Time and Well-being บน TikTok รวมเครื่องมืออย่างสมุดบันทึกเสริมกำลังใจ เสียงผ่อนคลาย แบบฝึกหายใจ และภารกิจ Well-being Missions เพื่อช่วยผู้ใช้โดยเฉพาะวัยรุ่นสร้างสุขภาวะดิจิทัลที่สมดุลมากขึ้น

TikTok เปิดพื้นที่ Time and Well-being ใหม่ช่วยผู้ใช้พัก รีเซ็ต และดูแลเวลาหน้าจออย่างมีสติ

TikTok ประกาศเปิดตัวพื้นที่ใหม่ชื่อว่า Time and Well-being บนแอป ตามประกาศอย่างเป็นทางการใน TikTok Newsroom เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถพัก รีเซ็ต และชาร์จพลังระหว่างใช้งานแพลตฟอร์มได้ดีขึ้น พื้นที่ใหม่นี้เข้ามาแทนหน้าจอการจัดการเวลาใช้งาน (screen time management page) แบบเดิม และเพิ่มเครื่องมือหลายอย่างที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนสุขภาวะดิจิทัลของชุมชน TikTok โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น

TikTok อธิบายว่า ผู้คนมาที่แพลตฟอร์มเพื่อค้นหาความสนใจใหม่ ๆ แรงบันดาลใจ และความบันเทิง พร้อมทั้งคลายเครียดจากคอนเทนต์อย่าง #JournalTok และ #NatureTok ซึ่งเติบโตขึ้นอย่างมากในปีที่ผ่านมา การเปิดตัว Time and Well-being จึงเป็นอีกก้าวหนึ่งของการทำงานด้านความปลอดภัยและสุขภาวะ เช่น ฟีเจอร์การทำสมาธิที่เปิดใช้กับบัญชีวัยรุ่นอัตโนมัติในเวลา 22.00 น การขยาย Well-being Missions และกองทุนด้านสุขภาพจิต รวมถึงเครื่องมือ Family Pairing สำหรับผู้ปกครอง

ภายใน Time and Well-being พื้นที่ใหม่นี้จะทำให้ผู้ใช้เข้าถึงเครื่องมือเพื่อการพักและการใช้งานอย่างมีสติได้ง่ายขึ้น โดยมีฟีเจอร์หลักใหม่หลายรายการ ได้แก่

• Affirmational journal สมุดบันทึกที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งเจตนาของวัน จดบันทึก และเลือกการ์ดข้อความเสริมกำลังใจ (affirmation cards) ได้มากกว่า 120 แบบ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดหรือแชร์ต่อให้ผู้อื่นได้
• Soothing sound generator เครื่องสร้างเสียงบรรยากาศ เช่น เสียงฝน เสียงคลื่น และเสียง white noise โดย TikTok ระบุจากข้อมูลสำรวจว่า ผู้ใช้ TikTok มีแนวโน้มฟังเพลงเพื่อช่วยให้นอนหลับหรือผ่อนคลายมากกว่าคนที่ไม่ใช้แพลตฟอร์ม
• Breathing exercises แบบฝึกหายใจอย่างมีสติในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ผ่อนคลายและจดจ่ออยู่กับปัจจุบัน

พื้นที่ใหม่นี้ยังรวบรวมวิดีโอจากครีเอเตอร์ที่ให้คำแนะนำในการใช้เครื่องมือด้านเวลาหน้าจอ การปรับแต่งฟีด For You และการใช้ Family Pairing อย่างมีประสิทธิภาพ โดย TikTok ร่วมงานกับครีเอเตอร์หลายรายเพื่อเปิดตัววิดีโอชุดแรก และมีแผนจะขยายให้ครอบคลุมครีเอเตอร์จากหลายประเทศมากขึ้นในอนาคต

ควบคู่ไปกับ Time and Well-being TikTok ยังประกาศเปิดตัว Well-being Missions ชุดใหม่ 4 ภารกิจ ซึ่งออกแบบมาเป็นกิจกรรมสั้น ๆ สนุก ๆ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้โดยเฉพาะวัยรุ่นสร้างนิสัยการใช้เทคโนโลยีอย่างมีเป้าหมายและมั่นใจ โดยแต่ละภารกิจจะให้ผู้ใช้ได้รับเหรียญตรา (badge) เป็นการเสริมแรงเมื่อทำได้สำเร็จ

