
Meta AI เตรียมเปิดใช้งานในประเทศไทย และรองรับภาษาไทย
Meta AI ได้ประกาศขยายการให้บริการใน 6 ประเทศใหม่ ได้แก่ สหราชอาณาจักร บราซิล โบลิเวีย กัวเตมาลา ปารากวัย และฟิลิปปินส์ ซึ่งประเทศเหล่านี้สามารถเริ่มใช้งาน Meta AI ได้ทันที โดยฟิลิปปินส์ได้รับการรองรับภาษา ตากาล็อก ในครั้งนี้ด้วย
ในกลุ่มประเทศถัดไปที่ Meta AI วางแผนจะขยายการให้บริการ ได้แก่ แอลจีเรีย อียิปต์ อินโดนีเซีย อิรัก จอร์แดน ลิเบีย มาเลเซีย โมร็อกโก ซาอุดีอาระเบีย ซูดาน ไทย ตูนิเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เวียดนาม และเยเมน โดย Meta AI จะรองรับภาษาต่าง ๆ เช่น อาหรับ อินโดนีเซีย ไทย และเวียดนาม ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้ในประเทศเหล่านี้สามารถโต้ตอบกับ AI ได้ในภาษาท้องถิ่นได้เลย
ถือว่าเป็นข่าวดีที่ประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในประเทศที่อยู่ในกลุ่มถัดไปที่จะได้รับการเปิดให้บริการ Meta AI พร้อมกับการรองรับภาษาไทยด้วย
ฟีเจอร์เด่นของ Meta AI
Meta AI เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่สามารถใช้งานได้ผ่านแอปของ Meta อย่าง Facebook, Instagram, WhatsApp และ Messenger โดยผู้ใช้สามารถเริ่มต้นการใช้งานได้ง่าย ๆ เพียงพิมพ์ “@Meta AI” ในแชท หรือใช้งานผ่านเว็บที่ meta.ai
หนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ที่น่าจับตามองคือ Meta AI Creative Tools ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สร้างและแก้ไขภาพตามจินตนาการได้อย่างง่ายดาย เช่น การพิมพ์คำสั่ง “Imagine me” เพื่อสร้างภาพจำลองสถานการณ์ต่าง ๆ โดยใช้ภาพของคุณเอง หรือการแก้ไขวัตถุภายในภาพได้ทันที เช่น การเปลี่ยนแมวเป็นสุนัข หรือเพิ่มวัตถุที่ต้องการในภาพ
นอกจากนี้ Meta AI ยังมีความสามารถด้านการช่วยแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์และการเขียนโค้ดด้วยโมเดล Llama 405B ซึ่งมีความสามารถในการตอบคำถามซับซ้อน การแก้บั๊กในโค้ด และให้คำแนะนำในโครงการเทคนิคต่าง ๆ
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าจับตามองคือการเปิดตัว Meta AI บน Ray-Ban Meta Glasses ในสหราชอาณาจักรและออสเตรเลีย ที่ให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับ Meta AI ด้วยเสียงได้อย่างสะดวกสบายในทุกที่ทุกเวลา โดยไม่ต้องใช้มือ (hands-free)
Meta AI คาดว่าจะกลายเป็นผู้ช่วย AI ที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลกภายในสิ้นปีนี้ ด้วยผู้ใช้งานเกือบ 500 ล้านคนต่อเดือน และมีการขยายบริการและการรองรับภาษาไปยัง 43 ประเทศทั่วโลก ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานในประเทศไทยสามารถเข้าถึง Meta AI ในภาษาของตนเองได้เร็ว ๆ นี้
ที่มา – Meta
เกี่ยวกับ Meta AI
Meta AI เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะใหม่จาก Meta ที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบและสื่อสารกับ AI ได้ในลักษณะที่เหมือนการพูดคุยกับคนจริง ๆ Meta AI รองรับการใช้งานผ่านแอปหลักของ Meta เช่น WhatsApp, Messenger, และ Instagram โดย Meta AI สามารถให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์และสร้างภาพจากคำสั่งข้อความของผู้ใช้ โดยมีการนำโมเดล Llama 2 และการวิจัยเกี่ยวกับ Large Language Models (LLM) มาใช้ในการประมวลผลคำถามและการตอบสนองของผู้ใช้ Meta AI มีความสามารถในการดึงข้อมูลแบบเรียลไทม์จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ผ่านความร่วมมือกับ Bing เพื่อให้ข้อมูลทันสมัยและตอบสนองต่อคำถามหรือคำสั่งของผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็ว Meta AI ยังสามารถสร้างภาพเสมือนจริงจากคำสั่งข้อความของผู้ใช้ และเรียนรู้จากการโต้ตอบผ่านการใช้งาน AI ที่ปรับแต่งเพื่อความแม่นยำและเป็นธรรมชาติของการตอบสนอง โดยมีระบบความปลอดภัยและกลไกการควบคุมเพื่อลดความเสี่ยงในการใช้ AI ในทางที่ไม่ถูกต้อง การทำงานหลักของ Meta AI จึงมุ่งเน้นไปที่การเป็นผู้ช่วยที่ให้ข้อมูล การสร้างสรรค์ และการโต้ตอบเชิงสนทนาที่แม่นยำและเป็นมิตรกับผู้ใช้
Leave a Reply