คอมพิวเตอร์ทำงานหนักแล้วเครื่องรีสตาร์ท หรือดับ เกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไร

ปัญหาคอมทำงานหนักแล้วเครื่องดับ ไม่ว่าจะเล่นเกมหรือทำอะไรที่หนักเครื่อง คอมฯจะรีสตาร์ทหรือดับไปเอง เป็นเพราะอะไร

บทความนี้จะขอพูดถึงผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ ที่มีปัญหาการใช้งานคอมพิวเตอร์เมื่อใช้งานหนักหรือเล่นไปสักพักแล้วคอมพิวเตอร์เกิดดับ หรือเครื่อง restart ไปเอง หากคุณมีปัญหาดังกล่าว สิ่งที่ต้องตรวจสอบและแก้ไขต้องตรวจสอบตรงไหนบ้าง เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ มาดูกันว่าปัญหาเกิดจากอะไรได้บ้าง และตรงตรวจสอบแก้ไขอย่างไร

ปัญหาคอมพิวเตอร์ดับหรือรีสตาร์ทเองโดยเฉพาะเมื่อทำงานหนัก อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยสาเหตุหลักๆ ไล่จากความเป็นไปได้มากสุดมีดังต่อไปนี้

ความร้อนสูงเกินไป (Overheating)

อุปกรณ์ภายในเครื่อง เช่น CPU, GPU, หรือ PSU อาจเกิดความร้อนสูงเกินไป เป็นปัญหาหลักที่ทำให้คอมพิวเตอร์ดับหรือรีสตาร์ทเครื่องวิธีแก้ไขเบื้องต้นคือ

• ใช้โปรแกรมตรวจสอบอุณหภูมิของฮาร์ดแวร์ (เช่น HWMonitor หรือ Core Temp) เป็นการตรวจสอบเบื้องต้นว่าคอมพิวเตอร์ของเรามีปัญหาเรื่องความร้อนหรือไม่ เพระาปัญหาหลักๆที่คอมฯดับเอง ส่วนใหญ่มาจากเครื่องความร้อน ระบบจะปิดการทำงานหรือเริ่มต้นใหม่ เมื่อความร้อนสูงถึงค่าที่กำหนดไว้
  
• ตรวจสอบพัดลมและฮีตซิงค์ว่าทำงานได้ปกติหรือไม่ ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์และถอดปลั๊กไฟออกจากเต้ารับเพื่อความปลอดภัย ใช้ไขควงในการถอดสกรูที่ยึดฝาเคสออก แล้วเปิดฝาเคสคอมพิวเตอร์ เปิดเครื่องดูว่าพัดลมทุกตัวทำงานได้ปกติหรือไม่ เมื่อเปิดเครื่อง ตรวจสอบว่ามีฝุ่นสะสมในพัดลมหรือไม่ ถ้ามีให้ใช้แปรงขนนุ่มหรืออุปกรณ์ทำความสะอาดฝุ่น เพื่อทำความสะอาด ตรวจสอบว่าฮีตซิงค์ติดตั้งแน่นและไม่หลวม
  
• ซิลิโคน (หรือที่เรียกว่าซิลิโคนเทอร์มอลเพสต์) หมดอายุ ซิลิโคนช่วยเติมช่องว่างระหว่างซีพียูกับฮีตซิงค์ หากซิลิโคนหมดอายุหรือมีคุณภาพต่ำ จะทำให้การระบายความร้อนไม่ดี อุณหภูมิของซีพียูหรือจีพียูจะสูงขึ้นเมื่อการระบายความร้อนไม่ดี ซึ่งอาจทำให้เครื่องรีสตาร์ทหรือดับไปเอง

ปัญหาของพาวเวอร์ซัพพลาย (Power Supply)

ปัญหาของพาวเวอร์ซัพพลาย (Power Supply) สามารถส่งผลต่อการทำงานของคอมพิวเตอร์ได้หลากหลาย หากพาวเวอร์ซัพพลายมีปัญหา เครื่องคอมพิวเตอร์อาจทำงานไม่ปกติ เช่น รีสตาร์ทเอง ดับ หรือแม้แต่ไม่สามารถเปิดเครื่องได้ ปัญหาของพาวเวอร์ซัพพลายและวิธีการแก้ไขมีดังนี้

• กำลังไฟไม่เพียงพอ พาวเวอร์ซัพพลายไม่สามารถจ่ายไฟได้เพียงพอกับอุปกรณ์ที่ติดตั้งในเครื่อง
• การเสียหายหรือเสื่อมสภาพ พาวเวอร์ซัพพลายอาจเสื่อมสภาพหรือมีส่วนประกอบภายในเสียหาย
• การเชื่อมต่อที่หลวม สายไฟหรือขั้วต่อภายในเครื่องอาจหลวมหรือเสียหาย
• ไฟฟ้าลัดวงจร อาจมีการลัดวงจรภายในพาวเวอร์ซัพพลาย
• ความร้อนสูงเกินไป พัดลมในพาวเวอร์ซัพพลายอาจทำงานไม่ดี ทำให้เกิดความร้อนสูงเกินไป

ปัญหาของฮาร์ดแวร์ (Hardware Issues)

อุปกรณ์บางตัวอาจมีปัญหาหรือเสื่อมสภาพ เช่น RAM หรือฮาร์ดดิสก์ วิธีแก้ไขคือ:

• ทดสอบ RAM ด้วยโปรแกรม MemTest86
• ตรวจสอบฮาร์ดดิสก์ด้วยโปรแกรมตรวจสอบสถานะฮาร์ดดิสก์ (เช่น CrystalDiskInfo)

ปัญหาของซอฟต์แวร์ (Software Issues)

ไดรเวอร์หรือระบบปฏิบัติการอาจมีปัญหา วิธีแก้ไขคือ

• อัปเดตไดรเวอร์และระบบปฏิบัติการเป็นเวอร์ชันล่าสุด
• ตรวจสอบว่าไม่มีไวรัสหรือมัลแวร์ที่อาจทำให้ระบบทำงานผิดพลาด
• ลองปิดซอฟต์แวร์ที่ไม่จำเป็นเมื่อทำงานหนัก

นี้เป็นสาเหตุของปัญหาเรียงลำดับที่มีโอกาศเกิดมากสุดลงมา และแนวทางการแก้ไขปัญหา หากคุณลองวิธีการเหล่านี้แล้วอาการยังคงเกิดขึ้น อาจต้องพิจารณาส่งเครื่องให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเพิ่มเติม