Windows 11/10 ขึ้นข้อความ Repair / Automatic Repair และให้เลือก Choose your keyboard layout คืออะไร แก้ไขอย่างไร

Windows Choose your keyboard layout thumbnail

ทำความเข้าใจหน้า Choose your keyboard layout ในโหมดซ่อม Windows และลำดับวิธีแก้จากง่ายไปยากเมื่อเครื่องบูตไม่ขึ้น


เมื่อเปิดเครื่องแล้วขึ้น Repair หรือ Automatic Repair แล้วพาเข้าหน้า Choose your keyboard layout นั่นคือ Windows ไม่สามารถบูตเข้าเดสก์ท็อปได้ตามปกติ ระบบจึงเข้าสู่ Windows Recovery Environment หรือ WinRE เพื่อให้ผู้ใช้เลือกผังแป้นพิมพ์ก่อนเข้าสู่เมนูซ่อมระบบและกู้คืนการบูต

Automatic Repair Windows 10

หน้าจอนี้ไม่ได้บอกว่าต้องลงใหม่ทันที แต่เป็นจุดเริ่มต้นของเครื่องมือแก้ปัญหาการบูต โดยสาเหตุที่ทำให้เข้าหน้านี้มีตั้งแต่ไฟล์บูตเสียหาย อัปเดตล้มเหลว ไฟดับขณะอัปเดต ไปจนถึงดิสก์เริ่มมี error

Windows Choose your keyboard layout

Choose your keyboard layout คืออะไร และควรเลือกอะไร

Choose your keyboard layout คือหน้าจอเลือกผังแป้นพิมพ์สำหรับใช้ใน WinRE เพื่อให้กดรหัสผ่าน พิมพ์คำสั่ง หรือใช้งานเมนูซ่อมได้ถูกต้อง

ให้เลือก US ในกรณีใช้คีย์บอร์ดทั่วไป เพราะจะตรงกับผังมาตรฐานที่เมนูซ่อมและคำสั่งส่วนใหญ่ใช้อ้างอิง และไม่กระทบข้อมูลในเครื่อง

สาเหตุที่พบบ่อยที่ทำให้ Windows เข้าสู่ Repair / Automatic Repair

  • บูตไม่สำเร็จหลายครั้งติดต่อกันจากไฟล์บูตหรือไฟล์ระบบเสียหาย
  • Windows Update ติดค้างหรือย้อนกลับไม่สมบูรณ์
  • ไฟดับ ไฟตก หรือกดปิดเครื่องค้างระหว่างอัปเดตหรือระหว่างที่ดิสก์กำลังเขียนข้อมูล
  • ไดรเวอร์หรือซอฟต์แวร์ระดับระบบทำให้บูตพังหลังรีสตาร์ต
  • SSD หรือ HDD มี error เริ่มเสื่อม ทำให้ไฟล์บูตอ่านไม่ได้บางช่วง

ลำดับการแก้ไขจากง่ายไปยากใน WinRE

หลังเลือก US ให้ไปที่ Troubleshoot แล้วทำตามลำดับนี้ โดยแต่ละขั้นมีผลลัพธ์ที่คาดหวังชัดเจน

ขั้นที่ 1 ใช้ Startup Repair เพื่อซ่อมการบูตอัตโนมัติ

  • เข้า Troubleshoot แล้วเลือก Advanced options
  • เลือก Startup Repair
  • รอระบบสแกนและซ่อมไฟล์บูต

ผลลัพธ์ที่คาดหวังคือเครื่องรีสตาร์ตและบูตเข้า Windows ได้ หากกลับมาหน้าเดิมหรือแจ้งว่าซ่อมไม่ได้ให้ไปขั้นถัดไป

ขั้นที่ 2 ถอนอัปเดตล่าสุดเมื่อเริ่มวนซ่อมหลังอัปเดต

  • เข้า Troubleshoot แล้วเลือก Advanced options
  • เลือก Uninstall Updates
  • เริ่มจาก Uninstall latest quality update
  • ถ้ายังไม่หายจึงค่อยลอง Uninstall latest feature update

ผลลัพธ์ที่คาดหวังคือบูตกลับเข้า Windows ได้ตามปกติ หากบูตได้ให้รอสักระยะก่อนกดอัปเดตซ้ำ และควรตรวจสอบว่ามีอัปเดตตัวเดิมวนล้มเหลวหรือไม่

ขั้นที่ 3 ใช้ System Restore หากมีจุดคืนค่าระบบ

  • เข้า Troubleshoot แล้วเลือก Advanced options
  • เลือก System Restore
  • เลือกจุดคืนค่าที่สร้างก่อนเริ่มมีอาการบูตไม่ขึ้น

ผลลัพธ์ที่คาดหวังคือระบบย้อนการเปลี่ยนแปลงระดับระบบกลับไปช่วงที่บูตได้ โดยโฟกัสที่ไฟล์ระบบ รีจิสทรี และไดรเวอร์

