ข้อความ “Program Compatibility Assistant – A driver cannot load on this device” หมายถึง Windows ตรวจพบว่าไดรเวอร์บางตัวไม่สามารถทำงานได้บนระบบเนื่องจากมีปัญหาความเข้ากันได้หรือมีการป้องกันความปลอดภัยที่ปิดกั้นไม่ให้โหลดไดรเวอร์นั้น
เมื่อข้อความนี้แสดงขึ้นหลังจากอัปเดต Windows เวอร์ชันใหม่ อาจเป็นไปได้ว่าไดรเวอร์ที่มีปัญหาไม่ได้ถูกปรับให้เข้ากับระบบปฏิบัติการ Windows เวอร์ชันใหม่หรือมีการตั้งค่าความปลอดภัยของ Windows ที่ปิดกั้นไม่ให้ไดรเวอร์ทำงาน
วิธีแก้ไขปัญหาสำหรับ Program Compatibility Assistant – A driver cannot load on this device
- ตรวจสอบไดรเวอร์ที่เกี่ยวข้อง
- เปิด Device Manager และค้นหาไดรเวอร์ที่แสดงเครื่องหมายเตือน
- คลิกขวาที่ไดรเวอร์แล้วเลือก Properties เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมในแท็บ Events หรือ Driver
- จดบันทึกชื่อไดรเวอร์เพื่อหาวิธีแก้ไขที่เฉพาะเจาะจง
- ติดตั้งไดรเวอร์ใหม่จากผู้ผลิต
- ไปที่เว็บไซต์ของผู้ผลิตฮาร์ดแวร์เพื่อตรวจสอบว่าไดรเวอร์เวอร์ชันใหม่ที่รองรับ Windows เวอร์ชันล่าสุดมีให้ดาวน์โหลดหรือไม่
- หากมี ให้ดาวน์โหลดและติดตั้งไดรเวอร์ใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาความเข้ากันได้
- ใช้ Compatibility Mode
- หากไดรเวอร์ที่ต้องการไม่มีเวอร์ชันที่รองรับ Windows เวอร์ชันปัจจุบัน คุณสามารถลองใช้ Compatibility Mode เพื่อรันไดรเวอร์ในโหมดที่รองรับเวอร์ชันเก่าของ Windows:
- คลิกขวาที่ไฟล์ติดตั้งไดรเวอร์ > เลือก Properties
- ไปที่แท็บ Compatibility แล้วเลือก Run this program in compatibility mode for และเลือก Windows เวอร์ชันก่อนหน้าที่ไดรเวอร์เคยใช้งานได้
- หากไดรเวอร์ที่ต้องการไม่มีเวอร์ชันที่รองรับ Windows เวอร์ชันปัจจุบัน คุณสามารถลองใช้ Compatibility Mode เพื่อรันไดรเวอร์ในโหมดที่รองรับเวอร์ชันเก่าของ Windows:
- ปิด Core Isolation และ Memory Integrity ชั่วคราว
- เปิด Windows Security > Device Security > Core Isolation Details
- ปิด Memory Integrity ชั่วคราวแล้วรีสตาร์ทเครื่อง เพื่อดูว่าไดรเวอร์สามารถโหลดได้หรือไม่
- ติดตั้งการอัปเดต Windows ล่าสุด
- ไปที่ Settings > Windows Update เพื่อตรวจสอบว่ามีอัปเดตที่แก้ไขปัญหานี้หรือไม่ บางครั้งการอัปเดตใหม่สามารถแก้ไขปัญหาความเข้ากันได้ของไดรเวอร์