
มือถือรูทมาอยากจะแก้ไขยกเลิก Root อย่างไร
การ Root ระบบปฏิบัติการ Android หมายถึงกระบวนการที่ผู้ใช้ได้รับสิทธิ์เข้าถึงระดับสูงสุดในระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ Android นั่นคือ “root access” หรือ “superuser access” ซึ่งคล้ายกับสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ (Administrator) บนระบบปฏิบัติการอื่น ๆ เช่น Windows หรือ macOS
ข้อดีของการ Root เครื่อง
- การปรับแต่งขั้นสูง: การ Root เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ปรับแต่งระบบและแอปต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ เช่น การติดตั้ง Custom ROM หรือการเปลี่ยนแปลง UI (User Interface)
- การเข้าถึงแอปที่ต้องการสิทธิ์ Root: บางแอปต้องการสิทธิ์ Root ในการทำงาน เช่น การสำรองข้อมูลระบบอย่างสมบูรณ์ การปรับเปลี่ยนการทำงานของ CPU หรือการบล็อกโฆษณาทั้งระบบ
- การลบแอปพลิเคชันที่ติดตั้งมาโดยผู้ผลิต (Bloatware): ผู้ใช้สามารถลบหรือปิดการใช้งานแอปที่ติดตั้งมาพร้อมกับเครื่องซึ่งปกติจะไม่สามารถลบออกได้
ข้อเสียและความเสี่ยงของการ Root เครื่อง
- ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย: การ Root จะลดความปลอดภัยของอุปกรณ์ เนื่องจากแอปที่ได้รับสิทธิ์ Root สามารถเข้าถึงและเปลี่ยนแปลงระบบได้
- การสูญเสียการรับประกัน: ผู้ผลิตหรือผู้ให้บริการบางรายจะยกเลิกการรับประกันเมื่อพบว่าผู้ใช้ Root เครื่อง
- การอัปเดตระบบ: การ Root อาจทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถรับการอัปเดตระบบอัตโนมัติจากผู้ผลิต หรือทำให้การอัปเดตเกิดปัญหา
- ความเสี่ยงในการทำให้เครื่องเกิดปัญหา (Bricking): หากการ Root ไม่สำเร็จหรือทำผิดขั้นตอน อาจทำให้เครื่องไม่สามารถเปิดใช้งานได้อีกเลย
- แอปที่ต้องการความปลอดภัยสูงไม่อนุญาตให้ใช้งานเครื่อง Root : ทำให้ไม่สามารถใช้งานแอปบางแอปได้ เช่นแอปธนาคาร, บางแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับการสตรีมมิงภาพยนตร์หรือรายการทีวี หรือแอปเกี่ยวกับการป้องกันต่างๆ
โดยสรุป การ Root เป็นกระบวนการที่ให้ผู้ใช้มีสิทธิ์เข้าถึงระบบอย่างเต็มที่ แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงและข้อเสียที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อนที่จะทำการ Root เครื่อง
การ Root เครื่อง Android เป็นกระบวนการที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้เข้าถึงสิทธิ์ระดับสูงสุดในระบบปฏิบัติการ Android แต่ต้องทำด้วยความระมัดระวังเนื่องจากมีความเสี่ยงที่อาจทำให้เครื่องเสียหายหรือสูญเสียการรับประกัน ขั้นตอนในการ Root เครื่องอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อของอุปกรณ์ โดยสรุปขั้นตอนการรูทคร่าวๆดังต่อไปนี้
- ปลดล็อก Bootloader – เป็นขั้นตอนแรกในการอนุญาตให้ทำการแก้ไขระบบของอุปกรณ์
- ติดตั้ง Custom Recovery (เช่น TWRP) – เพื่อให้คุณสามารถแฟลชไฟล์ที่จำเป็นสำหรับการ Root ได้
- แฟลชไฟล์ Root (เช่น Magisk) – เป็นขั้นตอนที่ทำให้ระบบได้รับสิทธิ์ Root หรือสิทธิ์ superuser
การยกเลิกการ Root (Unroot)
การยกเลิกการ Root หรือที่เรียกว่า Unroot มีหลายวิธีที่สามารถทำได้ ขึ้นอยู่กับวิธีที่คุณใช้ Root อุปกรณ์ในตอนแรก ต่อไปนี้คือวิธีการยกเลิกการ Root ที่ใช้กันทั่วไป
1. ใช้ Magisk เพื่อยกเลิกการ Root
- ถ้าคุณใช้ Magisk ในการ Root อุปกรณ์ คุณสามารถยกเลิกการ Root ได้โดยตรงจากแอป Magisk Manager:
- เปิดแอป Magisk Manager
- ไปที่เมนูการตั้งค่าแล้วเลือก “Uninstall Magisk”
- เลือก “Complete Uninstall”
- แอปจะทำการถอนการติดตั้ง Magisk และยกเลิกการ Root ให้คุณ
