
อัยการเกาหลีใต้ร้องขอศาลอุทธรณ์ตัดสินโทษจำคุก 5 ปี “Jay Lee” ผู้บริหาร Samsung
อัยการเกาหลีใต้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลในวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อขอให้ตัดสินโทษจำคุก 5 ปี และปรับ 500 ล้านวอน (ประมาณ 375,000 ดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับ Jay Y. Lee ผู้บริหารสูงสุดของ Samsung Electronics ในข้อหาปั่นหุ้นและฉ้อโกงบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการของบริษัทในเครือ Samsung เมื่อปี 2015
คดีนี้ถูกยื่นอุทธรณ์หลังจากที่ Lee และอดีตผู้บริหาร Samsung อีก 13 คนได้รับการยกฟ้องในข้อกล่าวหาเมื่อ 10 เดือนก่อน โดยศาลอุทธรณ์คาดว่าจะมีคำตัดสินในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 2025
อัยการเกาหลีใต้ยื่นอุทธรณ์ “Jay Lee” ผู้บริหาร Samsung ข้อหาปั่นหุ้นและฉ้อโกงบัญชีปี 2015 ขอให้ศาลตัดสินจำคุก 5 ปี
โซล, เกาหลีใต้ – 25 พฤศจิกายน 2024 – อัยการเกาหลีใต้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลในวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อขอให้ตัดสินโทษจำคุก 5 ปี และปรับ 500 ล้านวอน (ประมาณ 375,000 ดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับ Jay Y. Lee ผู้บริหารสูงสุดของ Samsung Electronics ในข้อหาปั่นหุ้นและฉ้อโกงบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการของบริษัทในเครือ Samsung เมื่อปี 2015
คดีนี้ถูกยื่นอุทธรณ์หลังจากที่ Lee และอดีตผู้บริหาร Samsung อีก 13 คนได้รับการยกฟ้องในข้อกล่าวหาเมื่อ 10 เดือนก่อน โดยศาลอุทธรณ์คาดว่าจะมีคำตัดสินในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 2025
รายละเอียดข้อกล่าวหา
- ปั่นหุ้น อัยการกล่าวว่า Lee และทีมผู้บริหารมีส่วนปรับเปลี่ยนราคาหุ้นของ Cheil Industries และ Samsung C&T เพื่อให้การควบรวมกิจการของทั้งสองบริษัทในปี 2015 เป็นไปตามแผน ซึ่งส่งผลให้ Lee สามารถควบคุมอำนาจใน Samsung ได้มากขึ้น
- ฉ้อโกงบัญชี มีข้อกล่าวหาว่า Lee และผู้บริหารถูกบิดเบือนบัญชีของ Samsung Biologics ซึ่ง Cheil Industries ถือหุ้นใหญ่อยู่ เพื่อสนับสนุนการควบรวมกิจการและเอื้อประโยชน์ต่อการครอบครองอำนาจบริหารของ Lee
อัยการกล่าวในศาลว่า “การกระทำของจำเลยได้ทำลายรากฐานของตลาดทุนเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวในกลุ่มธุรกิจ การพิจารณาคดีนี้จะเป็นกรณีตัวอย่างที่สำคัญสำหรับการปฏิรูปโครงสร้างของ Chaebol และความโปร่งใสในการดำเนินงานด้านบัญชีในอนาคต” พวกเขาเตือนว่าหากไม่มีบทลงโทษที่ชัดเจน อาจเปิดทางให้การควบรวมกิจการในอนาคตถูกดำเนินการโดยใช้วิธีการที่ผิดกฎหมาย
คดีนี้ถือเป็นกรณีที่สำคัญ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับความพยายามของเกาหลีใต้ในการปฏิรูป Chaebol หรือกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่ครอบครัวเป็นผู้ควบคุม ซึ่งมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจของประเทศ
Jay Lee ยืนยันว่าเขาไม่ได้กระทำผิด โดยกล่าวว่ากระบวนการควบรวมกิจการเป็นไปตามมาตรฐานการดำเนินงานของบริษัท
คำตัดสินจากศาลอุทธรณ์จะเป็นที่จับตามองจากทั้งนักลงทุนและสาธารณชน เนื่องจากอาจส่งผลต่อทิศทางของ Samsung และการปฏิรูปโครงสร้างธุรกิจในเกาหลีใต้ในอนาคต
ที่มา – techcrunch.com
Leave a Reply