วิธีตั้งค่า Energy Saver ใน Windows 11 (24H2+) พร้อมใช้งานอัตโนมัติ

Windows 11 logo Cartoon

เปิด “Energy Saver” ให้ทำงานอัตโนมัติ + ปุ่มลัด Quick Settings (Windows 11 24H2+)


Energy Saver เป็นฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 ที่ Microsoft พัฒนามาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถประหยัดพลังงานและยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้ดีกว่าเดิม โดยเข้ามาแทนที่ Battery Saver รุ่นเก่า และเพิ่มความยืดหยุ่นมากขึ้น เพราะสามารถเปิดใช้งานได้ทั้งตอนใช้แบตเตอรี่และแม้ขณะเสียบปลั๊ก ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการใช้พลังงานได้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานของตนเอง

ประโยชน์ของ Energy Saver

  • ประหยัดพลังงานมากขึ้น — ลดการทำงานของแอปพื้นหลังและเอฟเฟกต์ภาพบางส่วนเพื่อใช้พลังงานน้อยลง
  • เปิดใช้งานได้แม้เสียบปลั๊ก — ต่างจาก Battery Saver ที่ใช้ได้เฉพาะตอนใช้แบตเตอรี่
  • ตั้งค่าได้ยืดหยุ่น — สามารถตั้งให้เปิดอัตโนมัติเมื่อแบตเตอรี่เหลือต่ำกว่าที่กำหนด หรือเปิดตลอดเวลา
  • ยืดอายุแบตเตอรี่ — ลดการใช้พลังงานโดยรวม ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมช้าลงและใช้งานได้นานขึ้น

ผลกระทบเมื่อเปิด Energy Saver

  • ระบบจะลดความสว่างหน้าจอโดยอัตโนมัติ (ปิดได้ใน Settings)
  • แอปพื้นหลังบางส่วนจะถูกจำกัด ทำให้การซิงก์ OneDrive, OneNote หรือแอปที่ต้องเชื่อมต่ออาจล่าช้าลง
  • เอฟเฟกต์ภาพบางอย่าง เช่น Transparency จะถูกปิดเพื่อประหยัดพลังงาน
  • หากเล่นเกมหรือทำงานกราฟิกหนัก ประสิทธิภาพอาจลดลง (FPS ตก)

วิธีเปิดหรือปิด Energy Saver ผ่าน Quick Settings

  1. กดปุ่ม Win + A เพื่อเปิด Quick Settings
  2. แตะไอคอน Energy Saver เพื่อเปิดหรือปิดได้ทันที
  3. หากไม่พบไอคอน ให้แตะปุ่ม Edit quick settings (ไอคอนดินสอ) → Add → เลือก Energy Saver → กด Done

Energy Saver Windows 11

วิธีตั้งให้ Energy Saver ทำงานอัตโนมัติ

  1. ไปที่ Settings > System > Power & battery
  2. เลื่อนลงมาที่หัวข้อ Energy saver และคลิกเพื่อขยายเมนู
  3. ตั้งค่า Turn on automatically ได้ 3 แบบ:
    • Always — เปิด Energy Saver ตลอดเวลา (แม้เสียบปลั๊ก)
    • On battery — เปิดเฉพาะเมื่อใช้แบตเตอรี่ โดยสามารถตั้งเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ที่ให้เริ่มทำงานได้
    • Off — ปิดการเปิดใช้งานอัตโนมัติ
  4. ถ้าไม่ต้องการให้หน้าจอลดความสว่างอัตโนมัติ ให้ปิดตัวเลือก Lower screen brightness when using Energy Saver
  5. หากต้องการเปิดใช้งานทันที ให้คลิกปุ่ม Turn on now

Energy Saver กับการเล่นเกม

ถ้าคุณเล่นเกมที่ต้องใช้ทรัพยากรสูง เช่น เกมกราฟิก 3D หรือเกมออนไลน์แบบ FPS การเปิด Energy Saver จะทำให้ ประสิทธิภาพลดลง อย่างเห็นได้ชัด ทั้ง FPS ตก โหลดฉากช้าลง และเกิดอาการกระตุก ดังนั้นแนะนำให้ ปิด Energy Saver ก่อนเริ่มเล่นเกม โดยเฉพาะเมื่อเสียบปลั๊กอยู่แล้ว แต่ถ้าเล่นเกมเบา ๆ หรือเกมออฟไลน์ Energy Saver สามารถเปิดไว้ได้

ข้อควรระวังในการใช้งาน

  • การเปิด Energy Saver จะทำให้แอปพื้นหลังบางตัวหยุดทำงานชั่วคราว เช่น OneDrive, OneNote และ Microsoft Store
  • ความสว่างหน้าจอจะลดลงโดยอัตโนมัติ แต่ผู้ใช้สามารถปิดฟีเจอร์นี้ได้ใน Settings
  • หากต้องการประสิทธิภาพเต็ม 100% แนะนำให้ปิด Energy Saver โดยเฉพาะเวลาทำงานกราฟิกหนักหรือเล่นเกม

สรุป: Energy Saver เป็นฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ที่ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมการใช้พลังงานได้ดีกว่า Battery Saver เดิม เปิดใช้งานได้ง่ายผ่าน Quick Settings และตั้งค่าให้ทำงานอัตโนมัติได้ตามต้องการ เหมาะกับผู้ที่ใช้โน้ตบุ๊กหรืออุปกรณ์พกพาและต้องการยืดอายุแบตเตอรี่ แต่หากต้องการประสิทธิภาพสูงสุด เช่นการเล่นเกมหรือทำงานกราฟิกหนัก ควรปิดฟีเจอร์นี้เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพเต็มที่

About modify 6170 Articles
สามารถนำบทความไปเผยแพร่ได้อย่างอิสระ โดยกล่าวถึงแหล่งที่มา เป็นลิงค์กลับมายังบทความนั้นๆ บทความอาจมีการพิมพ์ตกเรื่องภาษาไปบ้าง ต้องขออภัย พยามจะพิมพ์ผิดให้น้อยที่สุด (ทำเว็บคนเดียวไม่มีคนตรวจทาน) บทความที่สอนเรื่องต่างๆ กรุณาอ่านบทความให้เข้าใจก่อนโพสต์ถาม ติดตรงไหนสามารถถามได้ที่โพสต์นั้นๆ

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.