ฟีเจอร์ Group Chats บน ChatGPT ให้เพื่อน ครอบครัว และเพื่อนร่วมงานร่วมวางแผน ทำงาน และคุยกับ ChatGPT พร้อมกันได้ในห้องเดียว เริ่มรองรับผู้ใช้ Free, Go, Plus และ Pro ในญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ และไต้หวัน
OpenAI เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อ Group Chats ในรูปแบบการทดสอบ (pilot) สำหรับผู้ใช้บางประเทศ ทำให้ผู้ใช้หลายคนสามารถร่วมสนทนาในห้องเดียวกันพร้อมกับ ChatGPT ได้ ไม่ว่าจะใช้เพื่อวางแผนทริป ประชุมงาน ทำโปรเจกต์ หรือตัดสินใจร่วมกัน ฟีเจอร์ใหม่นี้ถูกออกแบบให้เป็น “พื้นที่ร่วมกัน” ที่ผู้ใช้และ ChatGPT สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลและไอเดียไปพร้อมกัน โดยแยกออกจากห้องแชตส่วนตัวของแต่ละคนอย่างชัดเจน

ในช่วงเริ่มต้น Group Chats จะเปิดให้ใช้งานบนทั้งเว็บและมือถือสำหรับผู้ใช้ที่ล็อกอิน ChatGPT บนแผน Free, Go, Plus และ Pro ใน 4 ประเทศแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ และไต้หวัน โดย OpenAI ระบุว่านี่เป็นเพียง “ก้าวแรก” ของประสบการณ์การใช้งานแบบกลุ่ม และจะนำฟีดแบ็กช่วงทดสอบไปใช้ในการออกแบบฟีเจอร์สำหรับภูมิภาคอื่นในอนาคต
OpenAI ยกตัวอย่างการใช้งาน Group Chats ในหลายสถานการณ์ ตั้งแต่การใช้งานในชีวิตประจำวันไปจนถึงการทำงานหรือการเรียน เช่น การสร้างห้องแชตกลุ่มกับเพื่อนเพื่อวางแผนทริปวันหยุด ให้ ChatGPT ช่วยเปรียบเทียบจุดหมายปลายทาง สร้างตารางทริป และทำเช็กลิสต์ของที่ต้องเตรียม โดยทุกคนในกลุ่มสามารถเห็นและร่วมแก้ไขไอเดียได้พร้อมกัน
นอกจากนี้ Group Chats ยังเหมาะกับโปรเจกต์ที่ต้องการความร่วมมือ เช่น ออกแบบสวนหลังบ้าน เลือกงานศิลป์แต่งห้องกับคู่รักหรือรูมเมต รวมถึงการตัดสินใจแบบกลุ่มอย่างการหาร้านอาหารที่ทุกคนยอมรับได้ หรือใช้ ChatGPT เป็น “กรรมการกลาง” ในการช่วยอธิบายข้อมูลระหว่างการถกเถียงประเด็นต่าง ๆ
สำหรับการทำงานและการเรียน ผู้ใช้สามารถสร้างห้องแชตร่วมกับเพื่อนร่วมทีมเพื่อร่างโครงร่างเอกสาร สรุปบทความ แบ่งงาน หรือค้นคว้าข้อมูลด้วยกัน โดย ChatGPT จะช่วยสรุปข้อมูล จัดระเบียบโน้ต หรือช่วยตอบคำถามที่สมาชิกในกลุ่มโยนเข้ามาในห้องแชตได้
การเริ่มต้น Group Chats ทำได้จากแชตเดิมหรือแชตใหม่ โดยผู้ใช้เพียงแตะที่ไอคอนรูปคนที่มุมขวาบนของหน้าแชตเพื่อสร้างห้องกลุ่ม เมื่อเพิ่มผู้อื่นเข้ามาในแชตที่มีอยู่ ระบบจะสร้างสำเนาการสนทนาเดิมเป็นห้องแชตกลุ่มใหม่ เพื่อให้ประวัติแชตส่วนตัวเดิมของผู้ใช้ยังคงแยกจากห้องกลุ่มอย่างชัดเจน ไม่ปะปนกัน
ผู้ใช้สามารถเชิญเพื่อนเข้าห้องได้สูงสุด 20 คนต่อห้องผ่านลิงก์เชิญ และสมาชิกทุกคนในกลุ่มสามารถแชร์ลิงก์เชิญเพื่อเพิ่มคนอื่นเข้ามาได้เช่นกัน เมื่อผู้ใช้เข้าร่วมห้องกลุ่มเป็นครั้งแรก ระบบจะให้ตั้งโปรไฟล์สั้น ๆ เช่น ชื่อที่ใช้ในกลุ่ม ยูสเซอร์เนม และรูปภาพ เพื่อให้ทุกคนเห็นได้ชัดว่าแต่ละข้อความมาจากใคร

ห้องสนทนากลุ่มจะถูกจัดเก็บไว้ในส่วนใหม่ของแถบด้านข้าง (sidebar) ที่มีป้ายกำกับชัดเจน ทำให้ผู้ใช้สามารถย้อนกลับมาดูหรือสลับระหว่างห้องกลุ่มและห้องแชตส่วนตัวได้ง่ายขึ้น
