วิธีถนอมแบตเตอรี่ iPhone การชาร์จแบตไอโฟนที่ถูกต้อง

ใช้ iPhone อย่างไรให้แบตเตอรี่อยู่กับเราได้นานที่สุด

บทความนี้จะพูดถึงเรื่องของสุขภาพแบตเตอรี่ของ iPhone ที่จะมีผลเรื่องของพลังงานในการใช้งานเครื่อง เพราะหากสุขภาพแบตเตอรี่เหลือน้อย นั้นหมายความว่าความจุก็จะลดลงไป ระยะเวลาในการใช้งานเครื่องก็จะสั้นลง หลายคนจึงอยากทราบว่าการใช้งาน iPhone ที่ถูกวิธีควรทำอย่างไร ที่จะถนอมแบตเตอรี่ iPhone ให้แบตเตอรี่ไม่เสื่อมเร็ว https://www.modify.in.th/31994

ความรู้เกี่ยวกับเรื่องแบตเตอรี่ ที่จำเป็นต้องรู้

แบตเตอรี่มือถือที่เราใช้กันใจปัจจุบันจะเป็นแบบ Lithium-ion battery หรือ Li-Ion เป็นแบตเตอรี่ชนิดชาร์จซ้ำได้ ด้วยคุณสมบัติที่สามารถชาร์จซ้ำได้ ไม่ต้องรอให้แบตเตอรี่หมด หรือชาร์จจนเต็ม และไม่ต้องถอดปลั๊กออกเมื่อชาร์จเต็มร้อย ไฟจะไม่เข้าแบตเตอรี่หากแบตเต็มแล้ว ทำให้ไม่เกิดอาการโอเวอร์ชาร์จ จึงถูกนำมาใช้กับมือถือและอุปกรณ์พกพาอื่นๆ โดยปกติแล้วแบตเตอรี่จะมีค่าที่เรียกว่า Cycle คือรอบในการชาร์จแต่ละครั้ง เพื่อเป็นการกำหนดมาตรฐานระยะเวลาที่แบตเตอรี่จะเริ่มเสื่อมหลังครบรอบ Cycle ที่ทดสอบเอาไว้ โดยปกติแล้วแบเตอรี่สมาร์ทโฟนจะอยู่ที่ประมาณ 300-400 รอบบวกลบแล้วแต่ขนาด หากรอบ Cycle เกินไปกว่านั้นแบตเตอรี่จะเริ่มเสื่อมลง รอบ Cycle ที่นับกันในปัจจุบันจะเป็นรอบที่ชาร์ด 1-100% ตอบจริง กล่าวคือหากชาร์จ 2 ครั้ง ครั้งแรก 1-50% ครั้ง 2 ชาร์จจาก 50-100% จะนับเป็น 1 Cycle นี้คือค่ามาตรฐานและเหตุผลหนึ่งข้อที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อม ไม่ว่าคุณจะถนอมอย่างไร

แต่ถึงมีมาตรฐาน Cycle อยู่แล้ว แต่รูปแบบการใช้งานรวมถึงสิ่งสิ่งเร้าอื่นๆอาจส่งผลให้แบตเตอรี่มีกำหนดเสื่อมช้าหรือเร็วอีกด้วย และนี้เป็นเหตุผลที่หลายคนอยากจะทราบว่าเราควรใช้แบตเตอรี่อย่างไรให้ถนอมแบตเตอรี่ได้มากที่สุด ให้ยืนอายุของสุขภาพแบตเตอรี่ได้นานออกไปก่อนที่จะเสื่อม

วิธีถนอมแบตเตอรี่ iPhone

1. การชาร์จแบตเตอรี่ให้ถูกวิธี ผลจากการวิจัยหลายที่ระบุชัดว่าแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน ค่าการชาร์จสูงสุดที่ดีที่สุดควรอยู่ที่ 80% จะมีอายุการใช้งานได้ยาวนานกว่าชาร์จเต็ม 100% และไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่หมดแล้วค่อยชาร์จ ค่าที่ต่ำที่สุดที่ควร ควรไม่ต่ำกว่า 20% ก็ควรชาร์จแบตเตอรี่ได้แล้ว กล่าวคือไม่ควรชาร์จเกิน 80% และไม่ควรให้ต่ำกว่า 20% นั้นเอง
2. เปิดใช้งาน การชาร์ดเพื่อถนอมแบตเตอรี่ ใน iPhone ทุกรุ่นจะมีฟีเจอร์นี้อยู่ให้ไปที่ตำแหน่ง การตั้งค่า > แบตเตอรี่ > สุขภาพแบตเตอรี่ การเปิดโหมดนี้จะทำให้คุณช้าแบตเตอรี่ช้าลงหลังแบตเตอรี่มีมากกว่า 80% แล้ว ตามทฤษฎีจากข้อ 1 ด้วยเหตุผลนี้ Apple จึงมีวิธีเรียนรู้รูปแบบการใช้งานเครื่องของเราในแต่ละวัน ปรับการชาร์จแบตเตอรี่ให้พอดีกับที่เราใช้งานในแต่ละวัน กล่าวคือเครื่องอาจจะไม่ยอมชาร์จให้เต็ม 100% หากเรียนรู้ว่าเราไม่ได้ใช้งานเครื่องในช่วงเวลานั้น หรือจะใช้โหมดชาร์จเร็วในช่วงที่แบตเตอรี่ต่ำกว่า 80% และปรับเป็นโหมดถนอมแบตเตอรี่ขณะชาร์จหลังจากที่ถึง 80% แล้วโดยการประจุการชาร์จลง เพื่อให้แบตเตอรี่ไม่ร้อนมากขณะชาร์จ
   
