CoreWeave ชี้แจงประเด็นดีลแบบหมุนเวียนในอุตสาหกรรม AI ระบุเป็นการ ทำงานร่วมกัน เพื่อตอบโจทย์อุปสงค์อุปทาน
CoreWeave ผู้ให้บริการคลาวด์โครงสร้างพื้นฐานด้าน AI เผชิญปีที่เต็มไปด้วยความผันผวน ทั้งการ IPO ช่วงมีเศรษฐกิจไม่แน่นอน การล้มเหลวของแผนเข้าซื้อกิจการ Core Scientific และราคาหุ้นที่แกว่งขึ้นลงอยู่ตลอด ล่าสุดในการให้สัมภาษณ์บนเวทีงาน Fortune Brainstorm AI ที่ซานฟรานซิสโก Michael Intrator ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ได้ออกมาปกป้องบริษัท พร้อมอธิบายว่าธุรกิจกำลังสร้าง รูปแบบใหม่ของคลาวด์คอมพิวติ้ง ที่ได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและความต้องการด้าน AI ที่เพิ่มสูงอย่างรวดเร็ว
Intrator ระบุว่าราคาหุ้นที่แกว่งตัวไม่ใช่เรื่องผิดปกติ โดยชี้ว่าบริษัทเข้าตลาดในช่วงที่มาตรการภาษีของรัฐบาลสหรัฐเริ่มมีผล รวมถึงความไม่แน่นอนวัน Liberation Day เขาย้ำว่าแม้จะเป็นช่วงเวลาที่ท้าทาย แต่ CoreWeave ก็สามารถเปิด IPO ได้สำเร็จ และเขาภูมิใจกับสิ่งที่บริษัททำสำเร็จตั้งแต่วันนั้น
หุ้น CoreWeave เปิดตัวที่ราคา 40 ดอลลาร์ ก่อนจะขึ้นสูงกว่า 150 ดอลลาร์ภายในแปดเดือน และล่าสุดอยู่ราว 90 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์บางรายมองว่าความผันผวนนี้คล้ายหุ้นกลุ่ม “meme stock” โดยเฉพาะเมื่อบริษัทมีหนี้จำนวนมาก และล่าสุดมีการออกหนี้เพิ่มเพื่อขยายศูนย์ข้อมูล ส่งผลให้ราคาหุ้นลดลง 8%
ในเวทีเดียวกัน Intrator ยังตอบคำถามเกี่ยวกับ circular deals (ดีลที่บริษัทกลุ่มเดียวกันลงทุนสนับสนุนกันเอง) ในอุตสาหกรรม AI ซึ่งบริษัทใหญ่หลายแห่งมีการลงทุนไขว้กันจนถูกวิจารณ์ในเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจ เขาปฏิเสธว่าเป็นปัญหา โดยอธิบายว่าอุตสาหกรรมกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงด้านอุปสงค์–อุปทานอย่างรุนแรง และ “การทำงานร่วมกัน” เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรองรับความต้องการ GPU ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว Nvidia ซึ่งเป็นทั้งนักลงทุนและซัพพลายเออร์ของ CoreWeave ก็อยู่ในเครือความร่วมมือดังกล่าว
CoreWeave เริ่มต้นจากการทำเหมืองคริปโต ก่อนจะกลายเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ให้บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำจำนวนมาก ทั้ง Microsoft, OpenAI, Nvidia, Meta และพันธมิตรอื่น ๆ บริษัทได้ขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง หลังการซื้อกิจการ Weights & Biases ตามด้วย OpenPipe และการทำดีลเข้าซื้อ Marimo กับ Monolith นอกจากนี้ยังประกาศขยายความร่วมมือคลาวด์กับ OpenAI รวมถึงเตรียมเข้าสู่ตลาดภาครัฐสหรัฐเพื่อให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI แก่หน่วยงานรัฐบาลและภาคอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
ที่มา: TechCrunch
Leave a Reply