Android แอปผู้ดูแลระบบอุปกรณ์ คืออะไร ตรวจสอบแอปเหล่านี้อย่างไร

setting icon Android

แอปผู้ดูแลระบบอุปกรณ์ (Device Administrator App) คืออะไร


บทความนี้จะขอพูดถึงสิทธิ์การเข้าถึงการใช้งานของผู้ใช้มือถือ Andriod เกี่ยวกับ แอปผู้ดูแลระบบอุปกรณ์ (Device Administrator App) ที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบหรือเคยได้ยินมาบ้าง แอปผู้ดูแลระบบอุปกรณ์ คืออะไร มีหน้าที่อะไร และทำไมเราต้องมาตรวจสอบว่าแอปไหนบ้างที่ใช้สิทธิ์นี้อยู่ หากใครยังไม่เข้าใจแนะนำให้ลองอ่านบทความนี้และทำความเข้าใจให้มากขึ้นเกี่ยวกับ แอปผู้ดูแลระบบอุปกรณ์กัน

แอปผู้ดูแลระบบอุปกรณ์ (Device Administrator App)

แอปผู้ดูแลระบบอุปกรณ์ (Device Administrator App) คืออะไร

แอปผู้ดูแลระบบอุปกรณ์ (Device Administrator App) บนมือถือ Android เป็นแอปที่ได้รับสิทธิ์พิเศษในการจัดการและควบคุมฟังก์ชันของอุปกรณ์อย่างลึกซึ้ง โดยแอปเหล่านี้สามารถใช้เพื่อ

  • ล็อกหน้าจออัตโนมัติ
  • ลบข้อมูลในกรณีที่อุปกรณ์หาย
  • บังคับใช้รหัสผ่านที่ปลอดภัย
  • ควบคุมการใช้งานฟีเจอร์บางอย่างของอุปกรณ์

แอปประเภทนี้มักถูกใช้งานในองค์กรหรือธุรกิจที่ต้องการควบคุมความปลอดภัยของอุปกรณ์ที่พนักงานใช้งาน เช่น แอปจัดการอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยหรือแอปที่ใช้ในการทำงานทางไกล

แอปทีได้สิทธิ์ ผู้ดูแลระบบอุปกรณ์” (Device Administrator) ทำอะไรได้บ้าง

แอปที่ได้รับสิทธิ์เป็น “ผู้ดูแลระบบอุปกรณ์” (Device Administrator) บนอุปกรณ์ Android สามารถดำเนินการและควบคุมอุปกรณ์ในระดับที่ลึกขึ้นมากกว่าปกติ สิทธิ์เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้แอปที่เชื่อถือได้ เช่น แอปสำหรับความปลอดภัยหรือการจัดการอุปกรณ์องค์กร สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาดูรายละเอียดสิ่งที่แอปผู้ดูแลระบบอุปกรณ์สามารถทำได้

