สหรัฐฯ สั่งระงับการก่อสร้างกังหันลมนอกชายฝั่งทั้งหมด อ้างเหตุความมั่นคงจากรายงานลับของกลาโหม
รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศระงับการก่อสร้างโครงการกังหันลมนอกชายฝั่งทั้งหมดที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในประเทศ รวม 5 โครงการ โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติจากการประเมินของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งถูกจัดเป็นข้อมูลลับและไม่เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ ต่อสาธารณะ
การตัดสินใจดังกล่าวถูกประกาศโดยกระทรวงมหาดไทยสหรัฐฯ ทั้งที่โครงการเหล่านี้ผ่านกระบวนการอนุญาตครบถ้วนมาแล้ว และหลายแห่งมีการติดตั้งโครงสร้างถาวรทั้งในทะเลและบนบก บางโครงการใกล้แล้วเสร็จ แต่รัฐบาลระบุว่าการประเมินล่าสุดจากกลาโหมพบความเสี่ยงใหม่ แม้ก่อนหน้านี้กระทรวงกลาโหมจะเคยมีส่วนร่วมในการประเมินและไม่เคยชี้ว่ามีปัญหาด้านความมั่นคง
ท่าทีต่อต้านพลังงานลมนอกชายฝั่งของรัฐบาลทรัมป์เริ่มตั้งแต่วันแรกของการเข้ารับตำแหน่ง ด้วยคำสั่งฝ่ายบริหารให้ชะลอการออกใบอนุญาตใหม่เพื่อทบทวนผลกระทบทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ศาลได้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าวไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถแสดงให้เห็นว่ามีการเริ่มต้นกระบวนการทบทวนจริงตามที่อ้าง
แม้คำสั่งฝ่ายบริหารจะถูกยกเลิก แต่รัฐบาลยังพยายามหยุดโครงการที่เริ่มก่อสร้างแล้วเป็นระยะ โครงการ Empire Wind เคยถูกสั่งหยุดโดยอ้างว่าการอนุญาตเร่งรัดเกินไป ก่อนจะถูกยกเลิกคำสั่งภายหลังการเจรจากับรัฐนิวยอร์กและบริษัทผู้พัฒนาโดยไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจน ขณะที่โครงการ Revolution Wind บริษัทผู้พัฒนาได้ฟ้องร้องรัฐบาลและชนะคดี ทำให้สามารถกลับมาก่อสร้างต่อได้
การประกาศล่าสุดครอบคลุมโครงการนอกชายฝั่งทั้งหมด 5 แห่งที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งเป็นทั้งหมดที่มีอยู่ในสหรัฐฯ ณ เวลานี้ โดยกระทรวงมหาดไทยอ้างว่าโครงการเหล่านี้ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความมั่นคงแห่งชาติจากการวิเคราะห์ล่าสุดของกระทรวงกลาโหม ซึ่งรายละเอียดถูกปิดเป็นความลับ ทำให้ยากต่อการตรวจสอบหรือโต้แย้งในชั้นศาล
กระทรวงระบุเพียงว่ากังหันลมนอกชายฝั่งอาจรบกวนระบบเรดาร์ ซึ่งเป็นประเด็นที่มีการรับรู้มานานแล้ว ขณะที่รัฐมนตรีมหาดไทย Doug Burgum กล่าวถึงการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีจากฝ่ายตรงข้ามโดยไม่ให้รายละเอียดเพิ่มเติม การจัดชั้นความลับของรายงานยังทำให้การท้าทายคำสั่งนี้ในทางกฎหมายมีความซับซ้อนมากขึ้น
โครงการที่ถูกสั่งระงับทั้งหมดประกอบด้วย Coastal Virginia Offshore Wind กำลังการผลิต 2.6 กิกะวัตต์ นอกชายฝั่งรัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งโครงสร้างฐานในทะเลเสร็จสมบูรณ์แล้ว Empire Wind ขนาดประมาณ 810 เมกะวัตต์ นอกชายฝั่งนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์ Revolution Wind กำลังการผลิต 700 เมกะวัตต์ นอกชายฝั่งคอนเนตทิคัตและโรดไอแลนด์ ซึ่งมีความคืบหน้าราว 80 เปอร์เซ็นต์ Sunrise Wind ขนาด 925 เมกะวัตต์ ใกล้ปลายเกาะลองไอแลนด์ และ Vineyard Wind 1 ขนาด 800 เมกะวัตต์ ใกล้เกาะ Nantucket และ Martha’s Vineyard ซึ่งเดิมคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้
หลายรัฐที่ได้รับผลกระทบแสดงท่าทีคัดค้านอย่างชัดเจน โดยอัยการสูงสุดรัฐคอนเนตทิคัตระบุว่าการกระทำดังกล่าวอาจเป็นความพยายามใหม่ในการหลีกเลี่ยงคำสั่งศาลเดิม และกำลังพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายเพิ่มเติม ขณะที่บริษัทผู้พัฒนาโครงการก็มีแนวโน้มจะฟ้องร้อง เนื่องจากหลายโครงการได้ใช้เงินลงทุนไปเกือบทั้งหมดแล้วและกำลังรอเริ่มจำหน่ายไฟฟ้า
ก่อนหน้านี้ ทุกครั้งที่รัฐบาลพยายามหยุดโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งในศาล รัฐบาลเป็นฝ่ายแพ้ทั้งหมด โดยศาลชี้ว่ารัฐบาลไม่มีเหตุผลเชิงสาระเพียงพอในการกลับลำนโยบายที่ดำเนินมายาวนาน และเอกสารภายในสะท้อนว่าการตัดสินใจจำนวนมากตั้งอยู่บนท่าทีส่วนตัวของประธานาธิบดีต่อพลังงานลม มากกว่าการประเมินเชิงเทคนิคหรือความมั่นคงอย่างแท้จริง
ที่มา: Ars Technica
Leave a Reply