มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับถ่านไฟฉายกันว่าควรเลือกซื้อและใช้งานแบบไหนดี
ถ่านไฟฉายหรือรีโมท เป็นสิ่งที่เราเห็นอยู่จนชินตา เพราะเราจำเป็นต้องใช้งานกับอุปกรณ์รอบตัวที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน บทความนี้จะพูดถึงเรื่องรายละเอียด ความรู้เกี่ยวกับถ่านที่เราใช้งานกันอยู่ ว่ามีกี่ชนิด และชนิดไหนใช้กับแบบไหนดี มาทำความรู้จักถ่านไฟฉายกันให้มากขึ้นกัน

บทความนี้จะขอพูดถึงเรื่องของถ่ายไฟฉายที่ใช้กันอยู่เป็นประจำ โดยหลักๆแล้วเราจะรู้จักถ่านไฟฉายอยู่ 2 ชนิดใหญ่ๆด้วยกันได้แก่
ถ่านคาร์บอน-ซิงค์ (Carbon-Zinc)

ถ่านคาร์บอน-ซิงค์ (Carbon-Zinc) เป็นถ่านแบบใช้งานครั้งเดียว (Primary Battery) ที่มีการใช้งานมายาวนานและยังคงมีความนิยมในปัจจุบันเนื่องจากราคาที่ถูก มีแรงดันไฟฟ้าประมาณ 1.5 โวลต์ต่อก้อน เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานต่ำ เช่น นาฬิกา ผิวหน้ารีโมทคอนโทรล หรืออุปกรณ์ที่ไม่ต้องการพลังงานสูง ถ่านแบบนี้เรามักจะเห็นได้ตามร้านค้าทั่วไป
ถ่านอัลคาไลน์ (Alkaline)

ถ่านอัลคาไลน์ (Alkaline Battery) เป็นถ่านแบบใช้งานครั้งเดียว (Primary Battery) ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเนื่องจากมีความจุพลังงานสูงและอายุการใช้งานยาวนาน เหมาะสำหรับการใช้งานในอุปกรณ์ที่ต้องการพลังงานปานกลางถึงสูง แรงดันไฟฟ้าประมาณ 1.5 โวลต์ต่อก้อน ความจุพลังงาน สูงกว่าถ่านคาร์บอน-ซิงค์ มีความจุพลังงานระหว่าง 1500-3000 mAh ขึ้นอยู่กับขนาดและรุ่น ใช้ได้ยาวนานและการสูญเสียพลังงานเองต่ำ ดีกว่าคาร์บอน-ซิงค์
ถ่านอัลคาไลน์ (Alkaline) กับ คาร์บอน-ซิงค์ อันไหนดีกว่ากัน
สำหรับการใช้งานกับรีโมทคอนโทรลหรือการใช้งานด้านอื่น ถ่านอัลคาไลน์ (Alkaline) และถ่านคาร์บอน-ซิงค์ (Carbon-Zinc) มีคุณสมบัติแตกต่างกัน และสามารถเลือกใช้งานตามความต้องการได้ ดังนี้
ถ่านอัลคาไลน์ (Alkaline)
- ข้อดี
- ความจุพลังงานสูงกว่า ทำให้ใช้งานได้นานกว่า
- การสูญเสียพลังงานเองต่ำกว่า เก็บรักษาพลังงานได้นานแม้ไม่ได้ใช้งาน
- อายุการใช้งานยาวนาน เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้งานบ่อย อายุการใช้งานอยู่ในช่วง 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งานและสภาพการเก็บรักษา
- ข้อเสีย
- ราคาแพงกว่า: มีราคาสูงกว่าถ่านคาร์บอน-ซิงค์
ถ่านคาร์บอน-ซิงค์ (Carbon-Zinc)
- ข้อดี
- ราคาถูกกว่า มีราคาต่ำกว่าถ่านอัลคาไลน์
- เหมาะสำหรับการใช้งานที่ไม่บ่อย ถ้าใช้งานรีโมทคอนโทรลไม่บ่อยนักก็อาจคุ้มค่า
- ข้อเสีย
- ความจุพลังงานต่ำกว่า ทำให้ต้องเปลี่ยนถ่านบ่อยขึ้นเมื่อใช้งานบ่อย
- การสูญเสียพลังงานเองสูงกว่า สูญเสียพลังงานได้มากกว่าหากเก็บรักษาเป็นเวลานาน
- อายุการใช้งานต่ำ ปกติประมาณ 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพการเก็บรักษา
สรุป : Alkaline มีข้อดีมากกว่า เพราะมีราคาที่แพงกว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพลังงาน อายุการใช้งาน การสูญเสียพลังงานที่น้อย แต่หากไม่ค่อยมีความจำเป็นได้ใช้ถ่านในอุปกรณ์นั้นๆ ถ่านคาร์บอน-ซิงค์ก็เป็นตัวเลือกที่ดี ถึงแม้ว่าอายุการใช้งานจะสั้นกว่า (อาจต้องมาเปลี่ยนถ่าน 1-3 ปีครั้งถึงแม้ไม่ได้ใช้งานเพราะมีการสูญเสียพลังงานเองมาก) แต่ก็มีราคาที่ถูกกว่า
ถ่านแบบชาร์จได้
ถ่านแบบชาร์จได้ที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบันไม่ใช่ถ่านคาร์บอน-ซิงค์หรืออัลคาไลน์ ถ่านแบบชาร์จได้มีการใช้เทคโนโลยีและสารเคมีที่แตกต่างกันไป โดยถ่านแบบชาร์จได้หลักๆ ที่มีการใช้งานทั่วไปมีดังนี้
นิกเกิล-เมทัลไฮไดรด์ (NiMH – Nickel-Metal Hydride)

