าเรื่องรูปแบบใหม่ เทมเพลตที่จัดการได้ยืดหยุ่น และ Command Palette ทั่วแดชบอร์ดได้ทันที เพื่อดูว่าเครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้การสร้างเนื้อหาและการจัดการเว็บในแต่ละวันสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้นแค่ไหน

ที่มา: WordPress.com