ภายใน Group Chats ChatGPT ทำงานคล้ายกับการสนทนาปกติ แต่รองรับผู้ใช้หลายคนในห้องเดียว โดยการตอบของ ChatGPT ใช้โมเดล GPT-5.1 Auto ซึ่งจะเลือกโมเดลที่เหมาะสมที่สุดให้ตามบริบทของคำถามและสิทธิ์โมเดลที่ผู้ใช้แต่ละคนมีตามแผน Free, Go, Plus หรือ Pro ของตน
ฟีเจอร์สำคัญที่รองรับในห้องกลุ่ม ได้แก่ การค้นหา การอัปโหลดไฟล์ การส่งรูปภาพ การสั่งให้สร้างภาพใหม่ การป้อนคำสั่งด้วยเสียง รวมถึงการใช้เครื่องมือเสริมอื่น ๆ ที่ ChatGPT รองรับอยู่แล้ว โดย “โควต้า” หรือการนับจำนวนการตอบของ ChatGPT จะคิดตามผู้ใช้ที่ ChatGPT ตอบในขณะนั้น ไม่ได้คิดตามจำนวนคนที่อยู่ในห้อง
OpenAI ยังระบุด้วยว่าได้สอน ChatGPT ให้มี “พฤติกรรมทางสังคม” ที่เหมาะกับห้องแชตกลุ่ม เช่น เลือกตอบเฉพาะจังหวะที่เหมาะสม ไม่แทรกกลางทุกข้อความ และปล่อยให้การสนทนาของมนุษย์ดำเนินไปตามธรรมชาติ หากผู้ใช้ต้องการให้ ChatGPT เข้ามาตอบโดยตรงก็สามารถพิมพ์เรียกชื่อ “ChatGPT” ในข้อความได้
อีกด้านหนึ่ง ChatGPT ยังสามารถแสดงปฏิกิริยาต่อข้อความด้วยอีโมจิ และอ้างอิงรูปโปรไฟล์ของสมาชิกในห้องเพื่อสร้างภาพประกอบที่มีความเป็น “ส่วนตัว” มากขึ้น เช่น สร้างภาพสนุก ๆ ของสมาชิกในกลุ่มโดยใช้รูปโปรไฟล์เป็นต้นแบบตามที่ผู้ใช้ร้องขอ
ผู้ใช้สามารถจัดการการตั้งค่าห้องกลุ่มได้จากไอคอนรายชื่อผู้เข้าร่วม เช่น ตั้งชื่อกลุ่ม เพิ่มหรือลบสมาชิก หรือปิดการแจ้งเตือนจากห้องนั้นได้ตามต้องการ นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าคำสั่งพิเศษ (custom instructions) ให้กับ ChatGPT ในแต่ละห้องกลุ่มได้ เช่น กำหนดให้ ChatGPT ตอบแบบกระชับ ตอบในโทนเป็นกันเอง หรือให้ช่วยสรุปทุก ๆ ช่วงท้ายการสนทนา เป็นต้น
OpenAI ย้ำว่าแชตกลุ่มถูกออกแบบให้แยกจากห้องแชตส่วนตัวอย่างชัดเจน โดย memory ส่วนตัวของผู้ใช้จะไม่ถูกนำมาใช้ใน Group Chats และ ChatGPT ก็จะไม่สร้าง memory ใหม่จากการสนทนาในแชตกลุ่มเช่นกัน ในอนาคต OpenAI ระบุว่ากำลังสำรวจตัวเลือกการควบคุมแบบละเอียดมากขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้สามารถกำหนดเองได้ว่าต้องการให้ใช้งาน memory ในแชตกลุ่มหรือไม่
ผู้ใช้ยังเป็นผู้ควบคุมการเข้าร่วมกลุ่มอย่างเต็มที่ ทุกคนต้องกดยอมรับคำเชิญก่อนเข้าร่วมแชตกลุ่ม สมาชิกทุกคนจะเห็นได้ชัดเจนว่าใครอยู่ในห้อง และสามารถออกจากห้องได้ทุกเมื่อ สมาชิกในกลุ่มสามารถลบคนอื่นออกจากห้องได้ ยกเว้นผู้สร้างกลุ่มที่ไม่สามารถถูกลบออกโดยคนอื่นได้ หากผู้สร้างกลุ่มต้องการออก จะต้องออกเองเท่านั้น
สำหรับผู้ใช้อายุต่ำกว่า 18 ปี OpenAI ระบุว่าระบบจะลดการแสดงเนื้อหาที่มีความอ่อนไหวโดยอัตโนมัติสำหรับทุกคนในห้องแชตนั้น และผู้ปกครองหรือผู้ดูแลสามารถปิดการใช้งาน Group Chats ได้ทั้งหมดผ่านระบบ parental controls เพื่อเพิ่มความอุ่นใจและความปลอดภัยในการใช้งานของเยาวชน
OpenAI มองว่า Group Chats เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยน ChatGPT จากผู้ช่วยส่วนตัว มาเป็น “พื้นที่ร่วมกัน” ที่ผู้คนสามารถเข้ามาร่วมวางแผน สร้างสรรค์ไอเดีย ตัดสินใจ และแสดงออกทางความคิดไปพร้อมกับคนที่สำคัญในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงาน โดยในระหว่างการทดสอบนี้ OpenAI จะเก็บข้อมูลการใช้งานและฟีดแบ็กจากผู้ใช้เพื่อนำไปปรับปรุงฟีเจอร์ ก่อนขยายไปยังภูมิภาคและแผนการใช้งานอื่นในอนาคต
ที่มา: OpenAI
Leave a Reply