
ความหมายของ Discharge Battery ทำไมมีความสำคัญต้องทำอย่างไร
บทความนี้จะขอพูดถึงเรื่องของ Discharge Battery ว่ามีความหมายอย่างไร ต่างกับการ Charge อย่างไร และทำไมบางทีเห็นคำว่า Discharge อยู่ในขบวนการการทิ้งแบตเตอรี่ด้วย เรามาทำความรู้จักคำว่า “Discharge Battery” กัน
Discharge Battery คืออะไร
การ “Discharge” แบตเตอรี่ หมายถึงกระบวนการที่แบตเตอรี่ปล่อยพลังงานไฟฟ้าออกมาเพื่อจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกับมัน กระบวนการนี้เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนพลังงานเคมีที่เก็บไว้ในแบตเตอรี่ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า
แบตเตอรี่แต่ละชนิดมีการทำงานของการ discharge ที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับชนิดของวัสดุที่ใช้ในการผลิตและการออกแบบ เช่น แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Li-ion) แบตเตอรี่นิกเกิลเมทัลไฮไดรด์ (NiMH) หรือแบตเตอรี่ตะกั่วกรด (Lead-acid) ระหว่างการ discharge แบตเตอรี่จะมีการลดระดับพลังงานที่เก็บไว้อยู่ ซึ่งถ้าใช้พลังงานจนหมด แบตเตอรี่อาจจะต้องชาร์จใหม่หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ขึ้นอยู่กับประเภทของแบตเตอรี่
ในทางเทคนิค กระบวนการ discharge เกี่ยวข้องกับการปล่อยอิเล็กตรอนจากขั้วลบ (anode) ผ่านวงจรภายนอกไปยังขั้วบวก (cathode) ซึ่งจะสร้างกระแสไฟฟ้าในการใช้งาน
โครงสร้างพื้นฐานของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3 ส่วนคือ
- ขั้วลบ (Anode) ที่ปล่อยอิเล็กตรอนออกมาเมื่อแบตเตอรี่ทำงาน
- ขั้วบวก (Cathode) ที่รับอิเล็กตรอนเมื่อแบตเตอรี่ทำงาน
- อิเล็กโทรไลต์ (Electrolyte) ที่เป็นตัวกลางให้ไอออนเคลื่อนที่ระหว่างขั้วลบและขั้วบวก
กระบวนการ Discharge
- เริ่มต้นการทำงาน เมื่ออุปกรณ์ไฟฟ้าถูกเชื่อมต่อกับแบตเตอรี่ วงจรไฟฟ้าจะถูกสร้างขึ้น ทำให้อิเล็กตรอนเริ่มเคลื่อนที่จากขั้วลบไปยังขั้วบวกผ่านวงจรภายนอก (เช่น ตัวอุปกรณ์ที่ใช้พลังงาน)
- การปล่อยอิเล็กตรอน ที่ขั้วลบจะเกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่ปล่อยอิเล็กตรอนออกมา อิเล็กตรอนเหล่านี้จะเคลื่อนที่ผ่านวงจรภายนอกไปยังขั้วบวก
- การเคลื่อนที่ของไอออน ในขณะเดียวกัน ไอออนที่เกิดจากปฏิกิริยาทางเคมีที่ขั้วลบจะเคลื่อนที่ผ่านอิเล็กโทรไลต์ไปยังขั้วบวก เพื่อให้กระบวนการเคมีที่ขั้วบวกสามารถรับอิเล็กตรอนได้
การหมดพลังงาน
เมื่อแบตเตอรี่ปล่อยอิเล็กตรอนออกมาไปจนหมด กระบวนการเคมีที่เกิดขึ้นจะหยุดทำงาน ทำให้แบตเตอรี่ไม่สามารถจ่ายพลังงานไฟฟ้าได้อีก กระบวนการนี้เรียกว่าแบตเตอรี่ “หมดพลังงาน” หรือ “discharged”
เท่ากับว่าในในความของหมดความที่เกี่ยวกับแบตเตอรี่ discharged กับ discharge มีความหมายที่แตกต่างกันเล็กน้อยคือ
