รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ บอกการคำสั่งยกเว้นภาษีนำเข้า สินค้าเทคฯ เป็นแค่มาตรการชั่วคราว แต่จะมีภาษีแบบใหม่มาแทน

สหรัฐฯ เตรียมเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเทคโนโลยีอีกระลอก แม้บางรายการจะได้รับยกเว้นชั่วคราว

Howard Lutnick (ฮาเวิร์ด ลัตนิค) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ระบุว่า มาตรการยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าเทคโนโลยีที่ประกาศเมื่อไม่นานมานี้เป็นเพียง “ชั่วคราว” เท่านั้น โดยรัฐบาลทรัมป์เตรียมบังคับใช้ภาษีแบบใหม่ที่มุ่งเน้นไปยังอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และห่วงโซ่อุปทานของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลทรัมป์ได้ประกาศเลื่อนการบังคับใช้ภาษีบางรายการที่เคยเปิดตัวเมื่อต้นเดือนเมษายน แต่ยังคงเก็บภาษีพื้นฐาน 10% และกำหนดภาษีเพิ่มเติมอีก 125% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนบางประเภท พร้อมกับยกเว้นภาษีสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคบางรายการ เช่น แล็ปท็อปและสมาร์ตโฟน

อย่างไรก็ตาม ในการให้สัมภาษณ์กับรายการ “This Week” ทางช่อง ABC เมื่อวันอาทิตย์ ลัตนิคชี้ว่า การยกเว้นภาษีดังกล่าวไม่ได้ครอบคลุมทั้งหมด และสินค้ากลุ่มเทคโนโลยีจะถูกจัดเข้าในหมวดภาษีเซมิคอนดักเตอร์ที่คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายใน 1-2 เดือนข้างหน้า โดยกล่าวว่า “สินค้าเหล่านี้จะอยู่ในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเซมิคอนดักเตอร์ และจะมีภาษีเฉพาะเพื่อกระตุ้นให้การผลิตกลับมายังสหรัฐฯ”

เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า สหรัฐฯ จำเป็นต้องผลิตเซมิคอนดักเตอร์ แผงหน้าจอ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงภายในประเทศ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและลดการพึ่งพาการนำเข้า

แม้จะมีคำถามว่า ภาษีเหล่านี้อาจส่งผลให้ราคาสินค้าภายในประเทศปรับตัวสูงขึ้น ลัตนิคก็ยืนยันว่า “ผมไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนั้น” พร้อมย้ำว่าเป้าหมายคือการสร้างฐานการผลิตในอเมริกาให้มากขึ้น

ด้านอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่าน Truth Social ปฏิเสธว่าไม่มีการยกเว้นภาษีจริง โดยระบุว่าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จากจีนยังคงถูกเก็บภาษี 20% ภายใต้หมวดที่เชื่อมโยงกับการต่อต้านการนำเข้าเฟนทานิล และสินค้าเหล่านี้ “เพียงแค่ถูกย้ายไปอยู่ในกลุ่มภาษีอื่นเท่านั้น”

เขายังกล่าวอีกว่า จะมีการตรวจสอบด้านความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหม่ในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะครอบคลุมซัพพลายเชนทั้งหมดของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงเซมิคอนดักเตอร์ โดยระบุว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อผลักดันการผลิตกลับคืนสู่สหรัฐฯ อย่างเต็มรูปแบบ

ที่มา – techcrunch.com