วิธีตั้ง User Account Windows 11 เป็น Administrator

การกำหนด User ใน Windows 11 ให้ได้สิทธิ์ Administrator

Administrator ใน Windows คือบัญชีผู้ใช้ที่มีสิทธิพิเศษมากที่สุดในการจัดการระบบปฏิบัติการ Windows บัญชีนี้มีสิทธิในการติดตั้งและถอนการติดตั้งโปรแกรม, เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าระบบ, จัดการผู้ใช้และบัญชีผู้ใช้ทั้งหมด รวมถึงสิทธิ์ในการเข้าถึงและแก้ไขไฟล์ทั้งหมดบนเครื่องคอมพิวเตอร์ การมีสิทธิ์ Administrator นั้นจะช่วยให้คุณสามารถควบคุมและปรับแต่งระบบ Windows ได้อย่างเต็มที่

โดยปกติแล้วเมื่อคุณเริ่มต้นใช้งานคอมพิวเตอร์หลังจากติดตั้ง Windows ระบบให้บังคับให้คุณสร้าง user ที่คุณสร้างขึ้นมาเอง 1 บัญชี และบัญชีนั้นจะได้สิทธิ์ Administrator ทันที สิทธิ์นี้เป็นสิทธิ์ที่ทำได้เกือบทุกอย่างภายใน Windows แล้ว คุณสามารถตรวจสอบสิทธิ์ของตัวเองได้ที่ Setting > Account ในหน้านี้จะมี status ระบุว่าตอนนี้คุณใช้สิทธิ์อะไรใน user ปัจจุบันของคุณ

แต่หากคุณเพิ่ม User ขึ้นมาใหม่ จำเป็นต้องกำหนดสิทธิ์ user ให้เป็น Administrator หากต้องการให้สามารถใช้งานเครื่องได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

• User ที่จะแต่งตั้ง Administrator ต้องมีสิทธิ์ Administrator
• Setting > Account > Other Account >
• เลือก user ที่ต้องการให้สิทธิ์ คลิก 1 ครั้งเพื่อแสดงเพิ่มเติม > เลือก Change account type
  
• เปลี่ยนสิทธิ์จาก Standard User เป็น Administrator
  

ดังที่กล่าวไปว่าสิทธิ์ Administrator ทำได้เกือบทุกอย่าง หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องใช้คำว่าเกือบทุกอย่าง จริงๆแล้ว Windows มีสิทธิ์อีก 1 สิทธิ์ที่เรียกว่า Built-in Administrator  เป็นสิทธิ์สูงสุดในระบบ User ของ Windows ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยอัตโนมัติเมื่อคุณติดตั้ง Windows บัญชีนี้มีสิทธิ์สูงสุดในการควบคุมและจัดการระบบทั้งหมดของเครื่อง โดยทั่วไป บัญชี Administrator นี้จะถูกปิดใช้งาน (Disabled) โดยค่าเริ่มต้น เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของระบบ เนื่องจากบัญชีนี้มีสิทธิ์เข้าถึงและควบคุมทุกอย่างบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ดังนั้นการเปิดใช้งานบัญชีนี้อาจเป็นความเสี่ยงต่อระบบของเราได้

Administrator กับ Built-in Administrator แตกต่างกันอย่างไร

โดยทั่วไป Built-in Administrator และ Administrator Account ที่คุณสร้างเอง จะมีสิทธิ์ในการจัดการระบบที่ใกล้เคียงกัน แต่มีบางสถานการณ์ที่ Built-in Administrator อาจมีสิทธิ์ที่สูงกว่าเล็กน้อยเนื่องจากเป็นบัญชีที่ Windows กำหนดมาโดยเฉพาะ