ขั้นที่ 4 เข้า Safe Mode เพื่อถอนไดรเวอร์หรือซอฟต์แวร์ที่ทำให้บูตพัง

  • เข้า Troubleshoot แล้วเลือก Advanced options
  • เลือก Startup Settings แล้วกด Restart
  • เลือก Safe Mode หรือ Safe Mode with Networking

ผลลัพธ์ที่คาดหวังคือเข้า Windows ได้แบบจำกัด จากนั้นให้ถอนสิ่งที่เพิ่งลงก่อนเกิดอาการ เช่น ไดรเวอร์การ์ดจอ ซอฟต์แวร์ปรับแต่งระบบ โปรแกรมแอนตี้ไวรัสบางตัว หรืออัปเดตที่เพิ่งติดตั้ง

ขั้นที่ 5 ใช้ Command Prompt ตรวจดิสก์และซ่อมไฟล์ระบบ

ใช้เมื่อวิธีอัตโนมัติไม่ผ่านหรือวนกลับหน้าเดิม โดยเป้าหมายคือเช็กความเสียหายของระบบไฟล์และความสมบูรณ์ของไฟล์ระบบ

  • เข้า Troubleshoot แล้วเลือก Advanced options
  • เลือก Command Prompt
  • ตรวจดิสก์ด้วย chkdsk บนไดรฟ์ระบบเพื่อหาและซ่อม error
  • ซ่อมไฟล์ระบบแบบออฟไลน์ด้วย sfc โดยชี้พาธ Windows ที่ถูกต้อง
  • ตรวจและซ่อมข้อมูลบูตด้วยเครื่องมือ bootrec หรือ bcdboot ตามสถานการณ์

ผลลัพธ์ที่คาดหวังคือบูตกลับเข้า Windows ได้ หากคำสั่งแจ้ง error ซ้ำหรือพบ bad sector ให้สงสัย SSD หรือ HDD

จุดที่ต้องระวังเพื่อไม่ให้ข้อมูลหาย

  • เมนูที่เสี่ยงข้อมูลหายคือ Reset this PC โดยเฉพาะตัวเลือก Remove everything
  • การใช้ Startup Repair ถอนอัปเดต System Restore Safe Mode ไม่ได้ล้างไฟล์ส่วนตัวเป็นหลัก
  • ถ้าต้องกู้ไฟล์ก่อนทำขั้นหนัก ให้ใช้ Safe Mode หรือ Command Prompt เพื่อคัดลอกข้อมูลออกก่อน

เมื่อไรควรสรุปว่า Windows เสียหนักจนต้องลงใหม่

  • Startup Repair ซ่อมไม่ได้และวนกลับหน้าเดิมทุกครั้ง
  • ถอนอัปเดตและ System Restore ไม่ช่วย และ Safe Mode เข้าไม่ได้
  • ไฟล์ระบบเสียหายมากจนสแกนแล้วไม่สามารถซ่อมได้

ผลลัพธ์คือจำเป็นต้องติดตั้ง Windows ใหม่ โดยควรสำรองข้อมูลก่อนถ้าทำได้

เมื่อไรควรสงสัยว่าเป็นปัญหา SSD หรือ HDD มากกว่าซอฟต์แวร์

  • ซ่อมแล้วหายชั่วคราวแล้วกลับมาวน Repair อีก
  • ลง Windows ใหม่แล้วอาการบูตไม่ขึ้นยังเกิดซ้ำ
  • ตรวจดิสก์แล้วพบ error หรือ bad sector บ่อย
  • เครื่องค้าง รีสตาร์ตเอง หรือบูตช้าผิดปกติแบบต่อเนื่อง

ผลลัพธ์คือควรตรวจสุขภาพดิสก์และพิจารณาเปลี่ยนดิสก์หากพบสัญญาณเสื่อมชัดเจน

สรุปแนวทางเลือกวิธีให้ตรงอาการ

  • เพิ่งอัปเดตแล้ววนซ่อม ให้เริ่มถอนอัปเดตก่อน
  • บูตไม่ขึ้นเฉย ๆ ให้เริ่ม Startup Repair ก่อน
  • เคยมี Restore point ให้ใช้ System Restore
  • ต้องการเข้าไปถอนของที่เพิ่งลง ให้ใช้ Safe Mode
  • ซ่อมอัตโนมัติไม่ผ่านและสงสัยดิสก์ ให้ใช้ Command Prompt ตรวจดิสก์และซ่อมระบบ
About modify 6548 Articles
สามารถนำบทความไปเผยแพร่ได้อย่างอิสระ โดยกล่าวถึงแหล่งที่มา เป็นลิงค์กลับมายังบทความนั้นๆ บทความอาจมีการพิมพ์ตกเรื่องภาษาไปบ้าง ต้องขออภัย พยามจะพิมพ์ผิดให้น้อยที่สุด (ทำเว็บคนเดียวไม่มีคนตรวจทาน) บทความที่สอนเรื่องต่างๆ กรุณาอ่านบทความให้เข้าใจก่อนโพสต์ถาม ติดตรงไหนสามารถถามได้ที่โพสต์นั้นๆ

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.