3. ไม่ควรทำให้เครื่องร้อนขณะชาร์จบ่อยๆ โดยปกติแล้ว หากเราชาร์จแบตเตอรี่หากเราเริ่มจาก 0% หรือเปอร์เซ็นต์แบตน้อยๆ เครื่องมักจะร้อนขณะชาร์จหรือชาร์จแบบเร็วจน 100% รวมไปถึงการใช้งานเครื่องหนักๆและชาร์จไปด้วย สิ่งเหล่านี้เพิ่มการภาวะการทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งหลักการทั้งหมดก็จะเป็นหลักการชาร์จที่กล่าวๆมาทั้งหมดนั้นเอง
4. ระดับแรงดันประจุไฟฟ้า แรงดันของการชาร์จก็มีผลต่อการเสื่อมของแบตเตอรี่ด้วยเช่นเดียวกัน โดยปกติแล้วอุปกรณ์พกพาอย่างมือถือจะมีระดับแรงดันประจุไฟฟ้าที่เป็นมาตรฐานของตัวมันเอง  ซึ่งหากใช้ต่ำกว่าหรือสูงกว่ามาตรฐาน ก็มีผลต่อจำนวนรอบ Cycle ด้วยเช่นเดียวกัน
5. ไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่หมด หากไม่ได้ใช้งานเครื่อง หลายคนเข้าใจผิดว่า ถ้าเราไม่ได้ใช้งานเครื่องมือถือไหน ให้รอให้แบตเตอรี่หมดแล้วปิดเครื่องไว้ จะช่วยถนอมเครื่อง แต่จริงๆแล้วไม่ใช้ และการชาร์จให้เต็ม 100% และเก็บเครื่องก็ไม่ใช้วิธีที่ถูกต้องด้วยเช่นเดียวกัน การเก็บเครื่องมือถือที่เราได้ใช้งานที่ดีที่สุดคือ ควรชาร์จให้แบตเตอรี่อยู่ในระดับประมาณ 50% ของความจุแบตเตอรี่ และควรนำออกมาชาร์จเป็นระยะ ให้อยู่ในระดับนี้อยู่เสมอ อาจจะทุก 3 เดือนหรือ 6 เดือน เพราะถึงคุณไม่ได้ใช้งานเครื่องแต่แบตเตอรี่จะเริ่มลดเองทีละนิดนั้นเอง

หัวใจหลักๆของการใช้งานแบตเตอรี่ที่สำคัญมักจะเป็นเรื่องการชาร์จ การชาร์จแบตเตอรี่ที่ดีที่สุดจริงๆควรอยู่ระหว่างตรงกลางคือ 50% กล่าวคือให้คิดตัวเลข 50% เป็นจุดศูนย์กล่างเอาไว้ การใช้งานแบตเตอรี่ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จหรือการใช้งาน ที่ดีที่สุดคือไม่ควรให้ห่างจากจุด 50% ไม่ว่าจะมากกว่าหรือน้อยกว่านั้นคือสิ่งที่ดีที่สุด แต่การใช้งานจริงๆ คงไม่สามารถมีใครใช้งานได้ นั้นเป็นที่มาของคำว่า ไม่ควรต่ำกว่า 20% และ 80% นั้นเอง แต่เอาจริงๆแล้ว ไม่ต้องกังวนเรื่องแบตเตอรี่มากขนาดนั้น เพราะการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ของ iPhone ก็ไม่ได้แพงมากอะไร ราคาประมาณ 2000 + – แล้วแต่รุ่น หากใช้เครื่องนานๆ กว่าแบตเตอรี่จะต่ำกว่า 85% อย่างน้อยๆก็น่าจะ 1-2 ปีแล้ว เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ก็ได้เหมือนใหม่แล้วเช่นเดียวกัน

80% – 85% คือตัวเลขของสุขภาพแบตเตอรี่ ที่ไม่ควรปล่อยให้ต่ำกว่านี้ กล่าวคือหากสุขภาพแบตเตอรี่ของคุณต่ำกว่า 80% ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้แล้ว ทางที่ดีไม่ควรให้ต่ำกว่า 85% เพราะแบตเตอรี่ที่ความจุน้อยลง บ่งบอกถึงแบตเตอรี่เครื่องของคุณอาจเริ่มเสื่อม หมดสภาพ อาจมีภาวะไม่พึ่งประสงค์เช่นอาการแบตเตอรี่บวม หรืออื่นๆ ในบางครั้งคุณอาจเห็นการแบตเตอรี่บวมปริออกมาจากตัวเครื่องเลย อาจสร้างความเสียหายเมื่อใช้งานเครื่องได้