ข้อความ Error “The computer case is open!, Please make sure the computer case is closed properly, then press CTRL + ALT + DEL to continue.” คือการแจ้งเตือนจากฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยที่เรียกว่า Chassis Intrusion (ตรวจจับการเปิดเคสเครื่องคอมพิวเตอร์) ระบบจะมองว่าเคสถูกเปิดหรือมีการงัดแงะ จึงหยุดการบูตปกติและขึ้นข้อความเตือนพร้อมสถานะ Fatal Error จนกว่าผู้ใช้จะยืนยันหรือแก้ไข
ทำไม BIOS ถึงขึ้นข้อความนี้
สาเหตุหลักที่ทำให้ BIOS แสดงข้อความ “The computer case is open!” มีดังนี้
- เปิดฝาเคสจริง – เพิ่งถอดฝาเคสออกเพื่ออัพเกรด ทำความสะอาด หรือเปลี่ยนอุปกรณ์ภายใน ทำให้เซ็นเซอร์ Chassis Intrusion ตรวจจับว่าเคสถูกเปิด
- สายเซ็นเซอร์ที่เคสหรือเมนบอร์ดหลุด – เคสบางรุ่นมีสวิตช์หรือสายสำหรับ Chassis Intrusion ต่อเข้ากับพินบนเมนบอร์ด หากสายหลุดหรือขั้วต่อไม่แน่น BIOS จะมองว่าเคส “เปิดอยู่ตลอดเวลา”
- เปิดฟังก์ชัน Chassis Intrusion แต่เคสไม่มีเซ็นเซอร์ – เมนบอร์ดหลายรุ่นเปิดโหมดตรวจจับเคสไว้เป็นค่าเริ่มต้น ทั้งที่เคสที่ใช้งานไม่มีสวิตช์หรือสายเชื่อมต่อ ทำให้ BIOS ฟ้องเตือนผิด ๆ ทุกครั้งที่เปิดเครื่อง
- ค่าระบบ BIOS/CMOS เพี้ยนหรือถูกรีเซ็ต – หลังจากถอดแบตเตอรี่เมนบอร์ด ไฟตก หรือ Clear CMOS ระบบอาจมองว่ามีการเปิดเคสและบันทึกสถานะ Chassis Intrusion ไว้
ขั้นตอนตรวจเช็คทางกายภาพของเคส
ก่อนแก้จากเมนู BIOS แนะนำให้ตรวจสอบเคสเครื่องคอมพิวเตอร์ก่อนว่าไม่มีปัญหาจริง ๆ
- 1) ปิดเครื่องให้สนิทและถอดปลั๊กไฟออกจากเต้ารับทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย
- 2) ตรวจดูให้แน่ใจว่าฝาเคสทั้งสองด้านปิดสนิท ล็อกด้วยน็อตหรือสลักเรียบร้อย
- 3) เปิดฝาเคสเพื่อตรวจสอบภายใน (หลังจากถอดปลั๊กแล้ว) ว่ามีสายใดหลุดหรือไม่ โดยเฉพาะบริเวณที่เขียนว่า Chassis Intrusion (Chassis Intrusion Header) หรือ CHA_IN บนเมนบอร์ด
- 4) หากพบว่ามีสายเซ็นเซอร์ต่อเข้าพินดังกล่าว ให้เสียบให้แน่นหรือจัดสายไม่ให้ตึงจนดึงหลุดได้ง่าย
- 5) ถ้าเคสที่ใช้ไม่มีสวิตช์หรือสายเซ็นเซอร์เลย แต่เมนบอร์ดมีหัว Chassis Intrusion แสดงว่าควรไปปิดฟังก์ชันนี้ใน BIOS แทน
วิธีปิดหรือรีเซ็ตการเตือนใน BIOS (ตัวอย่าง ASUS)
สำหรับเมนบอร์ด ASUS (หรือแบรนด์อื่นที่มีเมนูใกล้เคียงกัน) สามารถปิดการเตือน Chassis Intrusion ผ่าน BIOS ได้ตามแนวทางนี้
- 1) เปิดเครื่องแล้วกดปุ่ม DEL (Delete) หรือ F2 ค้างสั้น ๆ ระหว่างโลโก้เริ่มต้นเพื่อเข้าสู่ BIOS Setup (BIOS Setup)
- 2) ไปที่แท็บ Advanced (Advanced) หรือ Monitor (Monitor) ขึ้นอยู่กับรุ่นเมนบอร์ด
- 3) มองหาตัวเลือกชื่อ Chassis Intrusion (Chassis Intrusion) หรือ Chassis Intrusion Detection (Chassis Intrusion Detection)
- 4) เปลี่ยนค่าจาก Enabled (Enabled) เป็น Disabled (Disabled) เพื่อปิดการตรวจจับการเปิดเคส
- 5) ถ้ามีตัวเลือก Reset Chassis Intrusion (Reset Chassis Intrusion) ให้เลือกรีเซ็ตเพื่อล้างประวัติการเตือนที่ถูกบันทึกไว้
- 6) กด Save & Exit (Save & Exit) เพื่อบันทึกค่าการตั้งค่าและรีสตาร์ตเครื่อง
กรณีที่ยังต้องการให้ระบบเตือน แต่ไม่อยากให้บูตค้าง
หากคุณต้องการเก็บฟังก์ชันเตือนการเปิดเคสไว้ แต่ไม่อยากให้เครื่องหยุดค้างทุกครั้งที่มีการบันทึกการเปิดเคส สามารถตั้งค่าบางเมนบอร์ดให้เพียงแค่บันทึก Log โดยไม่หยุดการบูตได้ (ถ้ามีตัวเลือก) โดยมองหาเมนูลักษณะดังนี้
- Chassis Intrusion Mode (โหมด Chassis Intrusion) – ปรับจาก Halt On (หยุดเมื่อมีการเตือน) เป็น Log Only (บันทึกอย่างเดียว)
- Event Log (บันทึกเหตุการณ์) – เปิดให้ระบบบันทึกการเปิดเคส แต่ไม่ใช้เป็นเงื่อนไขหยุดการบูต
สรุปแนวทางจัดการ Error “The computer case is open!”
โดยสรุป Error “The computer case is open!” ไม่ได้บ่งชี้ถึงความเสียหายของฮาร์ดแวร์หลักอย่าง CPU, RAM หรือ SSD แต่เกี่ยวข้องกับระบบตรวจจับการเปิดเคสของเมนบอร์ดเป็นหลัก วิธีจัดการคือ
- ตรวจสอบว่าฝาเคสปิดสนิท และสายเซ็นเซอร์ (ถ้ามี) เสียบกับพิน Chassis Intrusion บนเมนบอร์ดอย่างแน่นหนา
- หากเคสไม่มีเซ็นเซอร์ ให้เข้า BIOS แล้วปิดฟังก์ชัน Chassis Intrusion (Chassis Intrusion / Chassis Intrusion Detection) ด้วยการตั้งค่าเป็น Disabled
- รีเซ็ตสถานะการเตือนผ่านตัวเลือก Reset Chassis Intrusion (Reset Chassis Intrusion) หรือฟังก์ชันใกล้เคียง หากมีให้ใช้
- บันทึกค่าและรีสตาร์ตเครื่อง จากนั้นตรวจสอบว่าข้อความ Error ไม่ขึ้นอีกในระหว่างการบูต
เมื่อทำตามขั้นตอนเหล่านี้แล้ว เครื่องจะสามารถบูตเข้าสู่ระบบปฏิบัติการได้ตามปกติ โดยไม่ติดหน้าจอ Error “The computer case is open!” อีกต่อไป