เวลาฟังเพลงลำโพง หรือหูฟังดัง เสียงแตก, เสียงซ่า เกิดจากอะไร แก้ไขเบื้องต้นอย่างไรได้บ้าง

เสียงแตก

ฟังเพลงแล้วมีเสียงซ่าแตกเกิดจากอะไร


หลายคนอาจเคยเจอปัญหาเวลาฟังเพลงหรือดูวิดีโอ แล้วได้ยินเสียง “แตก ๆ ซ่า ๆ เป๊าะ ๆ” ออกมาจากลำโพงหรือหูฟัง ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้เสียอรรถรสในการฟัง แต่บางครั้งยังชวนให้สงสัยว่าอุปกรณ์เสียหรือไม่ บทความนี้จะพาไปรู้จักกับสาเหตุที่เป็นไปได้ และวิธีแก้ไขเบื้องต้นที่คุณสามารถลองทำเองได้

music listen

เสียงแตก เสียงซ่า คืออะไร

เสียงที่ได้ยินว่า “แตก” หรือ “ซ่า” นั้น ในทางเทคนิคเรียกได้หลายแบบ เช่น

  • Distortion: เสียงบิดเบี้ยวผิดเพี้ยน
  • Crackling: เสียงเป๊าะแป๊ะคล้ายเข็มทิ่มแผ่นเสียง
  • Clipping: เสียงแตกเพราะระดับสัญญาณเสียงเกินขีดจำกัดของอุปกรณ์

เสียงลักษณะนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งจากหูฟัง ลำโพง หรือระบบเสียงในอุปกรณ์เอง

สาเหตุที่พบบ่อย

  • ลำโพงหรือหูฟังรับพลังขับไม่ไหว เปิดเสียงดังเกินไปจนลำโพงหรือหูฟังขับไม่ไหว ทำให้เสียงเพี้ยนหรือแตก, ใช้อุปกรณ์ราคาถูกที่รองรับระดับเสียงสูงไม่ได้
  • สัญญาณเสียงขาเข้าแรงเกินไป (Clipping) โปรแกรมหรืออุปกรณ์ปล่อยสัญญาณเสียงแรงเกินที่ตัวรับรองรับได้
  • สายหรือพอร์ตมีปัญหา ขั้วต่อหูฟังหลวม สายหักใน หรือพอร์ตเสีย ทำให้สัญญาณขาด ๆ หาย ๆ
  • ไดรเวอร์เสียงผิดปกติ ระบบปฏิบัติการอัปเดตไม่สมบูรณ์ หรือไดรเวอร์เสียงไม่ตรงกับอุปกรณ์ ทำให้ส่งสัญญาณเสียงเพี้ยน
  • ไฟล์เสียงต้นทางคุณภาพต่ำ ฟังเพลงที่บีบอัดมาเกินไป หรือไฟล์เสียงเสียหาย ทำให้เกิดเสียงแตกตั้งแต่ต้นทาง
  • ซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ทำงานผิดปกติ โปรแกรมเล่นเพลงค้าง ใช้งาน CPU สูง หรือระบบทำงานผิดปกติ

วิธีตรวจสอบและแก้ไขเบื้องต้น

  • ลองลดระดับเสียงลง หากเสียงแตกหายไปเมื่อปรับเสียงเบาลง แสดงว่าอุปกรณ์รับเสียงไม่ไหว
  • ลองเปลี่ยนหูฟังหรือลำโพง ทดสอบกับอุปกรณ์อื่นเพื่อดูว่าเสียงแตกมาจากตัวไหนแน่
  • ตรวจสอบสายเชื่อมต่อและพอร์ต ถอดเสียบใหม่ ลองเช็ดขั้วด้วยแอลกอฮอล์ และดูว่าสายมีรอยหักหรือไม่
  • อัปเดตไดรเวอร์เสียง โดยเฉพาะในคอมพิวเตอร์ สามารถเข้าไปที่ Device Manager แล้วอัปเดตไดรเวอร์ใหม่
  • เปลี่ยนโปรแกรมเล่นเสียง ลองใช้โปรแกรมอื่น หรือสลับจากการฟังผ่าน YouTube ไปฟังผ่านแอปสตรีมมิ่งแทน
  • ตรวจสอบแหล่งเสียง ลองฟังเพลงจากไฟล์หรือแหล่งอื่นว่ามีปัญหาเหมือนกันหรือไม่

เสียงแตกหรือเสียงซ่าเวลาใช้งานหูฟังและลำโพก อาจเกิดได้จากทั้งตัวอุปกรณ์ สายเชื่อมต่อ ซอฟต์แวร์ หรือแม้แต่คุณภาพของไฟล์เสียงเอง การตรวจสอบอย่างเป็นระบบโดยเริ่มจากสิ่งง่ายที่สุดอย่างการลดเสียง เปลี่ยนพอร์ต หรือเปลี่ยนหูฟัง จะช่วยให้คุณสามารถระบุปัญหาได้เร็วขึ้น และแก้ไขได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องรีบส่งซ่อม

หากคุณลองทุกวิธีแล้วปัญหายังไม่หาย อาจถึงเวลาพิจารณาเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ที่มีคุณภาพสูงขึ้นเพื่อประสบการณ์การฟังที่ราบรื่นและเต็มอรรถรสยิ่งขึ้น

About modify 6201 Articles
สามารถนำบทความไปเผยแพร่ได้อย่างอิสระ โดยกล่าวถึงแหล่งที่มา เป็นลิงค์กลับมายังบทความนั้นๆ บทความอาจมีการพิมพ์ตกเรื่องภาษาไปบ้าง ต้องขออภัย พยามจะพิมพ์ผิดให้น้อยที่สุด (ทำเว็บคนเดียวไม่มีคนตรวจทาน) บทความที่สอนเรื่องต่างๆ กรุณาอ่านบทความให้เข้าใจก่อนโพสต์ถาม ติดตรงไหนสามารถถามได้ที่โพสต์นั้นๆ

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.