ออสเตรเลียประกาศจะแบน Youtube สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีด้วย หลังก่อนหน้านี้ละเว้นไว้

YouTube logo

ออสเตรเลียกลับลำ เตรียมแบน YouTube สำหรับเด็กต่ำกว่า 16 ปี หลังเคยยกเว้นไว้ในกฎหมายเดิม


รัฐบาลออสเตรเลียประกาศขยายขอบเขตการแบนโซเชียลมีเดียสำหรับเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปี โดยเพิ่ม YouTube เข้าไปในรายชื่อแพลตฟอร์มต้องห้าม หลังจากก่อนหน้านี้เคยระบุให้เป็นข้อยกเว้นในกฎหมาย Online Safety Amendment (Social Media Minimum Age) Act 2024 ที่ผ่านสภาเมื่อปลายปีที่ผ่านมา กฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้เดือนธันวาคม 2025

เมื่อปี 2024 รัฐบาลออสเตรเลียออกกฎหมายกำหนดอายุขั้นต่ำสำหรับการใช้งานโซเชียลมีเดีย โดยห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีสร้างบัญชีหรือใช้งานแพลตฟอร์มดังกล่าว รายชื่อที่ถูกประกาศในตอนนั้นประกอบด้วย TikTok, Instagram, Snapchat, Facebook และ X (Twitter เดิม) แต่ YouTube ได้รับการยกเว้นเนื่องจากรัฐบาลมองว่าแพลตฟอร์มนี้เป็นแหล่งวิดีโอเพื่อการศึกษาและสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องล็อกอิน ซึ่งไม่เอื้อต่อการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้งานเหมือนโซเชียลมีเดียทั่วไป

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดรัฐบาลเปลี่ยนท่าที หลังสำนักงานกำกับดูแลด้านความปลอดภัยออนไลน์ (eSafety Commissioner) รายงานว่า YouTube เป็นแพลตฟอร์มที่มีรายงานเนื้อหาที่เป็นอันตรายจากเยาวชนมากที่สุดถึง 37% จึงมีความจำเป็นต้องรวมอยู่ในขอบเขตการบังคับใช้กฎหมายเพื่อปกป้องสวัสดิภาพเด็กและลดผลกระทบด้านสุขภาพจิต

ตามกฎหมายดังกล่าว แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจะต้องดำเนินการตรวจสอบอายุและป้องกันการใช้งานของเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี หากละเมิดมีโทษปรับสูงสุดถึง 49.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย โดยก่อนหน้านี้แพลตฟอร์มที่ถูกแบน เช่น Meta (Facebook, Instagram), TikTok และ Snapchat เคยวิจารณ์ว่า การยกเว้น YouTube ไม่เป็นธรรม เนื่องจากมีฟีเจอร์แนะนำคอนเทนต์และการโต้ตอบคล้ายโซเชียลมีเดียทั่วไป

กฎหมาย Online Safety Amendment มีผลบังคับใช้เดือนธันวาคมปีนี้ และเมื่อถึงเวลานั้น เด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปีในออสเตรเลียจะไม่สามารถสร้างหรือใช้งานบัญชีบนโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม รวมถึง YouTube ได้อีกต่อไป ยกเว้นกรณีเข้าชมเนื้อหาผ่านการดูวิดีโอที่ครูหรือผู้ปกครองเป็นผู้เปิดให้เท่านั้น

ทั้งนี้ YouTube ระบุว่า เห็นด้วยกับรัฐบาล คือ การลดอันตรายออนไลน์ พร้อมยืนยันว่า YouTube ไม่ใช่ social media แต่เป็นแพลตฟอร์มบริการแชร์วิดีที่มีเนื้อหาคุณภาพที่ฟรี จึงไม่ควรถูกรวมในกฎหมายควบคุมโซเชียลมีเดียดังดังกล่าว

ที่มา – reuters.com

About modify 6215 Articles
สามารถนำบทความไปเผยแพร่ได้อย่างอิสระ โดยกล่าวถึงแหล่งที่มา เป็นลิงค์กลับมายังบทความนั้นๆ บทความอาจมีการพิมพ์ตกเรื่องภาษาไปบ้าง ต้องขออภัย พยามจะพิมพ์ผิดให้น้อยที่สุด (ทำเว็บคนเดียวไม่มีคนตรวจทาน) บทความที่สอนเรื่องต่างๆ กรุณาอ่านบทความให้เข้าใจก่อนโพสต์ถาม ติดตรงไหนสามารถถามได้ที่โพสต์นั้นๆ

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.