Aardvark: ระบบ AI รุ่นใหม่ที่ใช้ GPT-5 วิเคราะห์ช่องโหว่ คิด แก้ และทดสอบโค้ดได้เอง เปิดให้ทดสอบแบบ Private Beta แล้ววันนี้
OpenAI ประกาศเปิดตัวโครงการใหม่ชื่อ “Aardvark” ซึ่งเป็นเอเจนต์อัจฉริยะ (Agentic Security Researcher) ที่ออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่เป็น “นักวิจัยความปลอดภัยทางซอฟต์แวร์” โดยใช้ขุมพลังจาก GPT-5 รุ่นล่าสุด ช่วยค้นหา วิเคราะห์ และเสนอแนวทางแก้ไขช่องโหว่ในซอร์สโค้ดได้แบบอัตโนมัติ โดยขณะนี้เปิดให้ทดสอบในรูปแบบ Private Beta สำหรับองค์กรและนักพัฒนาที่ได้รับเชิญ
เป้าหมายของ Aardvark คือช่วยให้นักพัฒนาและทีมความปลอดภัยสามารถรับมือกับภัยคุกคามที่ซับซ้อนในโลกซอฟต์แวร์ยุคใหม่ได้ดียิ่งขึ้น ปัจจุบันในแต่ละปีมีช่องโหว่ใหม่ ๆ ถูกค้นพบมากกว่าสี่หมื่นรายการทั่วโลก และกว่า 1.2% ของการ Commit โค้ดทั้งหมดอาจนำบั๊กหรือช่องโหว่ใหม่เข้าสู่ระบบโดยไม่ตั้งใจ
การทำงานของ Aardvark
Aardvark ทำงานด้วยกระบวนการหลายขั้นตอนที่คล้ายกับนักวิจัยความปลอดภัยจริง โดยไม่พึ่งเทคนิคแบบเดิม เช่น fuzzing หรือ static analysis แต่ใช้การให้เหตุผลของโมเดลภาษาและการใช้เครื่องมือประกอบการตรวจสอบ เพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมของโค้ดและหาช่องโหว่ได้แม่นยำกว่าเดิม
- Analysis: วิเคราะห์ซอร์สโค้ดทั้งหมดเพื่อสร้างโมเดลความเสี่ยง (Threat Model) ของโปรเจกต์
- Commit Scanning: ตรวจจับความเปลี่ยนแปลงในโค้ดแต่ละ Commit เพื่อหาจุดที่อาจเกิดช่องโหว่
- Validation: ทดสอบช่องโหว่ที่พบในสภาพแวดล้อม Sandbox เพื่อยืนยันความเป็นไปได้ในการโจมตี
- Patching: สร้างและแนบแพตช์ที่ได้จาก OpenAI Codex เพื่อให้ทีมงานตรวจสอบและกดแก้ไขได้ทันที

ระบบนี้สามารถเชื่อมต่อกับ GitHub และเวิร์กโฟลว์ของนักพัฒนาโดยตรง เพื่อให้การตรวจสอบและแก้ไขช่องโหว่เกิดขึ้นโดยไม่รบกวนกระบวนการพัฒนา อีกทั้งยังสามารถค้นพบบั๊กทั่วไป เช่น logic error หรือปัญหาความเป็นส่วนตัวที่มักหลุดรอดจากการตรวจสอบด้วยมือ
OpenAI เผยว่า Aardvark ถูกนำมาใช้งานภายในบริษัทและในโครงการพันธมิตรภายนอกมาหลายเดือน โดยสามารถค้นพบช่องโหว่จริงที่ซ่อนอยู่ในเงื่อนไขซับซ้อนได้หลายรายการ ในการทดสอบกับชุดโค้ด “golden repositories” Aardvark ตรวจพบช่องโหว่ได้มากถึง 92% ของช่องโหว่ที่ทราบและที่ถูกฝังไว้เพื่อทดสอบความแม่นยำ
OpenAI ระบุว่า Aardvark ถูกนำไปใช้กับโครงการโอเพนซอร์สหลายโปรเจกต์แล้ว และได้รายงานช่องโหว่ที่ค้นพบอย่างรับผิดชอบ ซึ่งมีบางรายการได้รับรหัส CVE (Common Vulnerabilities and Exposures) อย่างเป็นทางการ บริษัทตั้งใจจะให้บริการสแกนฟรีแก่โครงการโอเพนซอร์สที่ไม่แสวงหากำไร เพื่อเสริมความปลอดภัยในห่วงโซ่อุปทานของซอฟต์แวร์ทั่วโลก
นอกจากนี้ OpenAI ยังอัปเดตนโยบายการเปิดเผยช่องโหว่ให้มีความยืดหยุ่นและเป็นมิตรต่อผู้พัฒนา ลดแรงกดดันจากกรอบเวลาเดิม เพื่อสนับสนุนการแก้ไขช่องโหว่ร่วมกันอย่างยั่งยืน
เปิดทดสอบ Private Beta
ขณะนี้ OpenAI เปิดรับองค์กรและโครงการโอเพนซอร์สที่ต้องการเข้าร่วมทดสอบ Aardvark Private Beta โดยผู้เข้าร่วมจะได้ใช้งานระบบจริง ร่วมปรับปรุงกระบวนการตรวจจับ การยืนยันผล และการรายงาน พร้อมทำงานใกล้ชิดกับทีมพัฒนา Aardvark เพื่อเตรียมขยายสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์ในอนาคต
ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วม Private Beta ได้จากหน้าเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ OpenAI ที่ Introducing Aardvark
Leave a Reply