
Apple Watch Series 3 เข้าไทยแน่นอนแล้ว สาวกเตรียมแคะกระปุกได้เลย……
ได้รับการอัพเดทข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ของ กสทช ว่า Applw Watch Series 3 ผ่านการตรวจรับรองเรียบร้อยแล้ว จากภาพ A1972 ,A1969 , A1891 , A1889 คือรหัสหมายเลขรุ่นของของ Apple Watch Series 3 (LTE) นั่นเอง ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดเราก็คงจะมีโอกาสได้เป็นเจ้าของกันในราวๆช่วงต้นปี 2018 อย่างแน่นอนครับ
Apple Watch Series 3 ที่เรากำลังจะได้เห็นตัวเป็นๆในอีกไม่ช้านี้จะเป็นรุ่นที่มี GPS + Cellular โดยจะสามารถเชื่อมต่อเครื่อข่ายโทรศัพท์ระบบ 4G LTE ไม่จำเป็นที่จะต้องเชื่อมต่อกับ IPhone แต่อย่างใด เท่าที่ผ่านหูผ่านตามาบ้างแล้วก็คงจะเป็นค่าย True ที่เตรียมจ่อเปิดตัวอยู่ยิกๆ แต่มีจุดนึงที่ตัวผู้เขียนเองยังหาคำตอบไม่ได้ก็คือ Apple Watch Series 3 ต้องเชื่อมเครือข่ายมือถือผ่านทางเทคโนโลยีใหม่ชื่อว่า Remote SIM Provisioning (RSP) หรือ embedded SIM (eSIM) เป็นซิมการ์ดแบบฝังในตัวอุปกรณ์ ซึ่งรูปแบบนี้ยังไม่มีให้บริการในไทย ณ เวลานี้
eSIM คือซิมการ์ดแบบใหม่ขนาดเล็กฝังในอุปกรณ์เลย ส่งผลให้อุปกรณ์ถอดเปลี่ยนซิมการ์ดไม่ได้ แต่ก็มีข้อดีไม่เปลื้องพื้นที่ ทำให้ มีพื้นที่สำหรับใส่ฟีเจอร์เพิ่มเติมได้มากขึ้น
เข้าใจเรื่องซิมกันไปแล้วทีนี้มาลองดูสเปกของเจ้า Apple Watch Series 3 กันบ้างดีกว่าครับ
- ระบบปฏิบัติการ watchOS 4
- ระบบเซลลูลาร์ก็จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถต่อติด โทรออก รับข้อความ และทำสิ่งอื่นๆ อีกมากมาย
- โปรเซสเซอร์แบบ Dual-core
- GPS , WIFI , BlueTooth
- ใช้จอภาพเป็นตัวรับส่งสัญญาณ LTE และ UMTS
- กันน้ำที่ 50 เมตร
- เครื่องวัดระดับความสูงสัมพัทธ์จากความกดอากาศ
- ลำโพงในตัว
- สตรีมเพลงจาก Apple Musicโดยตรง
- วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
- วิทยุ
- ตัวเรือนสองขนาด ได้แก่ 38 มม. และ 42 มม
- ตัวเรือนอะลูมิเนียมสีเงิน , สีเทาสเปซเกรย์ , สีทอง และ ตัวเรือนสแตนเลสสตีลสีเงินหรือสีดำสเปซแบล็ค
- สายแบบ Woven Nylon , สายแบบ Sport Loop
- ราคาเริ่มต้นที่ 11,900 บาท
เว็บไซต์ต่างประเทศหลายๆเว็บก็เริ่มมีการทำรีวิวเจ้า Apple Watch Series 3 กันออกมาบ้างแล้วนะครับ จากการเข้าไปพยายามอ่านอยู่เกือบ2วันก็ทำให้ได้ข้อสรุปออกมาว่า
- ราคาสูงเกินไป
- ไม่แนะนำรุ่น LTE เนื่องจากปัญหาแบตเตอรี่หมดไว
- การออกแบบเหมือนกับ Series 2 มองแล้วแทบไม่แตกต่างกัน
- ทดสอบการคุยโทรศัพท์ผ่าน LTE ใช้งานได้เพียง 1 ชั่วโมง
- ถ้าใช้ LTE แบตเตอรี่จะลดเร็วมาก แต่หากไม่ได้ใช้งานเลยแบตเตอรี่ก็เหลือค่อนข้างเยอะ
ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นข้อติ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อดีเอาเสียเลยนะ
- การออกแบบสวยงาม แข็งแรง และฟีเจอร์การออกกำลังกายทำออกมาได้ดีมาก
- การเชื่อมต่อเครือข่ายมือถือทำงานได้ดี ทั้งโทรศัพท์, อีเมล, Siri
- ประทับใจแบตเตอรี่มาก ใช้งานตลอดทั้งวันยังเหลือถึง 40%
เอาเป็นว่าเอาเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเล็กๆน้อยก็แล้วกันครับ ส่วนตัวเชื่อว่าถึงจะมีข้อติที่ค่อนข้างเยอะ แต่หากใครเป็นสาวกของ Apple อยู่แล้วที่กล่าวมาก็คงไม่ใช่ปัญหาอย่างแน่นอน ปัญหาเพียงข้อเดียวของบรรดาสาวกก็คือ “เงิน” เท่านั้นจริงๆครับ บาย……..
เครดิต : www.apple.com/th
: nbtc.go.th