  1. ล็อกหน้าจออัตโนมัติ แอปสามารถล็อกหน้าจอได้ทันทีเมื่อมีการตั้งค่าหรือเงื่อนไขที่กำหนด เช่น การล็อกเมื่ออุปกรณ์ถูกขโมย หรือล็อกเมื่อพนักงานละเลยการใช้รหัสผ่านที่ปลอดภัย
  2. ตั้งค่ารหัสผ่าน บังคับให้ผู้ใช้ต้องตั้งค่ารหัสผ่านความปลอดภัย เช่น การตั้งค่า PIN, Pattern, Password หรือ Fingerprint เพื่อปลดล็อกอุปกรณ์ นอกจากนี้ยังสามารถบังคับให้ใช้รหัสผ่านที่ซับซ้อนตามที่องค์กรต้องการ เช่น ความยาวขั้นต่ำของรหัสผ่าน
  3. ลบข้อมูลระยะไกล (Factory Reset) ในกรณีที่อุปกรณ์ถูกขโมยหรือสูญหาย แอปที่ได้รับสิทธิ์เป็นผู้ดูแลระบบอุปกรณ์สามารถสั่งล้างข้อมูลทั้งหมดบนอุปกรณ์ (Factory Reset) ได้ระยะไกล เพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญไม่ให้ตกอยู่ในมือของผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต
  4. ลบข้อมูลแอป สามารถล้างข้อมูลของแอปใด ๆ ที่ติดตั้งอยู่บนอุปกรณ์ โดยเฉพาะข้อมูลที่อยู่ในแอปนั้นๆ โดยไม่ต้องลบแอปทั้งหมด ซึ่งเหมาะกับกรณีที่แอปมีข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
  5. ป้องกันการถอนการติดตั้งแอป แอปที่ได้รับสิทธิ์นี้จะไม่สามารถถูกถอนการติดตั้งได้ง่ายๆ เว้นแต่จะถูกปิดการทำงานในส่วนของผู้ดูแลระบบก่อน วิธีนี้ช่วยป้องกันไม่ให้แอปถูกลบโดยไม่ได้รับอนุญาต เช่น ในกรณีของแอปป้องกันไวรัส หรือแอปควบคุมการทำงานในองค์กร
  6. ตั้งระยะเวลาการล็อกหน้าจอ สามารถตั้งเวลาการล็อกหน้าจออัตโนมัติเมื่อไม่มีการใช้งาน หรือเมื่อมีการใช้แอปหรืออุปกรณ์ในเวลาที่กำหนด
  7. ติดตามตำแหน่ง แอปสามารถเข้าถึงและติดตามตำแหน่งของอุปกรณ์แบบเรียลไทม์หรือในช่วงเวลาที่กำหนดได้ ซึ่งมีประโยชน์ในกรณีอุปกรณ์หายหรือถูกขโมย
  8. ควบคุมการใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ของอุปกรณ์ แอปสามารถบังคับให้เปิด/ปิดฟีเจอร์บางอย่างของอุปกรณ์ เช่น บังคับปิด Wi-Fi, Bluetooth หรือปิดการเข้าถึงการตั้งค่าเฉพาะบางอย่าง
  9. ตรวจสอบการใช้งานอุปกรณ์ แอปบางตัวอาจได้รับสิทธิ์ในการบันทึกหรือตรวจสอบการใช้งานอุปกรณ์ เช่น การดูว่าแอปไหนถูกเปิดใช้งานบ่อยที่สุด หรือการตรวจสอบว่าผู้ใช้เปิดอุปกรณ์เมื่อใดและใช้งานนานเท่าไร
  10. บังคับใช้การตั้งค่าในองค์กร แอปจัดการอุปกรณ์ในองค์กร (MDM – Mobile Device Management) สามารถบังคับให้ผู้ใช้ปฏิบัติตามนโยบายความปลอดภัยขององค์กร เช่น การห้ามติดตั้งแอปจากแหล่งที่ไม่รู้จัก หรือการห้ามใช้แอปบางประเภทในอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงาน
  11. ปิดการเข้าถึงหรือฟีเจอร์เฉพาะบางแอป แอปที่ได้รับสิทธิ์เป็นผู้ดูแลระบบอุปกรณ์สามารถปิดหรือบล็อกฟีเจอร์บางอย่างได้ เช่น การบล็อกการใช้งานแอปที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือการบล็อกการเข้าถึงการตั้งค่าบางอย่างของอุปกรณ์
  12. จัดการข้อมูลการสำรองข้อมูล แอปสามารถจัดการการสำรองข้อมูล เช่น บังคับให้สำรองข้อมูลตามกำหนดการ หรือปิดการสำรองข้อมูลอัตโนมัติหากต้องการควบคุมข้อมูลที่อุปกรณ์สำรองไว้

แอปไหนบ้างที่อาจขอสิทธิ์เข้าถึงแอปผู้ดูแลระบบอุปกรณ์ (Device Administrator App)

แอปที่มักจะขอสิทธิ์ “ผู้ดูแลระบบอุปกรณ์” (Device Administrator) บน Android มักเกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยและการจัดการอุปกรณ์ที่ลึกซึ้งขึ้น โดยแอปประเภทที่อาจขอสิทธิ์นี้ได้แก่

  1. แอปธนาคาร: เช่นแอปธนาคารออนไลน์หรือแอปที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางการเงินที่ต้องการความปลอดภัยสูง
  2. แอปด้านความปลอดภัย: เช่น แอปป้องกันไวรัสหรือแอปที่ใช้ติดตามและจัดการอุปกรณ์ในกรณีสูญหายหรือถูกขโมย
    • ตัวอย่าง: McAfee, Kaspersky, Avast, Norton
  3. แอปจัดการอุปกรณ์ในองค์กร (MDM – Mobile Device Management): มักใช้ในองค์กรเพื่อควบคุมการใช้งานอุปกรณ์มือถือของพนักงาน
    • ตัวอย่าง: Microsoft Intune, Google Workspace Device Policy, VMware Workspace ONE
  4. แอปล็อกหน้าจอหรือแอปที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยหน้าจอ
    • ตัวอย่าง: แอปล็อกหน้าจอด้วยรหัสผ่านหรือ PIN ที่เพิ่มความปลอดภัยให้กับอุปกรณ์
  5. แอปค้นหามือถือในกรณีสูญหาย: เช่น แอปที่ใช้ติดตามตำแหน่งและลบข้อมูลระยะไกล
    • ตัวอย่าง: Find My Device ของ Google, Cerberus
  6. แอปควบคุมการใช้งานมือถือของบุตรหลาน: แอปควบคุมเวลาการใช้งานหรือบล็อกเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม
    • ตัวอย่าง: Google Family Link, Qustodio