ความแตกต่างหลักที่อาจพบ

1. การควบคุมและการตั้งค่าเริ่มต้น
   • บัญชี Built-in Administrator จะไม่มีการควบคุมจาก User Account Control (UAC) โดยปกติบัญชีนี้สามารถทำการเปลี่ยนแปลงระบบโดยไม่ถูก UAC เตือน.
   • บัญชี Administrator ที่สร้างขึ้นเอง อาจยังคงถูก UAC เตือนเมื่อพยายามทำการเปลี่ยนแปลงระบบบางอย่าง.
2. ข้อจำกัดบางอย่าง
   • ในบางกรณีที่ระบบถูกล็อกหรือมีปัญหาทางเทคนิคที่บัญชี Administrator ที่สร้างขึ้นเองไม่สามารถแก้ไขได้ Built-in Administrator อาจเป็นบัญชีเดียวที่สามารถเข้าถึงและแก้ไขปัญหาได้
   • บางโปรแกรมหรือสคริปต์ที่ต้องการสิทธิ์สูงสุดอาจทำงานได้ดีกว่าเมื่อใช้ Built-in Administrator
3. การเข้าถึงโฟลเดอร์หรือไฟล์บางประเภท
   • มีบางสถานการณ์ที่ Built-in Administrator อาจมีสิทธิ์เข้าถึงไฟล์หรือโฟลเดอร์บางประเภทได้ง่ายกว่า บัญชี Administrator ที่สร้างขึ้นเอง

ในสถานการณ์การใช้งานปกติ ความแตกต่างนี้มักไม่เป็นที่สังเกตเห็นได้มากนัก บัญชี Administrator ที่สร้างขึ้นเอง ก็มักจะมีสิทธิ์เพียงพอสำหรับการจัดการและการทำงานบนระบบ แต่ถ้าคุณต้องการการควบคุมที่สูงสุดหรือต้องแก้ไขปัญหาที่เฉพาะเจาะจง บัญชี Built-in Administrator อาจมีประโยชน์มากกว่าในบางกรณี

วิธีเปิดใช้งาน Built-in Administrator

เราสามารถเปิด User Built-in Administrator ให้สามารถใช้งานได้โดยการไปที่

• เปิด “Local Users and Groups” (กด Win + R แล้วพิมพ์ lusrmgr.msc)
• คลิกที่ “Users”
• คลิกขวาที่ “Administrator” และเลือก “Properties”
• ยกเลิกการเลือกที่ “Account is disabled”
• คลิก “OK” เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง

หรือคุณจะใช้คำสั่งผ่าน Command Prompt ต้องใช้สิทธิ์ Administrator ในการสั่ง

net user administrator /active:yes

กล่องข้อความขอสิทธิ์ในบางครั้งที่จะทำอะไร

มื่อคุณได้รับข้อความ “Do you want to allow this app to make changes to your device?” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ User Account Control (UAC) ใน Windows และมีการร้องขอให้ใส่ user และ รหัสผ่าน นั่นหมายความว่าคุณต้องใส่ข้อมูลของบัญชีที่มีสิทธิ์ Administrator ในระบบของคุณ

จำเป็นต้องใส่อะไร

• User: ให้ใส่ชื่อบัญชีที่เป็น Administrator ซึ่งสามารถเป็นบัญชีที่คุณสร้างขึ้นเองที่มีสิทธิ์เป็น Administrator หรือ Built-in Administrator ก็ได้
• Password: ให้ใส่รหัสผ่านที่ตรงกับบัญชี Administrator ที่คุณเลือกใส่ในขั้นตอนแรก

คุณจำเป็นต้องใส่ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของบัญชีที่มีสิทธิ์ Administrator เพื่อให้ Windows สามารถดำเนินการตามที่ร้องขอได้.

หมายเหตุ: หากคุณเป็นผู้ใช้งานที่มีสิทธิ์ Administrator อยู่แล้ว (เช่น บัญชีที่คุณใช้อยู่ในขณะนั้นมีสิทธิ์นี้) คุณสามารถใช้ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของบัญชีนั้นได้เลย

นี้เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับบัญชีในระบบของ Windows 11 เกี่ยวกับสิทธิ์ Administrator หวังว่าจะทำให้คุณนำไปปรับใช้งานเพื่อใช้ประโยชน์ในการใช้งานต่อไป