- ลักษณะการใช้งาน แรงดันไฟฟ้า 1.2 โวลต์ เป็นถ่านแบบชาร์จได้ที่นิยมใช้มากที่สุดสำหรับอุปกรณ์ทั่วไป เช่น กล้องถ่ายรูป รีโมทคอนโทรล ของเล่น และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก
- ข้อดี
- มีความจุพลังงานสูงกว่าถ่าน NiCd
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า NiCd เพราะไม่มีแคดเมียมที่เป็นพิษ
- ข้อเสีย
- มีการสูญเสียพลังงานเอง (self-discharge) สูงกว่าถ่าน Li-ion
NiMH แบบชาร์จได้ส่วนใหญ่มีขายตามร้านสะดวกซื้อและร้านอิเล็กทรอนิกส์
ลิเธียมไอออน (Li-ion – Lithium-Ion)

- ลักษณะการใช้งาน ถ่านลิเธียมไอออน (Li-ion – Lithium-Ion) มีแรงดันไฟฟ้า (Voltage) ที่สูงกว่าถ่าน NiMH และถ่านแบบชาร์จได้ชนิดอื่น ๆ Nominal Voltage ประมาณ 3.6 – 3.7 โวลต์ต่อก้อน ใช้ในอุปกรณ์ที่ต้องการพลังงานสูง เช่น โทรศัพท์มือถือ แล็ปท็อป กล้องถ่ายรูป และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพา
- ข้อดี
- มีความจุพลังงานสูงมากและน้ำหนักเบา
- การสูญเสียพลังงานเองต่ำ ทำให้เก็บรักษาพลังงานได้นาน
- ข้อเสีย
- ราคาสูงกว่าถ่าน NiMH
- ต้องการวงจรป้องกันเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน เพราะอาจเกิดการระเบิดหรือไฟไหม้ได้หากใช้หรือชาร์จผิดวิธี
นิกเกิล-แคดเมียม (NiCd – Nickel-Cadmium)
- ลักษณะการใช้งาน ใช้ในอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต้องการพลังงานสูงและใช้งานต่อเนื่อง เช่น เครื่องมือไฟฟ้า ของเล่นรีโมทคอนโทรล
- ข้อดี
- มีความทนทานและใช้งานได้ยาวนาน
- ทนทานต่อการชาร์จผิดพลาดและการใช้งานหนัก
- ข้อเสีย
- มีแคดเมียมที่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม
- ความจุพลังงานต่ำกว่าถ่าน NiMH และ Li-ion
ลิเธียมโพลิเมอร์ (Li-Po – Lithium Polymer)
- ลักษณะการใช้งาน ใช้ในอุปกรณ์ที่ต้องการพลังงานสูงและต้องการความบางเบา เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต โดรน
- ข้อดี
- น้ำหนักเบาและมีความยืดหยุ่นในรูปทรง
- ความจุพลังงานสูง
