Internet of Things (IoT) คืออะไร มีประโยชน์อะไร

ช่วงนี้หลายท่านคงได้เจอกับคำว่า ” Internet of Things” กันมาบ้าง หรือบ้างที่อาจะเรียกว่า “Internet of Everything” หรือ Machine to Machin หลายคนอาจจะส่งสัยว่ามันคืออะไร แล้วมันมีความสำคัญและประโยชน์อะไร วันนี้ผมมีเรื่องน่ารู้มาอธิบายให้เข้าใจกันแบบสั้นๆครับ

Internet of Things คืออะไร

ในยุคที่อะไรก็มีการเชื่อมต่อกันตลอดเวลา (ตัวเราเองที่ใช้สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ต่อเน็ต ก็เชื่อมต่อกันใน World Wide Web หรือตำแหน่งที่ตั้ง หรือบริการอื่นๆ) การเชื่อต่อกันนี้มีข้อดี ที่หลายคนคิดไม่ถึงว่า หากให้อุปกรณ์ต่างๆ สามารถเชื่อมต่อกันได้ และสามารถบอกหรือรายงานข้อมูลไปยังอุปกรณ์อื่นๆได้ นั้นหมายถึงการรายงานการทำงาน สถานที่ตั้ง สภาวะ และอื่นๆได้ จะเป็นอย่างไร นั้นจึงเกิดสิ่งที่เรียกว่า “Internet of Things” ขึ้นมา

ก่อนจะพูดถึง Internet of Things เรามารู้จักกับ เทคโนโลยี RFID กันก่อนดีกว่า หลายคนคงเคยดูสารคดีที่มีการติดเครื่องติดตามสัตว์ต่างๆ สิ่งเหล่านั้นเรียกว่าเทคโนโลยี RFID ที่สามารถติดตามสัตว์ได้ว่าอยู่ตรงไหน ทำอะไร วันหนึ่งเดินทางเท่าไหร่ และอื่นๆ หลักการของมันคือการฝังชิปที่มีความสามารถต่างๆลงไปที่ส่วนหนึ่งของสัตว์ เพื่อสังเกตการณ์ดังที่ยกตัวอย่างมา

เทคโนโลยีดังกล่าวถูกนำไปใช้กับอุปกรณ์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการ การคมนาคม การขนส่ง การกีฬา และต่างๆมากมาย หลักการคือเพื่อสังเกตการณ์ เก็บสถิติ หรือต่างๆ และสามารถส่งข้อมูลต่างๆ กลับมายังเครื่องมือที่ใช้ในการรับข้อมูลได้

Internet of Things คำนี้ก็จะแปลได้ประมาณว่า อินเทอร์เน็ตของสิ่งของ ที่ทำให้มันเชื่อมต่อกัน และตอนนี้การใช้งาน Internet of Things มีส่วนที่ใช้กันแพร่หลาย เพราะการะบุตัวตนในสิ่งของหรือวัสถุอื่นๆ เพื่อจุดประสงค์ต่างๆ จะเป็นการเชื่อมต่อทุกสิ่งเอาไว้ด้วยกัน อีกหน่อย เราจะสามารถทราบได้ว่า สุนัข แมว หรือสัตว์เลี้ยงของเราไปเล่นซนอยู่ตรงไหน รถยนต์สามีขับไปไหนและอยู่ไหนตอนนี้ กระเป๋าสตางค์หายไปวางไว้ตรงไหน หรือแม้แต่ติดเจ้าสังเกตการณ์สถานที่อื่นๆ ที่เป็นขนาดใหญ่กว่านั้นเช่นบ้าน เอาไปติดวัสสภาพอากาศในกรณีอยากรู้ว่าบ้านที่เชียงใหม่ตอนนี้มีอากาศเป็นอย่างไร (ในกรณีอยู่กรุงเทพ)

สำหรับตอนนี้เทคโนโลยีของ ชิปที่ใช้งานกับ Internet of Things เริ่มฉลาดมากขึ้นเลื่อยๆ เพราะมีผู้พัฒนารายใหญ่เข้ามาร่วมวงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Intel, Qualcomm หรือแม้แต่ Samsung ที่เพิ่งเปิดตัว Artik ไปเมื่อเร็วๆนี้