Huawei เสนอเงินเดือน 3 เท่า ดึงพนักงานจากผู้ผลิตชิ้นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมชิปยุโรป

Huawei เสนอเงินเดือน 3 เท่า ดึงตัวพนักงานจากซัพพลายเออร์ชิปยุโรป หวังพัฒนานวัตกรรมท่ามกลางการคว่ำบาตรจากตะวันตก

Huawei กำลังเร่งพัฒนาการผลิตชิปขั้นสูง เพื่อรับมือกับมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ และพันธมิตร โดยมีรายงานว่า บริษัทเสนอเงินเดือนสูงถึง 3 เท่าเพื่อดึงดูดพนักงานจาก Zeiss บริษัทเยอรมันที่ผลิตเลนส์สำคัญสำหรับเครื่องมือการผลิตชิปขั้นสูงของ ASML ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับการสร้างชิประดับนาโนเมตร

การคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ และรัฐบาลยุโรป เช่น เนเธอร์แลนด์ ได้ปิดกั้นไม่ให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงอย่างเครื่อง Lithography แบบ Extreme Ultraviolet (EUV) ของ ASML ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญต่อการผลิตชิป 7 นาโนเมตรและขนาดที่เล็กกว่านั้น มาตรการดังกล่าวทำให้ Huawei และผู้ผลิตชิปจีนรายใหญ่อย่าง SMIC ต้องหันมาใช้เทคโนโลยีเก่า ที่มีความซับซ้อนและประสิทธิภาพต่ำกว่า

Zeiss ผู้ผลิตเลนส์ระดับโลกจากเยอรมนี เป็นซัพพลายเออร์หลักของ ASML โดยเลนส์ของ Zeiss ถูกใช้ในการควบคุมแสงอัลตราไวโอเลตเพื่อสร้างวงจรระดับนาโนเมตรบนแผ่นเวเฟอร์ ซึ่งถือเป็นกระบวนการสำคัญของการผลิตชิป

ตามรายงานจาก Wall Street Journal Huawei ได้พยายามดึงตัวพนักงานของ Zeiss ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยมุ่งเป้าไปที่พนักงานซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญในข้อมูลเทคโนโลยีเฉพาะด้าน การกระทำนี้ทำให้หน่วยข่าวกรองของเยอรมนีเริ่มการสอบสวน และจนถึงขณะนี้การตรวจสอบยังดำเนินอยู่

การที่ Huawei ถูกตัดขาดจากการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง ทำให้บริษัทต้องเร่งสร้างนวัตกรรมในประเทศ โดยการพัฒนาชิปและเครื่องมือการผลิตด้วยตนเองกลายเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และสมาร์ทโฟน ซึ่งคู่แข่งอย่าง Apple และ Samsung มีความได้เปรียบด้วยชิปขนาด 3 นาโนเมตรที่ล้ำหน้ากว่า

แม้ Huawei จะพยายามพัฒนาชิป 7 นาโนเมตร แต่การผลิตยังต้องพึ่งพากระบวนการ Multi-Patterning ซึ่งเพิ่มความซับซ้อนและลดประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับเทคโนโลยี EUV ที่ทันสมัยกว่า

มาตรการคว่ำบาตรที่เริ่มขึ้นในสมัยรัฐบาล Donald Trump และขยายต่อในสมัยรัฐบาล Joe Biden ไม่เพียงแต่ห้าม Huawei และ SMIC เข้าถึงอุปกรณ์สำคัญ แต่ยังจำกัดโอกาสในการพัฒนาชิปขั้นสูงอีกด้วย การพยายามดึงตัวพนักงานจากบริษัทในยุโรปจึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ Huawei ใช้เพื่อต่อสู้กับข้อจำกัดดังกล่าว

การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Huawei ในการสร้างเทคโนโลยีของตนเอง ท่ามกลางข้อจำกัดที่รุนแรงจากชาติตะวันตก อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดในอุตสาหกรรมชิปยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะหาก Huawei ยังคงเดินหน้าในลักษณะเดียวกันต่อไป

ที่มา – wccftech.com