2. แฟลช Stock Firmware (เฟิร์มแวร์จากผู้ผลิต)
- การติดตั้งเฟิร์มแวร์เดิมจากผู้ผลิต (Stock ROM) เป็นวิธีการที่ปลอดภัยที่สุดในการยกเลิกการ Root และนำเครื่องกลับสู่สภาพเดิม
- ดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์ที่ตรงกับรุ่นอุปกรณ์ของคุณจากเว็บไซต์ของผู้ผลิต
- ใช้เครื่องมืออย่าง Odin (สำหรับ Samsung) หรือ Fastboot (สำหรับอุปกรณ์ทั่วไป) เพื่อติดตั้งเฟิร์มแวร์
- กระบวนการนี้จะลบข้อมูลทั้งหมดในเครื่อง ดังนั้นควรสำรองข้อมูลก่อน
3. ใช้ Custom Recovery (เช่น TWRP) เพื่อลบไฟล์ Root
- ถ้าคุณใช้ Custom Recovery ในการ Root อุปกรณ์ คุณสามารถใช้ Custom Recovery นั้นเพื่อลบไฟล์ Root ออกจากระบบ:
- ดาวน์โหลด ไฟล์ Unroot.zip หรือไฟล์ที่เกี่ยวข้องจากแหล่งที่เชื่อถือได้
- เข้าโหมด Recovery โดยกดปุ่มเปิดเครื่องและปุ่มปรับเสียงพร้อมกัน
- แฟลชไฟล์ Unroot ผ่าน Custom Recovery แล้วรีบูตเครื่อง
4. ลบไฟล์ Root ด้วย ADB
- ถ้าคุณมีประสบการณ์การใช้ ADB (Android Debug Bridge) คุณสามารถใช้คำสั่งเพื่อลบไฟล์ที่เกี่ยวข้องกับการ Root:
- เชื่อมต่ออุปกรณ์กับคอมพิวเตอร์
- เปิดใช้งาน ADB และใช้คำสั่งเพื่อลบไฟล์ที่เกี่ยวข้องกับการ Root เช่น
/system/xbin/su
หรือ/system/bin/su
5. รีเซ็ตค่าโรงงาน (Factory Reset)
- ในบางกรณี การรีเซ็ตค่าโรงงานอาจลบการ Root ออกจากเครื่องได้ แต่ไม่เสมอไป ขึ้นอยู่กับวิธีการ Root ที่ใช้
การเลือกวิธีการ Unroot ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และเครื่องมือที่คุณใช้ในการ Root ตอนแรก
การปรับแต่ง ROM
โดยปกติแล้วผู้ใช้งานที่ทำงานรูทเครื่องมักต้องการปรับแต่ง ROM หรือโหลด ROM จากนักพัฒนาอื่นมาเพื่อปรับเปลี่ยน ROM เดิม การยกเลิกการรูทหรือ Unroot ไม่ได้ช่วยในเรื่องการปรับ ROM ที่เคยปรับเปลี่ยนแล้วให้กลับมาเป็น ROM เดิม
การ Unroot จะลบการ Root ออกจากระบบ แต่จะไม่กู้คืน ROM ที่ถูกปรับเปลี่ยนหรือที่มาจากนักพัฒนาอื่น ๆ ให้กลับมาเป็น ROM ดั้งเดิม (Stock ROM) ของผู้ผลิต ถ้าผู้ใช้งานต้องการคืนสภาพ ROM ให้กลับมาเป็นเหมือนตอนที่ซื้อมาจากโรงงาน วิธีเดียวคือการ แฟลช Stock ROM จากผู้ผลิตเครื่อง
แอปธนาคารเข้าไม่ได้บอกว่าเครื่อง Root
ในบางครั้งคุณอาจเห็นข้อความไม่สามารถใช้งานเครื่องได้ เนื่องจากมีการเปิดโหมดนักพัฒนาซอฟต์แวร์, Root หรือ Jailbroken หรือเปิด ตัวช่วยการเข้าถึง ข้อความดังกล่าวอาจะไม่ได้ระบุชัดเจนถึงปัญหาว่าเกิดจาก root เครื่องหรือส่วนอื่น อาจเป็นการแจ้งเตือนโดยรวม หากคุณไม่ได้ root เครื่อง ก็ไม่จำเป็นต้อง unroot เครื่อง ให้ไปตรวจสอบในส่วนอื่นแทน แต่หากเครื่องคุณเคย root มา ก็ต้องทำตามขั้นตอนการยกเลิก (แล้วแต่ว่าคุณ root มาอย่างไร)
บทความนี้เป็นเพียงแนวทางในการตั้งค่าและอธิบายเรื่องการ root เครื่อง การรูทเครื่องมีการปรับเปลี่ยนและหลายรูปแบบ หากต้องการการยกเลิกการรูท ต้องดูว่าคุณรูทเครื่องแบบไหน ใช้วิธีเดียวกับในการรูทก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ และโดยปกติแล้ว ก่อนที่จะทำการ Root เครื่อง หรือ ติดตั้ง Custom ROM ผู้ใช้งานที่มีประสบการณ์หรือผู้ที่ทราบถึงความเสี่ยงจะทำการ สำรอง ROM เดิม (Stock ROM) หรือสำรองข้อมูลทั้งหมดไว้เสมอ เนื่องจากการทำการ Root หรือเปลี่ยน ROM อาจมีความเสี่ยงต่อการทำให้อุปกรณ์เสียหายหรือสูญเสียข้อมูลสำคัญ ดังนั้นตัวผู้รูทเครื่องเองต้องมีความรู้เรื่องพวกนี้อยู่แล้วพอสมควร แต่หากไม่มีความรู้หรือไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเอง อาจต้องพึ่งผู้เชียวชาญหรือช่างที่มีความรู้แก้ไขปัญหานี้
Leave a Reply