- ข้อเสีย
- ราคาสูง
- ต้องการการดูแลและการชาร์จที่เหมาะสมเพื่อความปลอดภัย
ตัวเลือกถ่านแบบชาร์จได้อาจมี NiCd – Nickel-Cadmium และ Li-Po – Lithium Polymer แต่ไม่เป็นที่นิยมเท่ากับถ่าน NiMH และ Li-ion สำหรับการใช้งานทั่วไป ถ่าน NiMH และ Li-ion เป็นที่นิยมมากกว่าเนื่องจากมีความจุพลังงานสูงและมีข้อดีที่หลากหลายในการใช้งานในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
ไม่ควรใช่ถ่านชาร์จได้กับรีโมทคอนโทรล หรืออื่นๆ?
เรื่องนี้มีการพูดถึงเป็นวงกว้างเกี่ยวกับการนำถ่านแบบชาร์จได้มาใช้งานกับรีโมทไม่ว่าจะเป็น รีโมทแอร์ โทรทัศน์หรือๆ เรื่องนี้ก็ต้องบอกว่ามีส่วนจริงอยู่บ้าง เพราะถ่านที่ชาร์จได้ส่วนใหญ่ในตลาดจะมีแรงดันอยู่ที่ 1.2 โวลต์ต่อก้อน ต่างจากถ่านแบบใช้ครั้งเดียวแรงดันไฟฟ้า 1.5 โวลต์ต่อก้อน หากอุปกรณ์ไหนต้องการแรงดันไฟฟ้าที่มากกว่า 1 ก้อนความต้องการแรงดันไฟฟ้าก็จะยิ่งแตกต่าง ทำให้การทำงานอุปกรณ์ไม่เต็มประสิทธิภาพและอาจเกิดปัญหาได้ และส่วนสำคัญก็คือถ่านชาร์จได้บางชนิดเช่น NiMH มีการสูญเสียพลังงานเองสูง หมายความว่าถ่านจะค่อยๆ สูญเสียพลังงานเมื่อไม่ได้ใช้งาน ทำให้ต้องชาร์จบ่อยๆ
ถ้ารีโมทคอนโทรลของคุณต้องการแรงดันไฟฟ้าสูงและใช้พลังงานน้อย การใช้ถ่านอัลคาไลน์แบบใช้ครั้งเดียวอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่หากคุณต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายและลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ การใช้ถ่านชาร์จได้ก็ยังเป็นทางเลือกที่ดีเพียงต้องมั่นใจว่าเป็นถ่านที่มีคุณภาพสูงและเหมาะสมกับการใช้งานในรีโมทคอนโทรลของคุณ
ภาพประกอบจาก – panasonic.com
สามารถนำบทความไปเผยแพร่ได้อย่างอิสระ โดยกล่าวถึงแหล่งที่มา เป็นลิงค์กลับมายังบทความนั้นๆ บทความอาจมีการพิมพ์ตกเรื่องภาษาไปบ้าง ต้องขออภัย พยามจะพิมพ์ผิดให้น้อยที่สุด (ทำเว็บคนเดียวไม่มีคนตรวจทาน) บทความที่สอนเรื่องต่างๆ กรุณาอ่านบทความให้เข้าใจก่อนโพสต์ถาม ติดตรงไหนสามารถถามได้ที่โพสต์นั้นๆ
Leave a Reply