“มีผู้อื่นเข้าถึงหน้าจอของคุณ” หากคุณไม่ได้แชร์หน้าจอโดยใช้ … ให้หยุดและถอดการติดตั้งแอปนี้ จากนั้นให้รีสตาร์ทโทรศัพท์ Google ได้ซ่อนเนื้อหาที่ละเอียดอ่อนของคุณเพื่อความปลอดภัยแล้ว
สำหรับผู้ใช้งานมือถือ Android และขึ้นข้อความบนหน้าจอด้วยข้อความ “มีผู้อื่นเข้าถึงหน้าจอของคุณ หากคุณไม่ได้แชร์หน้าจอโดยใช้ … ให้หยุดและถอดการติดตั้งแอปนี้ จากนั้นให้รีสตาร์ทโทรศัพท์ Google ได้ซ่อนเนื้อหาที่ละเอียดอ่อนของคุณเพื่อความปลอดภัยแล้ว”

หากคุณกำลังได้รับข้อความนี้ แสดงว่าเครื่องของคุณมีผู้อื่นเข้าถึงหน้าจอของคุณ ถ้าคุณไม่ได้ทำเอง อาจหมายความว่ามีการพยายามเข้าถึงหน้าจอของคุณผ่านการแชร์หน้าจอหรือการควบคุมระยะไกล โดยเฉพาะถ้าคุณกำลังใช้งานแอปที่อนุญาตให้แชร์หน้าจอ หรืออาจเป็นผลมาจากแอปพลิเคชันหรือการตั้งค่าที่ไม่ปลอดภัย นั้นหมายความว่าโทรศัพท์ของคุณไม่ปลอดภัยอยู่ตอนนี้

จะทำอย่างไรเมื่อเจอข้อความ มีผู้อื่นเข้าถึงหน้าจอของคุณ
- ปิดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหรือเปิดโหมดเครื่องบิน เมื่อสงสัยว่ามีคนพยามเข้าถึงหน้าจอของคุณ จำเป็นต้องตัดการเชื่อต่ออินเทอร์เน็ตก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อไม่ให้เกิดการเชื่อมต่อ เพราะหากเครื่องเราไม่มีอินเทอร์เน็ตผู้ที่พยามเข้าถึงหน้าจอจะไม่สามารถทำได้
- ตรวจสอบแอปแปลกปลอมภายในเครื่องของคุณ จำเป็นต้องเข้าไปตรวจแอปทั้งหมดภายในเครื่องของคุณว่ามีแอปไหนที่น่าสงสัย อาจจะเป็นแอปที่พึ่งดาวน์โหลด หรือดาวน์โหลดมาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ หรืออาจดูชื่อของแอปที่แสดงข้อความ ยกตัวอย่างภาพด้านบน “หากคุณไม่ได้แชร์หน้าจอโดยใช้ com.herocraft.game.birdsonwire.freemium ให้หยุดและถอนการติดตั้งแอปนี้ จากนั้นให้รีสตาร์ทโทรศัพท์” ให้ลองเอาคำที่ไฮไลท์สีแดงไปลองค้นหาใน Google จะเจอชื่อแอปคร่าวๆ เพื่อไปถอดถอนการติดตั้งแอปออก
- ตรวจสอบว่ามีแอปใดที่เกี่ยวข้องกับการแชร์หน้าจอหรือการควบคุมระยะไกลที่คุณไม่คุ้นเคยหรือไม่ หากมี ให้ถอนการติดตั้งแอปนั้นออกไป ให้ไปที่ ในแต่ละโทรศัพท์จะมีการตั้งค่าที่ต่างๆ ส่วนใหญ่ให้ดูเมนู การช่วยเหลือการเข้าถึง (accessibility) มองหาการตั้งค่าที่เกี่ยวกับ เข้าถึงหน้าจอหรือควบคุมระยะไกล และไปดูในส่วนของ ตั้งค่า > แอป > การเข้าถึงพิเศษ (หรือเมนูจำพวก การจัดการการอนุญาต, การตั้งค่าแอปของระบบ) ตรวจสอบว่ามีแอปไหนน่าสงสัยหรือไม่ ให้เอาสิทธิ์ออกให้หมด

- เมื่อทำทุกอย่างหมดแล้วให้ทำการรีสตาร์ทเครื่องใหม่ 1 ครั้ง
โปรดทราบ : เนื่องจากการแจ้งเตือนดังกล่าวเป็นการแจ้งเตือนเกี่ยวกับความปลอดภัยที่อาจมีผลเสียร้ายแรง ฉนั้นควรที่จะตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการตั้งค่าอย่างถูกวิธีและปลอดภัยแล้ว หากไม่แน่ใจหรือไม่มีความรู้ในการตั้งค่าควรให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบและแก้ไข เพื่อความลปลอดภัยในข้อมูลและทรัพย์สินของคุณ
Leave a Reply