เปิดเว็บไซต์บางเว็บไซต์ไม่ได้ขึ้นข้อความ “ไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์นี้ได้” เกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไร
สำหรับผู้ใช้งาน Windows 10 หรือ Windows 11 และใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่ารเบราว์เซอร์และเกิดปัญหาไม่สามารถเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้ขึ้นข้อความ “ไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์นี้ได้” ทำให้เกิดคำถามว่าเป็นเพราะอะไร แก้ไขอย่างไร มาดูข้อสรุปของปัญหา วิธีตรวจสอบและแก้ไขเบื้องต้นกัน
ข้อความ Error ไม่สามารถเข้าได้แต่ละเบราว์เซอร์
- Google Chrome ไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์นี้ได้
- Microsoft Edge เอ่อ…ไม่สามรถเข้าถึงเพจนี้ได้
- Mozilla Firefox อืมม เรามีปัญหาในการค้นหาไซต์นั้น
ปัญหา ไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์นี้ได้ เกิดจากอะไรได้บ้าง
- ไม่มีเว็บไซต์นี้อยู่จริง คุณอาจพิมพ์ชื่อ URL นี้ผิดและไม่มีเว็บไซต์นี้อยู่จริง
- เว็บไซต์ดังกล่าวมีปัญหา เกิดปัญหาจากเว็บที่คุณกำลังจะเข้าใช้งาน
- การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีปัญหา ให้ตรวจสอบการเชื่อต่ออินเตอร์เน็ตของคุณว่ามีปัญหาหรือไม่ โดยการเข้าเว็บไซต์อื่นเพื่อตรวจสอบ
- DNS ของผู้ให้บริการมีปัญหา ในบางครั้งตัว DNS ของอินเทอร์เน็ตที่เราใช้งานอาจมีปัญหา ไม่สามารถรู้ว่าโดเมนที่เราเข้าใช้งาน IP Address อะไร อาจทำให้เกิดปัญหาเข้าใช้งานเว็บไซต์ไม่ได้ อาจต้องลองเปลี่ยน DNS ไปใช้ผู้ให้บริการรายอื่น วิธีเปลี่ยน DNS ของ Google
- เว็บไซต์ที่เข้าใช้งานไม่ปลอดภัย หรือมีปัญหาเรื่องใบรองรับ SSL ในบางครั้งถ้าเราใช้งานหรือเข้าเว็บไซต์ไม่ได้ อาจเกิดจากเว็บไซต์ที่เราเข้าใช้งานเบราว์เซอร์มองว่าไม่ปลอดภัย อาจทำให้ไม่สามารถเข้าใช้งานได้ ปกติแล้วถ้าเข้าไมได้ มันจะมีให้เลือก เพิ่มเติม เพื่อยอมรับความเสี่ยงและเข้าไปยังหน้าเว็บไซต์นั้นๆได้ แต่ให้ระวังเรื่องความปลอดภัย เพราะหากมีการป้องกันเอาไว้ แสดงว่าเว็บไซต์ดังกล่าวอาจเป็นอัตรายต่อระบบคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลของเราได้
หากเข้าเว็บไซต์อื่นแล้วเข้าได้ แต่เข้าเว็บไซต์บางเว็บไซต์ไม่ได้ และแน่ใจว่าพิมพ์ชื่อเว็บไซต์นั้นถูก แล้วเว็บไซต์นั้นเชื่อถือได้ อาจต้องดูเรื่องของการตั้งค่า DNS อาจมองไม่เห็นว่ามีโดเมนดังกล่าวอยู่จริง จะขึ้นข้อความ Error ประมาณว่า
- DNS_PROBE_FINISHED_NXDOMAIN ใน Google Chrome
- ERR_NAME_NOT_RESOLVED ใน Microsoft Edge
- Hmm. We’re having trouble finding that site. We can’t connect to the server at www.ชื่อเว็บไซต์.com ใน Mozilla Firefox
หากขึ้นข้อความในลักษณะด้านบนอาจแก้ปัญหาได้ดังต่อไปนี้
- รอให้ระบบ DNS Server ของผู้ให้บริการกลับมาทำงานปกติ ซึ่งอาจจะมีปัญหาในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
- เปลี่ยน DNS Server ของอินเทอร์เน็ตไปใช้ผู้ให้บริการรายอื่น
- ปิดและเปิดเร้าเตอร์ใหม่
- ลองปิด Automatically detect settings ใน Windows โดยไปที่ Setting > Network & Internet เลือกเมนู Proxy ด้านซ้ายมือและให้ลองปิด Automatically detect settings ดู
- ติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต
Leave a Reply