มัลแวร์หรือไวรัสมีสิทธิ์ใช่ฟีเจอร์นี้ไหม

มัลแวร์หรือไวรัสสามารถพยายามขอสิทธิ์ “ผู้ดูแลระบบอุปกรณ์” (Device Administrator) ได้ หากได้รับสิทธิ์นี้แล้ว อาจทำให้มัลแวร์หรือไวรัสสามารถควบคุมอุปกรณ์ในระดับที่ลึกซึ้งขึ้น เช่น

  • ป้องกันไม่ให้ถูกถอนการติดตั้ง
  • ล็อกหรือควบคุมหน้าจออุปกรณ์
  • ลบข้อมูลจากอุปกรณ์
  • ติดตามตำแหน่งของอุปกรณ์

มัลแวร์อาจใช้วิธีการหลอกลวงให้ผู้ใช้มอบสิทธิ์โดยการปลอมตัวเป็นแอปที่ดูปกติหรือมีประโยชน์ ดังนั้น การตรวจสอบแอปที่ติดตั้งและสิทธิ์ที่แอปขอเป็นสิ่งสำคัญมาก หากพบว่าแอปใดขอสิทธิ์นี้โดยไม่จำเป็น ควรหลีกเลี่ยงหรือตรวจสอบแหล่งที่มาของแอปอย่างละเอียด

หากสงสัยว่าอุปกรณ์อาจติดมัลแวร์ที่ได้รับสิทธิ์ผู้ดูแลระบบ วิธีแก้ไขคือ:

  1. ไปที่ การตั้งค่า > ความปลอดภัย > ผู้ดูแลระบบอุปกรณ์ (Device Administrators) แล้วปิดสิทธิ์ของแอปที่น่าสงสัย
  2. หลังจากปิดสิทธิ์แล้ว สามารถถอนการติดตั้งแอปนั้นได้

ความแตกต่างของการเข้าถึงเมนู แอปผู้ดูแลระบบอุปกรณ์ (Device Administrator App) ของแต่ละยี้ห้อ

วิธีการเข้าเมนู “ผู้ดูแลระบบอุปกรณ์” (Device Administrator) บนอุปกรณ์ Android อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับยี่ห้อและเวอร์ชันของ Android ที่ใช้ แต่โดยทั่วไปแล้วการเข้าถึงเมนูนี้จะอยู่ในส่วนของการตั้งค่าที่เกี่ยวกับความปลอดภัยหรือการจัดการอุปกรณ์ ตัวอย่างการเข้าถึงในอุปกรณ์แบรนด์ต่างๆ:

1. อุปกรณ์ Android ทั่วไป (Stock Android)

  • ไปที่ การตั้งค่า (Settings)
  • เลือก ความปลอดภัย (Security) หรือ ความปลอดภัยและตำแหน่ง (Security & Location)
  • เลือก ผู้ดูแลระบบอุปกรณ์ (Device Administrators) หรือ แอปที่มีสิทธิ์เป็นผู้ดูแลอุปกรณ์ (Device Admin Apps)

2. Samsung

  • ไปที่ การตั้งค่า (Settings)
  • เลือก ความปลอดภัย (Biometrics and security)
  • เลือก แอปผู้ดูแลระบบอื่นๆ (Other security settings)
  • เลือก ผู้ดูแลระบบอุปกรณ์ (Device Admin Apps)

3. Xiaomi (MIUI)

  • ไปที่ การตั้งค่า (Settings)
  • เลือก รหัสผ่านและความปลอดภัย (Passwords & Security)
  • เลือก ความปลอดภัยเพิ่มเติม (Privacy)
  • เลือก ผู้ดูแลระบบอุปกรณ์ (Device Admin Apps)

4. Huawei (EMUI)

  • ไปที่ การตั้งค่า (Settings)
  • เลือก ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว (Security & Privacy)
  • เลือก ผู้ดูแลระบบอุปกรณ์ (Device Administrators)

5. Oppo / Realme

  • ไปที่ การตั้งค่า (Settings)
  • เลือก ความปลอดภัย (Security)
  • เลือก เพิ่มเติม (More security settings)
  • เลือก ผู้ดูแลระบบอุปกรณ์ (Device Administrators)

ในแต่ละแบรนด์ วิธีการเข้าถึงเมนูนี้อาจมีความแตกต่างเล็กน้อย แต่โดยทั่วไปจะอยู่ในเมนูที่เกี่ยวกับความปลอดภัย (Security) ของอุปกรณ์

About modify 6222 Articles
สามารถนำบทความไปเผยแพร่ได้อย่างอิสระ โดยกล่าวถึงแหล่งที่มา เป็นลิงค์กลับมายังบทความนั้นๆ บทความอาจมีการพิมพ์ตกเรื่องภาษาไปบ้าง ต้องขออภัย พยามจะพิมพ์ผิดให้น้อยที่สุด (ทำเว็บคนเดียวไม่มีคนตรวจทาน) บทความที่สอนเรื่องต่างๆ กรุณาอ่านบทความให้เข้าใจก่อนโพสต์ถาม ติดตรงไหนสามารถถามได้ที่โพสต์นั้นๆ

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.