• Sleep Hours Mission ภารกิจที่ให้ผู้ใช้เว้นระยะจาก TikTok ในเวลากลางคืน และสามารถเลือกทำสมาธิระหว่าง Sleep Hours เพื่อสะสมเหรียญตรา ภารกิจนี้ใช้เวลาต่อเนื่อง 8 สัปดาห์ และผู้ใช้จะได้ “ปลูกต้นไม้ Well-being tree” เป็นสัญลักษณ์ของความต่อเนื่องในการดูแลตัวเอง โดยแนวคิดนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากข้อเสนอของ TikTok Youth Council
• Daily screen time badge ภารกิจให้ผู้ใช้ตั้งขีดจำกัดเวลาใช้งาน TikTok รายวัน และพยายามปฏิบัติตามเป้าหมายเพื่อรับเหรียญตรา
• Weekly screen time Mission ภารกิจที่กระตุ้นให้ผู้ใช้เปิดดูรายงานเวลาใช้งานรายสัปดาห์ เพื่อสะท้อนและตระหนักถึงเวลาที่ใช้บนแพลตฟอร์มอย่างตั้งใจมากขึ้น
• Well-being Ambassador Mission ภารกิจที่ให้รางวัลผู้ใช้ที่ชวนผู้อื่นมาสำรวจและเข้าร่วม Well-being Missions เพื่อขยายวงของพฤติกรรมการใช้สื่ออย่างมีสติไปยังคนรอบข้าง

TikTok ระบุว่า ข้อมูลจากการทดสอบก่อนเปิดตัวอย่างกว้างขวางชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้กลับมาใช้งาน Time and Well-being บ่อยกว่าเมนูการตั้งค่าเวลาใช้งานแบบเดิม และฟีเจอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้คือสมุดบันทึก affirmational journal ซึ่งสะท้อนว่าผู้ใช้ต้องการพื้นที่สำหรับการจดบันทึกและตั้งใจดูแลตัวเองควบคู่ไปกับการเสพคอนเทนต์

หนึ่งในสมาชิก TikTok Youth Council อย่าง Tomáš Čermák วัย 19 ปี กล่าวว่า “In today’s online landscape, well-being has to be a priority” (ในโลกออนไลน์ทุกวันนี้ สุขภาวะต้องเป็นเรื่องสำคัญลำดับต้น ๆ) พร้อมมองว่าไอเดีย Time and Well-being แสดงให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่สามารถมีส่วนร่วมในการออกแบบประสบการณ์ดิจิทัลที่ดีขึ้นได้เมื่อได้รับพื้นที่และเครื่องมือที่เหมาะสม

ในด้านการเข้าถึง Time and Well-being สามารถเปิดได้จากหน้า Account Settings ของแอป TikTok และเพื่อให้ผู้ใช้เข้าไปยังพื้นที่นี้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ TikTok จะเพิ่มลิงก์นำทางเมื่อผู้ใช้แตะขีดจำกัดเวลาใช้งานรายวัน หรือเมื่อ Sleep Hours ถูกเปิดใช้งาน รวมถึงเพิ่มข้อความชวนในวิดีโอ Take A Break เพื่อให้ผู้ใช้รู้จักฟีเจอร์ใหม่นี้มากขึ้น

นอกจากนี้ TikTok ยังประกาศว่าจะมอบเงินจำนวน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ ให้กับ Tech Coalition SafeOnline Research Fund เพื่อสนับสนุนงานวิจัยอิสระด้านความสัมพันธ์ระหว่างเยาวชน การใช้เทคโนโลยี และสุขภาวะดิจิทัล โดยเป้าหมายคือให้การออกแบบฟีเจอร์บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ อิงกับหลักฐานเชิงวิทยาศาสตร์และความรับผิดชอบทางสังคมมากขึ้น

โดยรวมแล้ว การเปิดตัว Time and Well-being และ Well-being Missions ชุดใหม่สะท้อนว่าบทบาทของ TikTok ไม่ได้มีเพียงการมอบความบันเทิง แต่ยังรวมถึงการช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจและจัดการความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับเทคโนโลยีได้ดีขึ้น ผ่านเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อการพัก ผ่อนคลาย และสร้างนิสัยการใช้สื่ออย่างมีสติในระยะยาว

ที่มา: TikTok Newsroom