- Discharge หมายถึง กระบวนการที่แบตเตอรี่กำลังปล่อยประจุไฟฟ้าออกมา
- Discharged หมายถึง แบตเตอรี่ที่พลังงานหมดแล้วหรือได้ปล่อยประจุไฟฟ้าออกไปหมดแล้ว
ทำไมหลายที่แนะนำให้ Discharged แบตเตอรี่ก่อนทิ้ง
ดังที่กล่าวมาแล้วว่าการ discharge แบตเตอรี่ คือการใช้พลังงานไฟฟ้าที่เก็บอยู่ในแบตเตอรี่ออกมาเพื่อใช้งานกับอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือรถยนต์ เป็นการปล่อยพลังงานจากแบตเตอรี่ออกมาใช้งานจนพลังงานในแบตเตอรี่หมด แล้วทำไมต้องใช้แบตฯให้หมดก่อนทิ้งด้วย
ทำไมต้องใช้แบตเตอรี่ให้หมดก่อนทิ้งมีความสำคัญเนื่องจากเหตุผลหลายประการ ดังนี้
- ความปลอดภัย แบตเตอรี่ที่ยังมีประจุไฟฟ้าอยู่สามารถเกิดการลัดวงจรหรือระเบิดได้เมื่อถูกทิ้งไปพร้อมกับขยะอื่น ๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้คนและสิ่งแวดล้อม การ discharge แบตเตอรี่ให้หมดก่อนทิ้งจะช่วยลดความเสี่ยงนี้
- ป้องกันการรั่วไหลของสารเคมี แบตเตอรี่บางชนิดมีสารเคมีที่อาจเป็นพิษ เช่น แบตเตอรี่ตะกั่วกรดหรือแบตเตอรี่ลิเธียม การ discharge แบตเตอรี่ให้หมดก่อนทิ้งจะช่วยลดความเสี่ยงที่สารเคมีเหล่านี้จะรั่วไหลออกมาจากแบตเตอรี่
- การนำกลับมาใช้ใหม่ การ discharge แบตเตอรี่ก่อนทิ้งจะช่วยในการเตรียมแบตเตอรี่สำหรับการรีไซเคิล ซึ่งเป็นกระบวนการที่ช่วยลดปริมาณขยะและช่วยนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่
- ลดความเสี่ยงการเกิดไฟไหม้ แบตเตอรี่ที่ยังมีประจุไฟฟ้าอยู่สามารถเกิดความร้อนสูงหากสัมผัสกับวัตถุโลหะหรือสารที่เป็นสื่อไฟฟ้า ซึ่งอาจก่อให้เกิดไฟไหม้ได้
การ discharge แบตเตอรี่ก่อนทิ้งจึงเป็นการปฏิบัติที่ดีเพื่อความปลอดภัยและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
การ discharge ปล่อยประจุแบตเตอรี่
- ใช้เครื่องชาร์จที่มีฟังก์ชันปล่อยประจุ
- เชื่อมต่อแบตเตอรี่กับเครื่องชาร์จที่มีฟังก์ชันปล่อยประจุ
- ตั้งค่าเครื่องชาร์จให้ปล่อยประจุจนถึง 0 โวลต์ และตั้งค่าความเร็วในการปล่อยประจุตามที่ระบุบนแบตเตอรี่
- ปล่อยให้แบตเตอรี่ปล่อยประจุจนหมด
- ใช้วิธีน้ำเกลือ (สำหรับแบตเตอรี่ LiPo)
- ตัดขั้วต่อและสายไฟออกจากแบตเตอรี่
- ใส่เกลือลงในน้ำในภาชนะที่ไม่ติดไฟและคนให้เข้ากัน
- ใส่แบตเตอรี่ลงในน้ำเกลือและรอจนกว่าจะไม่มีฟองอากาศออกมาจากสายไฟ
- ทิ้งแบตเตอรี่ในน้ำเกลือไว้ประมาณ 3 วันหรือจนกว่าจะไม่มีฟองอากาศออกมา
- นำแบตเตอรี่ออกมาและตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าด้วยมัลติมิเตอร์ ควรจะต่ำมากประมาณ 0.07 โวลต์
- นำไปที่ศูนย์รับทิ้งแบตเตอรี่
- หากไม่สามารถปล่อยประจุได้เอง ควรนำแบตเตอรี่ไปที่ศูนย์รับทิ้งแบตเตอรี่ที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดการแบตเตอรี่
Leave a Reply