ฟอร์แมตแฟลชไดร์ไม่ได้ The Disk Is Write Protected เกิดจากอะไรได้บ้าง แก้ไขเบื้องต้นอย่างไร

Flash Drive ฟอร์แมตไม่ได้ Format Write Protected USB ไม่สามารถ Format แฟลชไดร์ฟได้ ต้องทำอย่างไร

สำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ Windows และต้องการที่จะล้างแฟลชไดร์ฟโดยการ format แต่ไม่สามารถทำได้ อาจขึ้นข้อความ Format Write Protected  หรือ The media is write protected ไม่สามารถฟอร์แมตได้ ไม่ว่าจะทำอย่างไร ทำให้เกิดคำถามว่า ปัญหาเกิดจากอะไร และต้องตรวจสอบและแก้ไขต้องไหนได้บ้าง บทความนี้จะแนะนำวิธีแก้ไขต่างๆ หากคุณเจอปัญหาไม่สามารถ Format Flash Drive ได้

ปํญหาไม่สามารถฟอร์แมตแฟลชไดร์ และขึ้นข้อความ The Disk Is Write Protected หรือ The media is write protected ส่วนใหญ่มักเกิดจาก Windows ไม่สามารถเขียนทำหรือแก้ไขแฟลชไดร์ได้ เนื่องจากมีการป้องกันเอาไว้ ซึ่งการป้องกัน อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ส่วนสามารถจะมีอะไรบ้าง และแนวทางแก้ไข ต้องทำอย่างไรมาดูกัน

แฟลชไดร์มีระบบป้องกันการเขียนแบบ switch lock

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแฟลชไดร์ฟที่คุณใช้งานอยู่ไม่ได้มีปุ่ม Write protection switch เพราะบางรุ่นจะมีตัวล็อคและปลดล็อคการเขียนที่ตัวแฟลชไดร์ฟเอง หากอยู่ในสถานะ lock จะไม่สามารถเขียนหรือ format ได้

ไฟล์บางตัวในแฟลชไดร์ฟอาจป้องกันการเขียนไว้ทำให้ไม่สามารถ format ได้

ปัญหาการป้องกันไฟล์ read only บางไฟล์เอาไว้ อาจทำให้ไม่สามารถลบหรือ format แฟลชไดร์ฟได้ ให้ลองตรวจสอบไฟล์ทุกไฟล์ในเฟลชไดร์ฟ ว่ามีการป้องกันการเขียนไว้หรือไม่ โดยการคลิ๊กขวาที่ไฟล์นั้นๆแล้วเลือก Properties ตรวจสอบที่แถบ General หากมีติ๊กถูกที่ Read-only ให้เอาติ๊กถูกออก

แฟลชไดร์ฟมีไฟล์ไวรัส และถูกป้องกันการเขียนทับไว้

คอมพิวเตอร์ของคุณอาจติดไวรัส ซึ่งอาจแก้ไขหรือเพิ่มไฟล์พาหะ ลงไปแล้วตั้งค่าไฟล์ไว้ให้อ่านได้อย่างเดียว ทำให้ไม่สามารถแก้ไขแฟลชไดร์ฟได้ จะคล้ายๆกับปัญหาข้อด้านบน ปัญหาข้อนี้อาจต้องทำการสแกนไวรัสจากโปรแกรมสแกนไวรัสเสียก่อน และค่อยทำการแก้ไขไฟล์ลักษณะเดียวกันกับข้อด้านบน และอาจต้องตรวจสอบการแก้ไขไฟล์ระบบใน registry ด้วยว่ามีการเปิดระบบ WriteProtect เอาไว้ใน Windows Registry จำเป็นต้องแก้ไข

โดยการพิมพ์ regedit ที่ช่องรันเปิดหน้าต่างของ Registry Editor ขึ้นมาและไปยังตำแหน่ง

Computer\HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentControlSet\Control\StorageDevicePolicies

ตรวจสอบว่ามีคีย์ WriteProtect ด้านขวามือหรือไม่ หากมีให้ดับเบิ้ลคลิ๊แล้วปรับการตั้งค่าเป็น 0 (หากเป็น 1 คือทำงาน) และให้ restart คอมพิวเตอร์ 1 ครั้ง

การทำทั้งหมดนี้อาจจะไม่มีผลหรือคืนค่าการตั้งกลับไปเป็นแบบเดิม หากเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณยังคงติดไวรัสอยู่ ฉนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องของคุณไม่มีไวรัสแล้ว

ใช้คำสั่ง clear readonly ใน command prompt

หากไฟล์หรือแฟลชไดร์ฟของคุณไฟล์ต่างๆมีการตั้งค่าไว้แบบ read only ตั้งที่กล่าวไปแล้วทำให้ไม่สามารถแก้ไขใดๆได้ คุณสามารถใช้คำสั่งผ่าน command line โดยสั่งให้ clear readonly ออกได้ โดยสามารถทำได้ดังต่อไปนี้

พิมพ์ในช่องค้นหา cmd หรือ command prompt เมื่อปรากฏ Command Prompt ให้คลิ๊กขวาแล้วเลือก run as anministrator

เมื่อเปิดหน้า Command Prompt ขึ้นมาแล้วให้พิมพ์ Diskpart รอสักครู่จนกว่าจะอยู่ในสถานะ DISKPART> ให้พิมพ์ list disk ดังภาพด้านล่าง

จากภาพด้านบนจะเป็นการแสดง disk ทั้งหมดภายในเครื่อง ให้ตรวจสอบว่าแฟลชไดร์ฟของคุณเป็น Disk ไหน เมื่อทราบแล้วให้พิมพ์ select disk x ในส่วนของ x เป็นตัวเลขดีกส์แฟลชไดร์ฟชองคุณ ยกตัวอย่างเช่นเป็น Disk 3 ก็ให้พิมพ์ select disk 3 เป็นต้น หากพิมพ์ไปแล้ว enter ขึ้นข้อความ Disk 3 is now the selected disk. แสดงว่าเลือกดีกส์เรียบร้อยแล้วให้พิมพ์คำสั่ง

attributes disk clear readonly

ลงไปจะเป็นการเคลียร์ค่า read only ออกทั้งหมด

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่ได้เปิดใช้ BitLocker เอาไว้

BitLocker เป็นการเข้ารหัสไดร์ฟไม่ให้สามารถแก้ไขหรือหากต้องการแก้ไขต้องใส่รหัส ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้เปิดเอาไว้ หากเปิดเอาไว้ให้ทดลองปิด BitLocker ก่อน โดยการคลิ๊กขวาที่ไดร์ฟนั้นๆแล้วเลือก Properties หรือ show more option คุณจะเห็น BitLocker หากขึ้นสถานะ turn off BitLocker แสดงว่าคุณเปิดอยู่ ให้เลือกที่เมนูดังกล่าวและทำการแก้ไขให้ปิดเสีย หากขึ้นสถานะ Turn on BitLocker แบบภาพด้านล่างแสดงว่าปิด BitLocker แล้ว